ดราม่าดัน Soft Power ไทยสู่สากล หลังภาครัฐเตรียมจัดแข่งขัน 5 ที่สุดของโลก อย่างเช่น กินปาท่องโก๋ กินป๊อบคอร์น ใส่กางเกงช้างเยอะที่สุดใน 1 นาที เพื่อทำสถิติโลกบันทึกลงกินเนสบุ๊ก งานนี้โดนชาวเน็ตด่ายับ พร้อมถามกลับ “เอาอะไรคิด”
ถือเป็นอีกหนึ่งดราม่าบนโลกโซเชียล จากกรณีภาครัฐโดย การกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ออกมาแถลงข่าว เปิดตัวโครงการ “THAILAND SOFT POWER X GUINNESS WORLD RECORDS CHALLENGE” นำเสนอ Soft Power 5F ของไทย ได้แก่ Food (อาหาร) Fashion (การออกแบบแฟชั่นไทย) Film (ภาพยนตร์) Fight (มวยไทย) และ Festival (เทศกาลประเพณีไทย) เพื่อขานรับนโยบาย Soft Power ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
โดยนายสุพจน์ วงศ์จรัสรวี คณะปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กิจกรรม “THAILAND SOFT POWER X GUINNESS WORLD RECORDS CHALLENGE” เป็นการขานรับนโยบายยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่ได้จัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยในตลาดโลก เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่าน Soft Power ในแง่ของการแสดงอัตลักษณ์สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวไทย เพื่อทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำด้าน Soft Power รวมถึงดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ด้าน นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรม “THAILAND SOFT POWER X GUINNESS WORLD RECORDS CHALLENGE” ครั้งนี้ ททท. ได้ร่วมกับ GUINNESS WORLD RECORDS™ จัดการแข่งขันใน 5 หัวข้อที่สุดของโลก ได้แก่
1) ใส่นวมต่อยลูกโป่งแตกมากที่สุดใน 1 นาที
2) ใส่กางเกงช้างเยอะที่สุดใน 1 นาที
3) กินสตรีทฟู้ด (ปาท่องโก๋) มากที่สุดใน 1 นาที
4) ใส่หน้ากาก (หน้ากากผีตาโขน) ได้มากที่สุดใน 1 นาที
5) กินป๊อบคอร์นได้เยอะที่สุดใน 1 นาที
โดยการแข่งขันแต่ละรายการได้เลือกเอาสินค้าท่องเที่ยวและ Soft Power ซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติมานำเสนอ อาทิ ปาท่องโก๋ ได้ติดอันดับ 1 ใน 5 ขนมสตรีทฟู้ดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกจาก TasteAtlas กางเกงช้างเป็นที่รู้จักและเป็นของฝากยอดนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ มวยไทยเป็นกีฬาซึ่งมีชื่อเสียงในระดับโลก และเทศกาลผีตาโขนซึ่งเป็นศิลปวัฒนธรรมเฉพาะถิ่นที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
สำหรับกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 21 – 27 กุมภาพันธ์ 2567 ณ พาร์คพารากอน สยามพารากอน แบ่งออกเป็นรอบ รอบละ 10 นาที หมุนเวียนตามลำดับ ได้แก่ กินปาท่องโก๋มากที่สุด (ผู้แข่งขันรอบละ 10 คน) ใส่นวมต่อยลูกโป่งแตกมากที่สุด (ผู้แข่งขันรอบละ 3 คน) กินป๊อบคอร์นได้เยอะที่สุด (ผู้แข่งขันรอบละ 10 คน) ใส่กางเกงช้างมากที่สุด (ผู้แข่งขันรอบละ 10 คน) ใส่หน้ากากผีตาโขน ได้มากที่สุด (ผู้แข่งขันรอบละ 10 คน) โดยในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 คณะกรรมการตรวจสอบผลการแข่งขันจาก VDO ที่ถูกบันทึกไว้ระหว่างการแข่งขันของผู้ที่ทำสถิติสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 พร้อมบันทึกสถิติและรับประกาศนียบัตรจาก Guinness World Records
ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน ได้ที่ www.tourismthailand.org/thailandsoftpowerchallenge
หลังข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ได้กลายเป็นดราม่าบนโลกโซเชียล ให้ผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง โดยงานนี้ชาวเน็ตส่วนใหญ่ล้วนต่างไม่เห็นด้วย พร้อมถามว่าทำแบบนี้มันคือ Soft Power ตรงไหน หรือบ้างก็ว่า เอาอะไรคิด ใครเป็นคนคิด ทำแล้วได้อะไร ปาท่องโก๋-ป๊อบคอร์นเป็นอาหารไทยตรงไหน รวมถึงมีเตือนเรื่องสุขภาพของผู้แข่งขันที่กินปาท่องโก๋มากเกินไป นอกจากนี้ก็ยังมีคอมเม้นต์ที่ใช้ภาษารุนแรงตำหนิกิจกรรมนี้อีกเป็นจำนวนมาก
สำหรับเรื่องนี้คงต้องติดตามกันต่อไปว่ากิจกรรมดังกล่าวที่จัดขึ้นเพื่อผลักดัน Soft Power ไทยสู่สากลให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในระดับโลกมากยิ่งขึ้นนั้น (ทั้งที่หลายอย่างเป็น Soft Power ที่โด่งดังในระดับโลกตามธรรมชาติของตัวมันเองอยู่แล้ว)
จะปังหรือพัง!