เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ที่ดอกไม้นานาพรรณกำลังออกดอกผลิบานงดงามไม่แพ้ฤดูไหนๆ สุดสัปดาห์นี้จึงอยากชวนทุกคนมาเดินชมดอกไม้งามด้วยกันที่ “สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ” สวนสาธารณะใจกลางเมืองกรุง เพลิดเพลินใจกับการชมดอกไม้งามนานาพรรณ ท่ามกลางบรรยากาศของร่มเงาต้นไม้ และอากาศบริสุทธิ์
สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ในเขตจตุจักร บนถนนกำแพงเพชร 2 โดยจะอยู่ใกล้กับ “สวนจตุจักร” และ “สวนวชิรเบญจทัศ” หรือ “สวนรถไฟ” สวนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครบ 5 รอบ ซึ่งตรงกับวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2535 และได้เปิดให้ประชาชนใช้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2539
สวนสาธารณะแห่งนี้มีพื้นที่ถึง 140 ไร่ ถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วนด้วยกัน ซึ่งแต่ละส่วนนั้นได้มีการรวบรวมต้นไม้ดอกไม้พันธุ์พืชท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย ไม้ในพระนาม ไม้จากพระตำหนักต่างๆ และไม้ต่างประเทศที่น่าสนใจ มาปลูกไว้ให้ได้ชมโดยมีการนำเสนอในรูปแบบเส้นทางชมธรรมชาติ
หากใครเข้ามาเดินผ่อนคลายที่สวนพระนางเจ้าสิริกิติ์ในช่วงนี้ ก็จะได้พบกับไฮไลต์ราชินีแห่งป่าฝน นั่นก็คือ “ดอกกระเจียว” ที่นำมาปลูกให้ชมกัน กำลังบานชูช่อเผยโฉมสุดงดงาม ซึ่งก็ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึง จ.ชัยภูมิ
ดอกกระเจียวที่ทางสวนนำมาปลูกคือ กระเจียวบัว (Siam Tulip) หรือ ดอกปทุมมา โดยมีชื่อวิทยาศาสตร์ Curcuma alismatifolia ชื่อวงศ์ Zingiberaceae มีลักษณะเป็นลำต้นใต้ดินทำหน้าที่สะสมน้ำและอาหารเรียกว่า เหง้า เจริญเป็นลำต้นเทียม ที่เห็นอยู่เหนือดินก็คือ ใบ เป็นใบเดี่ยวขอบใบเรียบ และก้านใบจะร่วมตัวกันแน่นเป็นลำต้นเทียม ใบยาวคล้ายใบพาย
และมีช่อดอกแบบช่อแน่น มีใบประดับ โอบรอบช่อดอกทำให้เห็นใบประดับเรียงซ้อนกันเกิดเป็นช่อ ที่มีลักษณะเป็นทรงกระบอก หรือทรงกระสวย ภายในเป็นที่อยู่ของดอกจริงประมาณ 2-7 ดอก ใบประดับส่วนบน มีลักษณะรูปร่างและสีสันแตกต่างจากใบประดับปกติ และจะไม่มีดอกจริงอยู่ภายใน ส่วนดอกจริง มีกลีบเลี้ยง 3 กลีบอยู่เหนือรังไข่ ส่วนกลีบดอกมีโคนที่เชื่อมต่อกันเป็นหลอดแต่ปลายแยกเป็นกลีบ
นอกจากนี้ตลอดเส้นทางเดินยังมีต้นไม้ดอกไม้ให้ได้ชมกันเป็นจุดๆ อาทิ “ลานชบา” ที่รวมพันธุ์ชบามาปลูกให้ได้ชมดอกหลากสีสัน , “สวนหิน” สวนที่ได้มีการมานำหินมาประดับกับไม้งาม ชมแล้วสวยงามอย่าลงตัว , “ลานปาร์ม” ที่ได้นำพืชตระกูลปาร์มหลากหลายชนิดมาปลูกให้ได้ชม , “ลานบัวดิน” ที่มีดอกบัวดินงอกชูช่อจากพื้นดินมาผลิบานให้ได้ชมความงดงามมองแล้วสบายตา และมีจุดอื่นๆ ตามเส้นทางอีกมากมาย ให้เดินชมกันอย่างเพลิดเพลิดอย่างสบายใจห เช่น สวนกล้วย, ลานอโศก, ลานเข็ม, ลานลีลาวดี และสวนไผ่ เป็นต้น
นอกจากจะมีส่วนต่างๆ ที่ปลูกต้นไม้ดอกไม้นานาพรรณให้ได้ชมกันอย่างมากมายแล้ว ภายในสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์แห่งนี้ก็ยังมีจุดไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดไปชมกันด้วย ก็คือ “ลานบัว” ลานพักผ่อนตกแต่งด้วยบ่อเป็นรูปดอกบัวขนาดยักษ์ เป็นที่รวมพันธุ์บัวทั้งไทยและต่างประเทศ มีกระถางโบราณเก่าแก่ประดับลานและปลูกบัวชนิดต่างๆ ให้ได้ชมความงดงามของบัวหลากสีสัน
สำหรับ “สระน้ำ” ภายในสวนสมเด็จพระนางเจ้าสริริกิติ์ฯ นั้น ถูกสร้างเป็นให้มีจุดเด่นโดยมีการสื่อความหมายในการเฉลิมพระเกียรติ ด้วยสระน้ำที่สร้างคดเคี้ยวเป็นรูปแบบอักษร " ส" และ " S" ผสานกัน ซึ่งสื่อถึงพระนามาภิไธยของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อีกทั้งในช่วงยามเย็นภายในสระน้ำก็จะมีการเปิดน้ำพุเพิ่มความสวยงามให้ได้ชมกันอีกด้วย
หลังจากได้เดินชมจนครบทุกสัดส่วนภายในสวนแล้ว รู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะอากาศบริสุทธิ์และยังได้ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามภายในสวน ช่วงวันหยุดนี้หากใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ก็อยากจะแนะนำว่า สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจ ในการมาเดินพักผ่อนหย่อนใจ เพราะนอกจจากจะได้ชมวิวสวยๆ แล้วก็ยังได้มาออกกำลังกายอีกด้วย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline