“เปิ้ล ไอริณ” แชร์อุทาหรณ์หมูกระทะ กินมากอาจ “ไตวาย” ตายไว

“เปิ้ล - ไอริณ ศรีแกล้ว” แชร์อุทาหรณ์หมูกระทะว่า แม้แต่วัยรุ่นแข็งแรง ไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ แต่สุดท้ายอาจต้องป่วยเป็นไตวายระยะสุดท้ายอันเนื่องมาจากกินหมูกระทะเป็นประจำ

ถือเป็นอีกหนึ่งดารา-คนดัง สำหรับ “เปิ้ล - ไอริณ ศรีแกล้ว” ที่มักจะโพสต์และแชร์เรื่องราวน่าสนใจให้แฟนคลับได้ขบคิดกันอยู่เสมอ ล่าสุดเธอได้แชร์อุทาหรณ์หมูกระทะว่า แม้แต่วัยรุ่น แข็งแรง ไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ แต่สุดท้ายอาจต้องป่วยเป็นไตวายระยะสุดท้ายอันเนื่องมาจากเสพติดหมูกระทะมากเกินไป


โดยเปิ้ล ไอริณ ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องราวดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก Irin Sriklao ว่า

ฝากถึงสาวกหมูกะทะ 🥰💕

ล่าสุด มีข่าวน้องคนนึง (ในภาพค่ะ) เค้าออกมาให้อุทาหรณ์ว่า เป็นวัยรุ่น ที่ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ แต่จู่ๆ เค้าต้องเข้า รพ.รักษาตัวจากเป็นไตวาย ระยะสุดท้าย! เราเห็นเค้าแบคแพคไปเที่ยว

เราจึงเป็นห่วงทุกคน อยากแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการเป็นโรคไต ตอนไปเที่ยว ของเราค่ะ!

ปกติ เราเป็นคนแข็งแรงมากกก! เกิดมาเป็นหวัดนับครั้งได้ แทบไม่เคยเข้า รพ.เลย!

วันนึงขณะขับรถคนเดียว ที่ภาคเหนือ จู่ๆเกิดปวดหนักๆ บริเวณบั้นเอวอย่างรุนแรง! เราสงสัยว่า มีความผิดปกติที่ไต จึงแวะร้านยาแถวนั้น ขอเภสัช ช่วยจ่ายยาเอาแบบเฉียบพลัน หลังจากอาการก็ดีขึ้น! เราจึงศึกษาหาความรู้ หาต้นเหตุ คุยกับเพื่อนๆที่เป็นหมอ จนค้นพบว่า สาเหตุ เกิดจากการทาน “หมูกะทะ” เนื่องจาก เราอยู่ตามดอยติดกัน 2อาทิตย์!ทุกๆวัน จะทานหมูกะทะ มี”เนื้อแดง, เนื้อติดมัน ใส้กรอก ลูกชิ้น บะหมี่สำเร็จรูป” และใช้ “ซุปก้อน” “ซุปซอง” และตัวดีอีกอย่าง คือ ”น้ำจิ้ม”

หมูกะทะ ถือเป็นอาหารหลักของเราคนไทยไปแล้ว เพราะอร่อย สะดวก หาซื้อง่าย ถือเป็นกิจกรรมหลัก ในการท่องเที่ยว เเต่เมื่อสุขภาพสำคัญกว่า! เราจึงต้อง เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เปลี่ยนเป็นทานปลา เนื้ออกไก่ สันนอกหมู และเลือกทานผักมากขึ้น ลดปริมาณน้ำจิ้มลง หากระดูกหมู มาทำซุปเอง งดอาหารแปรรูปต่างๆ เปลี่ยนมื้อเช้าจาก American Breakfast ทานข้าวต้มปลาแทน ลดกาแฟลง พยายาม ทานน้ำเปล่าให้เยอะขึ้น ทำให้อาการตอนนี้ ไม่มีแล้ว หายสนิท กลับมาสดใส รู้สึกแข็งแรงขึ้นเลยค่ะ!

ประเทศไทย มีสถิติคนป่วยไตวาย สูงขึ้นถึง 8 ล้านคน 80,000 คน เป็นระยะสุดท้าย ที่อาจเกิดจากลักษณะนิสัยในการกินการดื่ม! ค่าฟอกไต ราคามหาศาลนะคะ ลิสต์อาหารที่ต้องงด ลองศึกษาดู ต้องเอามือทาบอก! เพราะทุกอย่าง ถือเป็นของโปรดสุดๆเราเลยค่ะ แต่เราก้อจำต้องลด ดีกว่าต้องอดตลอดชีพนะคะ!

ท้ายที่สุด แม้เงินจะน็อคเอวี่ติง🤣 แต่ต้องให้สุขภาพ มาเป็นอันดับหนึ่ง!! หาเงินได้ เอามารักษาตัว ไม่คุ้มกันค่ะ

รักและห่วงใย เลยเล่าให้ฟัง! อยากให้คนที่ติดตามเรา มีสุขภาพแข็งแรงยาวนาน เป็นหนุ่มสาวสองพันปี ที่นับวัน ยิ่งหล่อๆ รวยๆ สวยๆปังๆ กันทุกคนค่า 🥰💕

############

หมายเหตุ* โพสต์นี้ของ เปิ้ล ไอริณ เขียน “หมูกระทะ” ว่า “หมูกะทะ” ตามที่ระบุไว้ข้างต้น


สำหรับเรื่องราวการกินอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ “หมูกระทะ-ชาบู” เป็นประจำแล้วส่งผลกระทบต่อสุขภาพเนื่องจากเป็นการ “กินโซเดียมเกินมาตรฐาน” จนเกิดโรคกลุ่มโรคไม่ติดต่อ (NCDs) อันนำไปสู่การ เจ็บป่วยไตวาย เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกมาให้ข้อมูลเตือนประชาชนคนไทยอยู่บ่อยครั้ง

โดย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า โรคไม่ติดต่อ (NCDs) เช่น โรคหัวใจ หลอดเลือดสมองตีบตัน ความดันโลหิตสูง ไตวาย รวมถึงโรคเรื้อรังชนิดอื่น เป็นปัญหาสุขภาพระดับประเทศของไทย โดยสาเหตุหนึ่งมาจากการบริโภคอาหารหวาน มัน เค็ม เป็นประจำเกินกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนด (โดยเฉพาะบริโภคโซเดียม ซึ่ง WHO แนะนำว่า ไม่ควรบริโภคเกิน 5 กรัม/วัน)


ปัจจุบันเมืองไทยมีผู้ป่วยโรคที่สัมพันธ์กับการบริโภคโซเดียมถึง 22.05 ล้านคน ทั้งโรคความดันโลหิตสูง 13.2 ล้านคน โรคไต 7.6 ล้านคน โรคหัวใจขาดเลือด 7.5 แสนคน โรคหลอดเลือดสมอง 5 แสนคน อีกทั้งยังทำให้มีคนไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากโรค NCDs สูงถึง 73%

ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่าคนไทยส่วนใหญ่ กินโซเดียมเฉลี่ยอยู่ที่ 3,636 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งมากกว่าเกือบ 2 เท่า จากเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำคือ ไม่ควรกินโซเดียมเกินวันละ 2,000 มิลลิกรัม

สำหรับภัยร้ายและภัยเงียบจากโซเดียมที่ซ่อนในมื้ออาหารปัจุบันนั้นมาจาก การปรุงรสชาติ การซดน้ำแกง น้ำผัด น้ำซุป อาหารแช่แข็ง และอาหารกึ่งสำเร็จรูป ดังนั้นเราจึงควรปรับพฤติกรรมการกิน พร้อมทั้งนึกถึงสุขภาพให้มากยิ่งขึ้น