ดราม่า! “อช.ลำน้ำกก” เดินหน้าฟ้องผู้จัดวิ่งเทรลเชียงราย วิ่งลุยป่าอุทยานฯยามวิกาลโดยไม่ขออนุญาต

อช.ลำน้ำกก (เตรียมการ) ประกาศเดินหน้าฟ้องผู้จัดวิ่งเทรลรายการดังของเชียงราย ที่เพิ่งจัดผ่านพ้นไปเมื่อ 22-23 มิ.ย. 67 โดยระบุว่า มีการจัดวิ่งเทรลเข้าเขตป่าอุทยานฯ โดยไม่ขออนุญาต แถมยังเป็นยามวิกาลอีกต่างหาก

ถือเป็นอีกหนึ่งดราม่าในวงการวิ่งเทรลบ้านเรา เมื่อทางผู้จัดวิ่งเทรลรายการดังในจังหวัดเชียงราย ที่เพิ่งจัดงานผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 22-23 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา ถูกกล่าวหาว่าไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบการขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่ป่าอนุรักษ์ในเขตอุทยานแห่งชาติให้ถูกต้อง

โดยในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 22 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มบุคคล เข้าไปใช้พื้นที่หน้าสำนักงานจุดสกัดชาพันปี ในอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก (เตรียมการ) บ้านใหม่พัฒนา ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เพื่อใช้เป็นจุดเช็คระยะและจุดพักนักกีฬาในกิจกรรมวิ่งเทรลดังกล่าว โดยไม่ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ในอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก (เตรียมการ)

ทางพนักงานพิทักษ์ป่าประจำจุดสกัดชาพันปี จึงแจ้งแก่เจ้าหน้าที่ประจำจุดเช็คระยะและจุดพักนักวิ่งว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตตามระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชว่าด้วยการเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติพ.ศ. 2563 และหากยังมีการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป


อย่างไรก็ตามทางผู้จัดงานวิ่งดังกล่าวยังคงจัดวิ่งเทรลต่อไป จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.55 ของวันที่ 23 มิถุนายน 2567 ทางเจ้าหน้าที่ อช. ลำน้ำกก ยังพบว่ากิจกรรมวิ่งดังกล่าว มีนักวิ่งวิ่งเข้าไปในเส้นทางที่ไม่ได้รับอนุญาต ทางคณะเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวไว้เป็นหลักฐาน

และเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงไม่ให้เกิดการปล่อยประละเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำน้ำกกจึงมอบ หมายให้นายกมล แฝงบุปผา นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำกก เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่สรวย
ใน วันที่ 24 มิถุนายน 2567


สำหรับกิจกรรมวิ่งเทรลดังกล่าวได้เคยจัดมาแล้ว โดยเมื่อ ปีพ.ศ. 2565 ทางคณะผู้จัดเดียวกันนี้ ได้เคยขออนุญาตจัดกิจกรรมวิ่งเทรลดังกล่าวกับทางอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก (เตรียมการ) ซึ่งก็ได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมได้ แต่สำหรับการจัดงานในครั้งนี้กลับไม่มีการประสานล่วงหน้าจากทางผู้จัดมาแต่อย่างใด

นอกจากนี้ทาง อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก (เตรียมการ) ยังได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊กบัญชีรายชื่อ อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก Lam nam kok National Park เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2567 ว่า

...จัดวิ่งเทรลไม่ขออนุญาต ถึงแม้จะเป็นอุทยานเตรียมการก็มีความผิดครับ แถมวิ่งยามวิกาลอีก ตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐาน เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ...

อช.ลำน้ำกก (เตรียมการ) ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมผ่านคอมเม้นต์ของโพสต์ดังกล่าวว่า...เนื่องจากเราเป็นอุทยานแห่งชาติเตรียมการประกาศ กฎหมายที่ใช้ในการดูแลพื้นที่ ส่วนใหญ่ใช้ พรบ.ป่าสงวนแห่งขาติ พ.ศ.2507 การขอใช้งบประมาณจากหน่วยงานภายนอก เช่นการปลูกป่า การทำฝาย การทำแนวกันไฟ หรือการจัดให้มีสิ่งก่อสร้าง อุทยานเองก็ต้องขออนุญาตและต้องได้รับความเห็นชอบ จากทั้ง อธิบดีกรมป่าไม้ และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเช่นกัน...


หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้าแสดงความคิดเห็นจำนวนมากต่างเห็นด้วยกับทางอุทยานฯ พร้อมให้กำลังใจ และตำหนิทางผู้จัดงานวิ่ง โดยระบุว่า ทางผู้จัดต้องทำเรื่องให้ถูกต้อง เคารพ กฎระเบียบของทางอุทยานฯ ทำเรื่องขออนุญาตเข้าอุทยานฯ เป็นลายลักษณ์อักษรให้ถูกต้อง รวมถึงสนับสนุนให้อุทยานฯ ฟ้องทางผู้จัดให้เป็นกรณีตัวอย่าง

อย่างไรก็ดีได้มีชาวเน็ตส่วนหนึ่งโพสต์ไม่สนับสนุนทางอุทยานฯ โดยให้เหตุผลต่าง ๆ ที่ไม่ตรงประเด็นกับเรื่องดังกล่าว อย่างเช่น โทษระบบการทำงานของราชการว่าไม่รู้จักการประสานงาน (แต่ไม่โทษทางผู้จัดว่าทำไมถึงไม่ทำเรื่องประสานงานขออนุญาตใช้พื้นที่อุทยานฯ) หรืองานจัดออกจะใหญ่โต แต่ทำไมทางอุทยานฯ ถึงไม่รู้ บ้างก็ถึงขนาดโพสต์ข่มขู่ว่า งานนี้เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย ถ้าผู้จัดงานไม่ผิด หัวหน้า อช.ลำน้ำกก (เตรียมการ) อาจโดน ม.157 ได้

สำหรับเรื่องนี้คงต้องติดตามกันต่อไป ว่าหลัง อช.ลำน้ำกก (เตรียมการ) เดินหน้าฟ้องทางผู้จัดงานวิ่งเทรลรายการดังและผู้ที่เกี่ยวข้อง บทสรุปจะออกมาแบบใด ? เพราะหลักฐาน เอกสารต่าง ๆ จะเป็นสิ่งยืนยันข้อเท็จจริงว่า งานนี้ ใครถูกใครผิด ใครลักไก่ ใครตะแบง ใครแถเบี่ยงประเด็น และพยายามทำสิ่งผิดให้เป็นสิ่งถูก