ชาวเคนยาจาก 2 ชนเผ่า ยังคงปะทะกันอย่างต่อเนื่อง และกำลังกลายไปสู่สงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบ หลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีของเคนยา เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ได้รับการประกาศให้ได้รับชัยชนะคือประธานาธิบดีมไว คิบาคิ ที่มาจากชนเผ่าที่ใหญ่ที่สุดในเคนยา ขณะที่คู่แข่ง ผู้นำพรรคฝ่ายค้านที่มาจากชนเผ่าที่เล็กกว่า เป็นผู้พ่ายแพ้ ทำให้ผู้สนับสนุนเขาออกมากล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้ง และออกมาก่อการจลาจลเพื่อประท้วงผลการเลือกตั้ง จนเกิดการปะทะกันขึ้นกับผู้สนับสนุนประธานาธิบดีคิบาคิ และเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคง ซึ่งขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 300 คน ในจำนวนนี้ 50 คน ถูกเผาทั้งเป็น ขณะเข้าไปหลบภัยอาศัยอยู่ในโบสถ์แห่งหนึ่ง ซึ่งผู้เสียชีวิตมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และเป็นส่วนหนึ่งของประชาชนจำนวนประมาณ 400 คน ที่หนีความตายเข้าไปอาศัยหลบภัยอยู่ในโบสถ์แห่งนี้
เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เหตุการณ์ก่อรัฐประหารที่ล้มเหลวเมื่อปี 2525 เป็นต้นมา และกลุ่มฝ่ายค้านประกาศจะเดินหน้าก่อความรุนแรงต่อไป จนกว่าประธานาธิบดีคิบาคิ จะประกาศยอมรับความปราชัยในการเลือกตั้ง และจะชุมนุมครั้งใหญ่ตามแผนที่วางเอาไว้ในวันพรุ่งนี้ โดยไม่ฟังข้อห้ามจากทางการ
เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เหตุการณ์ก่อรัฐประหารที่ล้มเหลวเมื่อปี 2525 เป็นต้นมา และกลุ่มฝ่ายค้านประกาศจะเดินหน้าก่อความรุนแรงต่อไป จนกว่าประธานาธิบดีคิบาคิ จะประกาศยอมรับความปราชัยในการเลือกตั้ง และจะชุมนุมครั้งใหญ่ตามแผนที่วางเอาไว้ในวันพรุ่งนี้ โดยไม่ฟังข้อห้ามจากทางการ