เริ่มแล้ว! งานโอเพ่นเฮ้าส์พระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย ของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ที่เปิดให้ประชาชนจองคิวเข้าชมฟรี ระหว่างวันที่ 1 - 16 กันยายน 2566
เฟซบุ๊กเพจ “ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย” โพสต์ภาพความสวยงามของ “พระวิหารกรุงเทพ” ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมือง โดยทางเพจได้ขอเชิญสาธารณชนมาเยี่ยมชมพระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย ซึ่งเป็นพระวิหารแห่งแรกในประเทศไทยและแห่งที่สามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พระวิหารเป็นอาคารศักดิ์สิทธิ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้บุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้ารู้สึกใกล้ชิดกับพระองค์และพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์ ขอเชิญมาสัมผัสความสงบของบริเวณโดยรอบ รวมถึงสถาปัตยกรรม และงานศิลปะต้นฉบับที่สวยงาม เมื่อมีการอุทิศพระวิหารแล้ว การเข้าพระวิหารจะสงวนไว้สำหรับสมาชิกของศาสนจักร ดังนั้นงานโอเพ่นเฮ้าส์นี้จึงเป็นโอกาสพิเศษในการเยี่ยมชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ในชุมชน
การออกแบบของพระวิหารขนาด 48,525 ตารางฟุตและสูงเกือบ 250 ฟุต เป็นไปตามลวดลายและสีสันที่พบในสถาปัตยกรรมไทย ลวดลายหลากหลายซ้อนทับอยู่บนรูปทรงข้าวหลามตัดหลายรูปแบบด้วยองค์ประกอบของดอกบัวและลายก้างปลา ซึ่งชวนให้นึกถึงลายจักสานที่ใช้ในงานศิลปะและผลิตภันฑ์พื้นเมือง ด้วยการผสมผสานกันของยอดพระวิหารและหน้าต่างที่มีลายฉลุ ทำให้พระวิหารเกิดเป็นภาพเงาที่สวยงามบนเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ
ภายในงานโอเพ่นเฮ้าส์ประกอบด้วยวิดีโอสั้นๆ และการเดินชมบริเวณต่างๆ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 50 นาที โดยเปิดให้เข้าชมฟรี ระหว่างวันที่ 1 - 16 กันยายน 2566 (ยกเว้นวันอาทิตย์) ขอแนะนำให้ทำการจองเวลาเข้าชมล่วงหน้า
ขอแนะนำให้สวมรองเท้าที่ใส่สบายและแต่งกายสุภาพ สามารถนำเก้าอี้รถเข็นเข้ามาได้ ไม่อนุญาตให้นำสัตว์ช่วยเหลือเข้ามาในพระวิหาร และกรุณางดสูบบุหรี่ในบริเวณพระวิหาร
พระวิหารกรุงเทพ ตั้งอยู่เลขที่ 1645/6 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี ที่ตั้งพระวิหารแห่งนี้อยู่ในย่านที่อยู่อาศัยและย่านธุรกิจใจกลางเมืองกรุงเทพฯ และใกล้สถานีมักกะสันที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์กรุงเทพฯ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจองคิวเข้าชมได้ที่ https://www.churchofjesuschrist.org/featured/bangkok-thailand-open-house?lang=tha&cid=rdb_v_bangkoktemple_op_tha
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline