เผยภาพคนแห่เที่ยวบึงฉวากสุดคึกคัก ทั้งส่วนอควอเรี่ยมและส่วนสวนสัตว์ หลังเกิดไวรัลว่อนโซเชียลว่า วันนี้บึงฉวากอยู่อย่างเหงา ๆ เพราะคนไปเที่ยวน้อย ทั้งที่มีของดีแต่คนไม่ค่อยรู้จัก ขณะที่รัฐบาลได้ออกมาเชิญชวนให้คนไปเที่ยวบึงฉวาก พร้อมแนะนำ 5 จุดไฮไลต์ให้คนไปเช็กอิน
ไวรัลบึงฉวากอยู่อย่างเหงา ๆ
หลังมีภาพและคลิปจากนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวอควอเรี่ยม “บึงฉวาก” จ.สุพรรณบุรี เผยแพร่ออกมา ว่าบึงฉวากมีบรรยากาศสุดเงียบเหงา ส่วนชุดมาสคอตก็เก่ามาก จึงอยากวอนให้คนมาเที่ยวกันเยอะ ๆ เพราะมีของดีแต่คนไม่ค่อยรู้
หลังจากนั้นชาวเน็ตได้แชร์เรื่องราวดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมากจนกลายเป็นไวรัล โดยส่วนหนึ่งระบุว่าจะเดินทางไปเที่ยวบึงฉวากเพื่อให้ที่นี่มีบรรยากาศกลับมาคึกคักอีกครั้งเหมือนแต่ก่อน
พลังโซเชียลดันบึงฉวากกลับมาคึกคัก
ล่าสุดวันนี้ (14 ม.ค.67) เพจ บึงฉวาก สุพรรณบุรี สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติฯ ได้ออกมาโพสต์ภาพคนแห่เที่ยวบึงฉวากในส่วนอควอเรี่ยมกันอย่างคึกคัก โดยเพจดังกล่าว ระบุว่า
บึงฉวาก อควอเรี่ยมเมืองสุพรรณบุรี ที่มีดีทั้งโซนน้ำจืดและน้ำเค็ม ความสุขของเรา ความสุขของทุกคน เราเปิดให้เข้าชมทุกวันนะคะ
ด้านเพจ สวนสัตว์บึงฉวาก สุพรรณบุรี ที่เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของบึงฉวาก ได้ออกมาโพสต์ถึงบรรยากาศการท่องเที่ยวในวันที่ 14 ม.ค.67 หลังเกิดไวรัลบึงฉวากอยู่อย่างเหงา ๆ ดังนี้
นักเรียน นักศึกษารวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกภาคยังคงให้ความสนใจมาเยี่ยมชมกันตลอด ในช่วงของวันธรรมดาส่วนมากจะเป็นนักเรียน นักศึกษา ส่วนช่วงของวันหยุดก็จะเป็นนักท่องเที่ยว รวมถึงกรุ๊ปทัวร์จากจังหวัดต่างๆเข้ามาเยี่ยมชม นอกจากเป็นแหล่งเรียนรู้แล้ว ยังเป็นศูนย์ดูแลสัตว์ป่าของกลางทุกสภาพทั่วประเทศอีกด้วย สวนสัตว์บึงฉวากยินดีต้อนรับครับ
5 จุดไฮไลต์ชวนเช็กอิน
ขณะที่รัฐบาลได้ออกมาเชิญชวนให้คนไปเที่ยวบึงฉวาก พร้อมแนะนำ 5 จุดไฮไลต์ให้คนไปเช็กอิน โดย น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กระแสในโลกออนไลน์ถึง “สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ” ที่เป็นส่วนหนึ่งของบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติว่า เงียบเหงามาก ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างจากสมัยก่อนนั้น รัฐบาลจึงอยากขอเชิญชวนประชาชนใช้วันว่าง ไปท่องเที่ยวและพักผ่อนได้ที่บึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี เป็นบึงน้ำธรรมชาติ มีเนื้อที่ 2,700 ไร่ พื้นที่กว้างขวางมี และที่สำคัญสะอาดมาก ซึ่งปกติในวันธรรมดา บัตรค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ ราคา 30 บาท เด็กราคา 10 บาท ที่ถือว่าถูกมากๆ
น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า บึงฉวากเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของสุพรรณบุรี มีอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำถึง 3 หลัง หลังแรกจัดแสดงพันธุ์ปลาทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม ส่วนหลังที่สองเป็นอุโมงค์ปลาน้ำจืดแห่งแรกของประเทศไทยที่มีความยาวอุโมงค์ถึง 8.5 เมตร และหลังที่ 3 เรียกว่าเป็น “สวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล” จัดแสดงพันธุ์ปลาทะเลผ่านอุโมงค์ปลาและบันไดเลื่อนขนาดความยาว 75 เมตร รวมทั้งมีตู้ปลาฉลามขนาดใหญ่ให้ชมอย่างน่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วที่บึงฉวากยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ บ่อจระเข้น้ำจืด กรงเสือและสิงโต เกาะกระต่าย อุทยานผักพื้นบ้านเพื่อการยังชีพ ฯลฯแต่ก็มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม ขนมให้บริการดีค่ะ ทุกร้านติดป้านราคาชัดเจน ราคาย่อมเยา รสชาติอร่อย
“อยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ให้มาเที่ยวกัน เพราะที่นี่มีของดีแต่คนไม่ค่อยรู้จัก โดยบึงฉวากมีจุดเช็คอินไฮไลท์ทั้ง 5 จุด ได้แก่ อุโมงค์ปลาน้ำจืดแห่งแรกของเมืองไทย, บ่อจระเข้ธรรมชาติที่สวยที่สุด, อุโมงค์ปลาแนวเฉียงที่ลึกที่สุดในไทย, อุโมงค์ปลาฉลามที่กว้างสุดในเอเชีย และ Lemon Shark ที่เดียวในไทย ทั้งนี้บึงฉวากเปิดบริการทุกวัน โดยวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ รวมถึงวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 – 17.00 น.”
บึงฉวากของดีเมืองสุพรรณ
“บึงฉวาก” ตั้งอยู่ใน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี มีลักษณะเป็นบึงน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ 2,700 ไร่ ซึ่งปัจจุบันมีผู้นิยมมาท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ ปั่นจักรยาน รวมถึงมามาอนุญาตกางเต็นท์ในพื้นที่
บึงฉวากได้รับการประกาศให้เป็นเขตคุ้มครองสัตว์ป่า รวมถึงได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับชาติตามอนุสัญญาแรมซาร์ เนื่องจากมีความหลากหลายทางชีวภาพทั้งด้านสายพันธุ์ของสัตว์และพืชน้ำ
นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ บึงฉวากยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่ 3 จุดหลักด้วยกัน ได้แก่
-“สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ” หรือที่คนมักเรียกว่าอควอเรี่ยมบึงฉวาก หรืออควอเรี่ยมเมืองสุพรรณบุรี สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 และเปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแค่ปี พ.ศ. 2541 เป็นสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่น่าตื่นตาตื่นใจไปด้วยสัตว์น้ำต่าง ๆ ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม รวมถึงมาสคอตน่ารัก ๆ มาคอยสร้างสีสัน (รายละเอียดตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น)
-“ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก” หรือ “สวนสัตว์บึงฉวาก” สร้างขึ้นในวโรกาสที่ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ครองราชย์ครบ 50 ปี ที่นี่นอกจากจะเป็นศูนย์ดูแลสัตว์ป่าของกลางทุกสภาพทั่วประเทศแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ด้านสัตว์ป่าที่มีสัตว์หลากหลาย อาทิ เสือโคร่ง ลิงอุรังอุตัง ยีราฟ กวางดาว ม้าลาย อูฐ นกเงือก นกกระตั้ว และสัตว์ป่าของกลางอื่น ๆ ร่วมกว่า 600 ตัว
สวนสัตว์บึงฉวากมีจุดน่าสนใจไม่ควรพลาด อาทิ กรงเสือ-สิงโต, กรงนกใหญ่, ศูนย์รวมพันธ์ไก่ เกาะกระต่าย และ จุดถ่ายภาพกับสัตว์ เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีโครงการ “พ่อแม่อุปถัมภ์” ที่เชิญชวนผู้สนใจร่วมกันช่วยเหลือสัตว์ป่า โดยสามารถโอนผ่านบัญชี 980-216-5379 ธนาคารกรุงไทย ระบุ ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก
-“อุทยานผักพื้นบ้านเพื่อการยังชีพเฉลิมพระเกียรติบึงฉวาก” เป็นสถานที่ที่เป็นดังพิพิธภัณฑ์ผักพื้นบ้าน โดยมีพืชผักพื้นบ้านกว่า 500 ชนิด ปลูกรวมกันอยู่บนเกาะกลางบึงฉวาก มีการจัดภูมิทัศน์เป็นสวนสวยงาม มีการจัดสวนสวยงามด้วยพืชผักพื้นบ้าน มีโรงปลูกพืชระบบระเหยน้ำ มีการสาธิตการปลูกพืชในลักษณะไม่ใช้ดินตลอดจนการสาธิต นอกจากนี้ยังมีจุดจำหน่ายพันธุ์ผักพื้นบ้านให้ผู้สนใจอีกด้วย
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของบึงฉวากอีกหนึ่งของดีของจังหวัดสุพรรณบุรี ที่หลังภาพและคลิปบึงฉวากมีคนไปเที่ยวน้อย อยู่อย่างเหงา ๆ กลายเป็นไวรัลบนโลกโซเชียล หลังจากนั้นเพียงชั่วข้ามคืนก็ได้มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวที่บึงฉวากกันเป็นจำนวนมาก นับเป็นการปลูกชีพบึงฉวากให้กลับมาคึกคักมีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ดีงานนี้แม้ชาวเน็ตจะช่วยกันดันบึงฉวากอย่างสุดลิ่มแล้ว ทางผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลบึงฉวากก็ต้องหายุทธวิธีในการบริหารจัดการบึงฉวากให้คนเดินทางมาท่องเที่ยวกันอยู่เสมอ ไม่ปล่อยให้เงียบเหงา ดูเหมือนถูกทิ้งขว้าง และต้องไม่แถแก้ตัวไปโทษผู้หวังดีที่โพสต์ติเพื่อก่อเพื่อเชิญชวนให้คนมาเที่ยวบึงฉวากกันเยอะ ๆ อีกด้วย
########################################
สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น. วันเสาร์ - วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 - 17.00 น.
ค่าเข้าชมอาคารหลังที่ 1 อาคารหลังที่ 2 ชมบ่อจระเข้ ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท ค่าเข้าชมอาคารหลังที่ 3 (สวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล) ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 50 บาท ** ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าชมฟรี