กทพ. เฉลิมฉลองเปิด “สะพานทศมราชัน” จัดงาน “มหกรรมสุขเต็มสิบ” ในวันที่ 10-19 ม.ค. 68 ชวนร่วมเดิน-วิ่ง บันทึกประวัติศาสตร์ และเพลิดเพลินกับ 5 ไฮไลต์ อิ่มฟิน ช้อปสนุก ชมวิวสวยครั้งสำคัญก่อนเปิดใช้งานจริง
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดงาน “มหกรรมสุขเต็มสิบ” เพื่อเฉลิมฉลองการเปิด “สะพานทศมราชัน” ตั้งแต่วันที่ 10 ถึง 19 มกราคม 2568 ระหว่างเวลา 16.00 - 22.00 น. ท่ามกลางวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามก่อนเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มกราคม 2568 นี้
“สะพานทศมราชัน” หรือที่คนเรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า “สะพานพระราม 10” เป็นสะพานคู่ขนานแห่งแรกของประเทศไทย (สะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9) ที่เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ และพื้นที่โดยรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเป็นโครงการฯ ที่ กทพ. เชื่อว่าสะพานแห่งนี้จะไม่เพียงเป็นโครงสร้างสำคัญ แต่ยังกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของเมืองไทยอีกด้วย
สำหรับการเปิดใช้สะพานทศมราชัน ประชาชนสามารถเชื่อมต่อการเดินทางได้ดังนี้
-ทิศทางขาเข้ากรุงเทพฯ สามารถใช้ทางขึ้นบริเวณด่านฯ สุขสวัสดิ์ ถนนสุขสวัสดิ์ เพื่อใช้งานสะพาน โดยสามารถวิ่งเข้าสู่ทางพิเศษเฉลิมมหานคร มุ่งหน้าบางนา - ดินแดง และทางพิเศษศรีรัช มุ่งหน้าแจ้งวัฒนะ - ถนนพระราม 9 บริเวณทางแยกต่างระดับบางโคล่
-ทิศทางขาออกกรุงเทพฯ สามารถใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานครและทางพิเศษศรีรัช ผ่านจุดเชื่อมต่อเข้ามาที่สะพานฯ บริเวณทางแยกต่างระดับบางโคล่ และลงที่ทางลง บริเวณด่านฯ สุขสวัสดิ์ ไปเพื่อถนนพระรามที่ 2 ได้
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า กทพ. ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงสุด จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสะพานทศมราชัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า ในพระมหากรุณาธิคุณครั้งนี้ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและสร้างประวัติศาสตร์ก่อนการเปิดใช้สะพานทศมราชัน กทพ. จึงมีการจัดงาน “มหกรรมสุขเต็มสิบ” เป็นเวลา 10 วัน
ด้านนายชาตรี ตันศิริ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและบำรุงรักษา) กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดสะพานทศมราชันถือเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับคนไทยทุกคน ซึ่งจะช่วยเสริมความสมบูรณ์ให้กับโครงข่ายทางพิเศษในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางและขนส่งสินค้าอย่างรวดเร็ว และเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งสะพานแห่งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ กทพ. ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย แต่ยังได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันด้วยเทคโนโลยีการก่อสร้างขั้นสูงสามารถรองรับการจราจรได้ถึง 8 ช่องจราจร พร้อมโครงสร้างที่แข็งแรงรองรับแรงลมได้ถึง 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลก
สำหรับมหกรรมสุขเต็มสิบ ภายในงานจัดเต็มด้วยร้านอาหารเจ้าดัง การแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง พร้อมร่วมถ่ายภาพและเลือกชมสินค้า OTOP จากร้านค้าชุมชนและพันธมิตรกว่า 50 ร้านค้า และกิจกรรมพิเศษมากมาย โดย กทพ. ได้แนะนำ 5 ไฮไลต์กิจกรรมไม่ควรพลาดในงานดังกล่าว ได้แก่
1.เดินชมสะพานพร้อมถ่ายรูปครั้งประวัติศาสตร์ : ถือเป็นโอกาสพิเศษครั้งประวัติศาสตร์ก่อนเปิดใช้งานจริง กับการเดินชมสะพานทศมราชันจากมุมมองใหม่ พร้อมสัมผัสความงดงามท่ามกลางวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอันยิ่งใหญ่สวยงาม
2.เก็บโมเมนต์น่ารักกับจุดถ่ายรูป “น้องหมูเด้ง” : พิกัดถ่ายภาพเช็กอินที่ออกแบบมาเพื่อเป็นแลนด์มาร์กสุดพิเศษ สำหรับบันทึกและแบ่งปันความทรงจำดี ๆ
3.ชอปเพลิน : เต็มอิ่มกับร้านค้าและร้านอาหาร Food Truck ขนทัพสินค้าคุณภาพและร้านอาหารมากมายหลากหลายเมนูจากเจ้าดังและร้านชุมชนกว่า 50 ร้าน ให้ผู้ร่วมงานได้เดินชอปเพลิน ๆ และลิ้มลองความอร่อยกันแบบจุใจ
4.สุดฟิน Dinner กลางสะพาน : ร่วมสัมผัสประสบการณ์ดินเนอร์มื้อพิเศษ พร้อมวิวพระอาทิตย์ตกดินในบรรยากาศสุดโรแมนติกบนสะพาน
5. รับชมกิจกรรมดนตรีและการแสดงจากศิลปินชั้นนำ : สนุกสุดมันไปกับการแสดงและการเล่นดนตรีจากศิลปินมากมายตลอดงาน
ประชาชนที่มางานมหกรรมสุขเต็มสิบสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานบนสะพานที่จุดลงทะเบียน บริเวณพื้นที่ทางเข้า-ออก ใต้ทางพิเศษบริเวณทางแยกต่างระดับบางโคล่ และเตรียม “บัตรประชาชน” เพื่อความรวดเร็วในการลงทะเบียน
สำหรับผู้ที่นำรถยนต์ส่วนตัวมา ทาง กทพ. ได้เตรียม 3 จุดจอดรถสำคัญและบริการรถรับ-ส่งเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมงาน ดังนี้
1. ใต้ด่านบางโคล่ 2 รองรับรถยนต์ได้ 70 คัน
2. ใต้สะพานพระราม 9 รองรับรถยนต์ได้ 70 คัน
3. บริเวณจุดลงทะเบียนฝั่งตรงข้าม รองรับรถจักรยานยนต์ได้ 100 คัน
ผู้เข้าร่วมงานสามารถใช้บริการ Shuttle Bus ฟรี รับ-ส่งระหว่างจุดจอดรถและพื้นที่จัดงาน โดยมีตารางเวลาดังนี้
รอบรับ: 16.00 / 18.00 / 20.00 น. และรอบส่งกลับ: 17.00 / 19.00 / 21.00 / 23.00 น.
อย่างไรก็ดีเนื่องจากจุดจอดรถมีจำนวนจำกัด กทพ. จึงแนะนำให้ประชาชนวางแผนการเดินทางล่วงหน้า และ รณรงค์ให้ประชาชนเลือกใช้บริการ รถสาธารณะ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจร โดยมีตัวเลือกการเดินทางดังนี้
1. รถแท็กซี่ (ไม่ขึ้นทางพิเศษ)
o สามารถปักหมุดไปที่ จุดลงทะเบียนทางขึ้นสะพานทศมราชัน
2. รถแท็กซี่ (ขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร)
o หากมาจาก บางนา หรือ แจ้งวัฒนะ ให้ลงทางด่วนที่ ด่านบางโคล่ และปักหมุดไปที่
จุดลงทะเบียนทางขึ้นกิจกรรม
3. ป้ายรถเมล์ใต้ทางด่วนสาธุประดิษฐ์
o ลงรถเมล์ที่ ป้ายใต้ทางด่วนสาธุประดิษฐ์ ข้ามถนนไปยังฝั่งสาธุประดิษฐ์ (โดยไม่ต้องเข้าซอย) และเดินต่ออีกประมาณ 900 เมตร (ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที) ไปยัง จุดลงทะเบียนทางขึ้นกิจกรรม
4. โลตัส พระราม 3
o ลงรถโดยสารที่โลตัสพระราม 3 บริเวณริมถนนรัชดาภิเษก และต่อรถสาธารณะอื่น ๆ เพื่อเดินทางต่อไปยังจุดลงทะเบียนทางขึ้นกิจกรรม
5. การเดินทางจาก BTS / BRT และรถเมล์ และต่อรถสาธารณะอื่น ๆ เพื่อเดินทางต่อไปยัง จุดลงทะเบียนทางขึ้นกิจกรรม
o BTS ช่องนนทรี (S3): เชื่อมต่อกับ BRT สาธร และลงที่ สถานีเทคนิคกรุงเทพ
o รถเมล์สาย 102: ปากน้ำ – สาธุประดิษฐ์
o รถเมล์สาย 3-52: เซ็นทรัลพระราม 3 – หัวลำโพง
o รถเมล์สาย 67: วัดเสมียนนารี – สาธุประดิษฐ์
นอกจากนี้ กทพ. ยังเชิญชวนผู้สนใจร่วมกิจกรรมเดิน-วิ่งสร้างประวัติศาสตร์ บนสะพานทศมราชัน จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 ซึ่งจะเปิดให้ขึ้นสะพานตั้งแต่เวลา 03.00 น. และเริ่มปล่อยตัวนักวิ่งเวลา 05.00 น. ค่าสมัครคนละ 499 บาท โดยเปิดรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2568 ผู้สมัคร 10,010 คนแรก จะได้รับเสื้อ Finisher และ Top 100 ที่เข้าเส้นชัย จะได้รับเหรียญที่ระลึก ปี 2530 ปีที่เปิดสะพานพระราม 9 ทันทีหลังเข้าเส้นชัย สำหรับผู้ที่สมัครหลังจากนั้น ของที่ระลึกจะจัดส่งถึงบ้าน ภายใน 30 วันหลังจบงาน โดยผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครร่วมกิจกรรมเดิน-วิ่ง ได้ที่ : www.thai.run และ EXAT Call Center โทร. 1543 กด 7
นายอิทธิพล สมุทรทอง นักวิ่งระดับตำนาน ผู้เคยสร้างประวัติศาสตร์ในวันเปิดสะพานพระราม 9 ได้กล่าวเสริมว่า “เมื่อ 37 ปีที่แล้วในปี พ.ศ. 2530 ผมได้ร่วมวิ่งบนสะพานพระราม 9 ในวันที่เปิดใช้งานครั้งแรก ความภาคภูมิใจและความทรงจำในวันนั้นยังอยู่ในใจผมเสมอ วันนี้การได้เห็นสะพานทศมราชัน ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่และงดงาม ผมรู้สึกตื่นเต้นและเป็นเกียรติที่ได้ร่วมวิ่งอีกครั้งบนสะพานแห่งนี้ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่สะพาน แต่เป็นประวัติศาสตร์ที่คนไทยทุกคนจะได้มีส่วนร่วม ผมขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมกิจกรรมเดิน-วิ่งเพื่อสร้างความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิตด้วยกัน”
สำหรับงาน “มหกรรมสุขเต็มสิบ” ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเปิด “สะพานทศมราชัน” ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสสะพานแห่งนี้ในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งนอกจากจะเป็นอีกหนึ่งสะพานประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่สวยงามแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาของประเทศไทยในยุคปัจจุบันอีกด้วย