นอกจากสภาพแวดล้อมของเมืองที่สวยงามแล้ว การจะเป็นเมืองน่าอยู่ได้นั้นต้องมีอีกหลายปัจจัยร่วมด้วย และสำหรับในปี 2024 นี้ มีการจัดอันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก โดยอันดับแรกได้แก่ เวียนนา ประเทศออสเตรีย ตามมาด้วย โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก และ ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
รายการประจำปีจาก Economist Intelligence Unit (EIU) ได้รายงานผลการจัดอันดับ “เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก” จากจำนวนเมือง173 แห่งทั่วโลก ใช้ 30 ตัวชี้วัดใน 5 หมวดด้วยกัน ได้แก่ ความมั่นคงและปลอดภัยในชีวิต ระบบสาธารณสุข วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน
เมืองอันดับแรกที่ได้รับการจัดอันดับในครั้งนี้คือ “เวียนนา” เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย เมืองนี้อยู่ในอันดับต้นๆ มาเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้รับคะแนนยอดเยี่ยมเกือบทุกด้าน ยกเว้นด้านวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่มีการจัดมหกรรมกีฬาขนาดใหญ่
ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ “โคเปนเฮเกน” ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งอยุ่ในตำแหน่งเดิมเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และอันดับ 3 คือ “ซูริค” ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขยับขึ้นจากอันดับที่ 6 -ของปีที่แล้วมาอยู่ที่อันดับที่ 3 ของปีนี้
สำหรับรายชื่อ 10 อันดับแรกเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ประจำปี 2024 มีดังนี้
อันดับ 1 เวียนนา ประเทศออสเตรีย
อันดับ 2 โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
อันดับ 3 ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
อันดับ 4 เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
อันดับ 5 (ร่วม) คัลการี ประเทศแคนาดา
อันดับ 5 (ร่วม) เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
อันดับ 7 (ร่วม) ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
อันดับ 7 (ร่วม) แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา
อันดับ 9 (ร่วม) โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
อันดับ 9 (ร่วม) โอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์
ทางด้านภูมิภาคที่ได้คะแนนโดยรวมดีที่สุดคือ ยุโรป จากจำนวน 30 เมืองในยุโรปที่ได้คะแนนเฉลี่ย 92 จาก 100 คะแนน แต่ในรายงานได้ระบุว่าคะแนนดังกล่าวลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากมีการประท้วงและมีอาชญากรรมเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อคะแนนในด้านความมั่นคงและปลอดภัยในชีวิต ส่วนอันดับที่ 2 คือภูมิภาคอเมริกาเหนือ ได้คะแนนเฉลี่ย 90.5 จากคะแนนเต็ม 100 โดยมีคะแนนสูงสุดในด้านการศึกษา แต่วิกฤตเรื่องที่อยู่อาศัยในแคนาดา ได้ฉุดคะแนนด้านโครงสร้างพื้นฐานให้ตกลงมา
โดยวิกฤตด้านที่อยู่อาศัยนี้ รายงานจาก EIU ระบุว่าส่งผลกระทบต่อหลายภูมิภาค แต่มีความน่ากังวลเป็นพิเศษในออสเตรเลียและแคนาดา ซึ่งความพร้อมของอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าอยู่ในระดับต่ำตลอดเวลา และราคาซื้อยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้จะมีอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นก็ตาม
นอกจากนี้ ดัชนีความน่าอยู่ของ EIU เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพยังคงมีอยู่ อัตราเงินเฟ้อที่ยังสูงควบคู่กับอัตราดอกเบี้ยที่สูงและภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนอื่นๆ ส่งผลให้เกิดการประท้วงบ่อยครั้งทั่วโลกอีกปีหนึ่ง รวมถึงเหตุการณ์ความไม่สงบและการชุมนุมประท้วงมากขึ้นทั่วโลก เช่น การประท้วงในมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐอเมริกา บ่งชี้ว่าปัญหาเรื่องคุณภาพชีวิตยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่น่าจะบรรเทาลงในเร็วๆ นี้
และอีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ทิศทางที่สวนกันของประเทศกำลังพัฒนาและประเทศพัฒนาแล้ว โดยประเทศกำลังพัฒนา มีการปรับตัวที่ดีขึ้นในหลายเมือง จากการพัฒนาในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขและการศึกษา ส่วนประเทศพัฒนาแล้วกลับได้คะแนนลดลง โดยเฉพาะในด้านความมั่นคงและปลอดภัยในชีวิต และด้านโครงสร้างพื้นฐาน
เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเอเชีย
สำหรับในเอเชีย เมืองต่างๆ ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้านคะแนนความน่าอยู่ โดยเฉพาะ "ฮ่องกง" มีอัตราการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในด้านการศึกษา รวมถึงด้านความมั่นคง และสาธารณะสุข
ส่วนในกลุ่มประเทศเอเชีย-แปซิฟิกนั้น "สิงคโปร์" เป็นเพียงเมืองเดียวจากกลุ่มประเทศอาเซียนที่ติดอันดับท็อป 10 เมืองน่าอยู่ที่สุดในเอเชีย โดยได้คะแนนเต็ม 100 ในด้านสาธารณสุข
รายชื่อ 10 อันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเอเชีย
เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย (อันดับ 4 ของโลก)
ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย (อันดับที่ 7 ของโลก)
โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น (อันดับ 9 (ร่วม) ของโลก )
โอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ (อันดับ 9 (ร่วม) ของโลก)
แอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย (อันดับที่ 11 ของโลก)
โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (อันดับที่ 14 ของโลก)
เพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย (อันดับที่ 15 ของโลก)
บริสเบน ประเทศออสเตรเลีย (อันดับที่ 16 ของโลก)
เวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ (อันดับที่ 20 ของโลก)
สิงคโปร์ ประเทศสิงคโปร์ (อันดับที่ 26 ของโลก )
เมืองที่น่าอยู่อาศัยน้อยที่สุดในโลก
เมืองที่อยู่อันดับต่ำสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ เมืองในแอฟริกาใต้ซาฮารา ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ โดยดามัสกัส ประเทศซีเรีย และตริโปลี ประเทศลิเบีย เป็น 2 เมืองที่น่าอยู่อาศัยน้อยที่สุด หลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้
เมืองเคียฟในยูเครนได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่น่าอยู่น้อยเป็นอันดับ 9 ของโลก จากการที่ยังอยู่ระหว่างการสู้รบที่ดุเดือดกับรัสเซีย
ส่วน เทลอาวีฟ เมืองหลวงของอิสราเอล เป็นเมืองที่ตกอันดับอย่างรุนแรงที่สุด โดยตกลงมา 20 อันดับ มาอยู่ที่อันดับ 112 ของโลก เนื่องจากสงครามกับกลุ่มฮามาสยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline