นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์มูลค่าการส่งออกไทยปี 2551 ว่า จะมีมูลค่าประมาณ 172 , 833 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 12.82 แต่เป็นการขยายตัวที่ชะลอจากปีที่ผ่านมา ที่ขยายตัวร้อยละ 18.09 ขณะที่ปัจจัยที่จะกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยนั้น ประการแรกคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก การแข็งค่าของเงินบาท ที่มีแนวโน้มแข็งค่าเพิ่มขึ้นจาก 34.52 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์ มาเป็น 33.5 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่สิ่งสำคัญคือราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ชะลอตัว
นายอัทธ์ ยังกล่าวอีกว่า จากการคาดการณ์มูลค่าการส่งออกปีนี้จะมีการชะลอตัวทุกตลาด โดยเฉพาะตลาดสำคัญของไทยอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น เพราะเศรษฐกิจของ 2 ประเทศดังกล่าวมีแนวโน้มชะลอตัวลงเช่นกัน และมิทิศทางที่ตลาดใหม่อย่างกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม จะเป็นตลาดที่ภาคส่งออกไทยให้ความสำคัญมากขึ้นในปีนี้
ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวอีกว่า ในส่วนปัจจัยบวกภายในปีนี้ ไทยจะได้ประโยชน์จากการที่สหรัฐฯ ยกเลิกการเก็บอากรทุ่มตลาด สินค้ากุ้งไทย ส่งผลให้ผู้ส่งออกกุ้งรายย่อยกลับมาส่งออกกุ้งไปสหรัฐฯ ได้อีกครั้ง รวมทั้งข้อดีของการเจเทปป้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ที่จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยให้เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อน
นายอัทธ์ ยังกล่าวอีกว่า จากการคาดการณ์มูลค่าการส่งออกปีนี้จะมีการชะลอตัวทุกตลาด โดยเฉพาะตลาดสำคัญของไทยอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น เพราะเศรษฐกิจของ 2 ประเทศดังกล่าวมีแนวโน้มชะลอตัวลงเช่นกัน และมิทิศทางที่ตลาดใหม่อย่างกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม จะเป็นตลาดที่ภาคส่งออกไทยให้ความสำคัญมากขึ้นในปีนี้
ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวอีกว่า ในส่วนปัจจัยบวกภายในปีนี้ ไทยจะได้ประโยชน์จากการที่สหรัฐฯ ยกเลิกการเก็บอากรทุ่มตลาด สินค้ากุ้งไทย ส่งผลให้ผู้ส่งออกกุ้งรายย่อยกลับมาส่งออกกุ้งไปสหรัฐฯ ได้อีกครั้ง รวมทั้งข้อดีของการเจเทปป้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ที่จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยให้เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อน