ตะลุย “บางแสน-อ่างศิลา” เที่ยวสบายๆ ริมทะเลตะวันออก

เที่ยวสบายๆ ที่ “บางแสน-อ่างศิลา” ทะเลสวยภาคตะวันออก นั่งเล่นริมหาด เดินดูพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ไหว้พระ-ไหว้เจ้า แวะชอปปิ้งของฝาก-อาหารทะเล

พอถึงวันหยุดทีไร จิตใจก็ร่ำร้องอยากจะเก็บกระเป๋าออกไปเที่ยวทุกที บ้างก็อยากจะขึ้นเหนือ ชมความเขียวขจีของป่าเขา บางคนก็อยากแพคกระเป๋าลงใต้ ไปเที่ยวทะเลสวยน้ำใส แต่ถ้าวันหยุดน้อยและอยากเที่ยวใกล้ๆ กรุง แนะนำที่ “บางแสน-อ่างศิลา” จ.ชลบุรี เพราะที่นี่มีทะเลสวย ที่เที่ยวครบ แถมอาหารก็อร่อย






เที่ยวริมทะเลใกล้กรุง เริ่มต้นกันที่ “หาดบางแสน” ที่ถือว่าเป็นชายหาดยอดฮิตมาอย่างยาวนาน ภาพของบางแสนในสมัยก่อน เป็นชายหาดที่เต็มไปด้วยเตียงผ้าใบ มีเด็กๆ วิ่งลงไปเล่นน้ำทะเลพร้อมห่วงยางและของเล่นต่างๆ ส่วนบางแสนในปัจจุบันก็ยังมีภาพคล้ายๆ เดิม มีส่วนที่เป็นเตียงผ้าใบ มีร้านขายห่วงยาง มีร้านขายอาหาร แต่ดูแล้วเป็นระเบียบและสะอาดตามากขึ้นภายหลังจากจัดระเบียบครั้งใหญ่ มีทางเดินริมหาดที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายอาหาร เสื้อผ้า และของที่ระลึก ตัวชายหาดบางแสนก็สะอาดมากขึ้น เหมาะกับการลงไปเล่นน้ำทะเล

และในทุกๆ วันจันทร์ จะเป็นวันหยุดของชายหาดบางแสน ตั้งแต่บริเวณบางแสนล่าง (หาดวอนนภา) ชายหาดบางแสน และแหลมแท่น จะห้ามการค้าขายสินค้าบนพื้นที่ทางสาธารณะบริเวณชายหาดทั้งหมด รวมถึงการกางร่มและเตียงผ้าใบ (นักท่องเที่ยวยังสามารถมาเที่ยวได้ตามปกติ สามารถนำเสื่อมาปูนั่งเองได้) ทำให้ภาพของชายหาดบางแสนในวันจันทร์นั้นโล่งและสะอาดมากๆ

ติดๆ กับหาดบางแสนก็คือ “หาดวอนนภา” ที่เพิ่งถูกปรับปรุงพื้นที่ มีแนวโขดหินกันคลื่น จัดโซนใหม่ มีทั้งโซนที่เงียบสงบ และโซนที่เหมาะกับการนั่งสังสรรค์ มีพื้นที่นั่งพักผ่อนและพื้นที่สำหรับออกกำลังกาย






จากนั้นหลบร้อนเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์กันต่อ "สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล" หรือที่หลายคนเรียกกันว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน เดิมที่นี่มีส่วนการจัดแสดงถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ สถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็มและพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล และเมื่อไม่นานมานี้ที่นี่เพิ่งเปิดโซนใหม่ในอาคารหลังใหม่ใกล้กับส่วนจัดแสดงเดิมให้ได้เข้าชมกัน

ในอาคารใหม่นี้ภายในแบ่งออกเป็น 11 โซนให้ได้เดินชม ได้แก่ ท่องสมุทร มาหาสมุทร เสียงเพรียกจากทะเล ลัดเลาะเลียบหาด แสงแห่งท้องทะเล สารพันปลาฝูง มหัศจรรย์สัตว์พิเศษ อัศจรรย์โลกสีครามอัญมณีแห่งมหาสมุทร ฟอสซิลมีชีวิต และ สาร(รักษ์)จากสมุทร โดยแต่ละจุดก็มีไฮไลต์น่าชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การจำลองสะดือทะเล จำลองระบบนิเวศแบบต่างๆ ฝูงปลาทะเลในตู้ทรงกระบอกขนาดใหญ่ อุโมงค์ทางเลื่อนใต้น้ำความยาวกว่า 37 เมตร เป็นต้น






มาถึงบางแสน ใครอยากซื้อหาของฝากท้องถิ่นก็ต้องที่ “ตลาดหนองมน” ตลาดของฝากที่มีชื่อเสียงมายาวนาน มาเที่ยวชลบุรี และก่อนจะกลับบ้านก็ต้องแวะซื้อหาของฝากกันที่นี่ มีร้านค้าของฝากให้เลื้อกซื้อมากมาย โดยของฝากส่วนมากก็คือ ของทะเลดอง อาหารทะเลแห้ง ข้าวหลาม ขนมจาก กะปิ น้ำปลา กาละแม ขนมหวาน ไปจนถึงอาหารถิ่นอย่างหอยจ๊อ ห่อหมก แจงลอน เป็นต้น






เที่ยวแล้ว ชอปปิ้งแล้ว ชวนมาไหว้พระกันต่อที่ “มหาเจดีย์เกตุแก้วจุฬามณีอาสนสุขมหาวิหาร” ณ วัดแสนสุขวิสุทธิวราราม ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากหาดบางแสนมากนัก

องค์มหาเจดีย์ สร้างคล้ายกับเจดีย์วัดอัษฎางคนิมิต บนเกาะสีชัง รอบด้านทั้ง 4 ทิศของมหาเจดีย์ฯ ถูกล้อมรอบด้วยพญานาค 7 เศียร ซึ่งมีสีแตกต่างกันไป โดยพญานาคด้านหน้าจะเป็นสีทองอร่าม เมื่อเดินวนไปซ้ายของมหาเจดีย์ฯ จะพบกับพญานาคสีน้ำเงินเข้มเหลือบด้วยสีเหลืองดูหน้าเกรงขาม ส่วนด้านหลังจะเป็นพญานาคสีฟ้าอ่อนปนเหลืองส้ม และสุดท้ายคือด้านขวาของมหาเจดีย์ฯ จะเป็นพญานาคสีเขียวอ่อนเหลือบด้วยสีขาว ลำตัวของพญานาคทั้ง 4 ทิศเป็นเหมือนสะพานที่ทอดยาวข้ามน้ำ เพื่อเข้าสู่บันไดทางขึ้นไปยังมหาเจดีย์ฯ

และเมื่อเดินผ่านลำตัวของพญานาคเข้ามาแล้วจะพบกับมหาเจดีย์ฯ ตั้งตระหง่านอยู่ มีประตูทางเข้าทั้ง 4 ทิศ ด้านในมีพระประธานสีทองอร่ามองค์ใหญ่เป็นสง่าชวนให้ไหว้สักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล องค์พระประธานถูกล้อมรอบด้วยเสา 8 ต้นช่วยเสริมความเด่นขององค์พระประธานได้เป็นอย่างดี ภายในมหาเจดีย์ให้ความรู้สึกเงียบสงบ โล่งสบาย เพราะมีเพดานสูงและหน้าต่างรอบด้าน จิตรกรรมฝาผนังและบนเพดานสวยงามมีเอกลักษณ์ชวนมอง โดยผนังด้านในจะเป็นสีชมพูอ่อนดูสบายตา ส่วนเสาและเพดานด้านบนจะเป็นสีขาวตกแต่งลวดลายด้วยสีทอง






ข้ามจากโซนบางแสนไปต่อกันที่โซนอ่างศิลา ที่สามารถขับรถไปบนเส้นทางเลียบชายทะเล จากบางแสน ผ่านเขาสามมุข ไปจนถึงอ่างศิลาได้ และระหว่างทางก็มี “ศาลเจ้าแม่เขาสามมุข” สามารถแวะสักการะกันได้ รวมถึงยังมีจุดชมวิวสวยๆ อีกด้วย

ข้ามมาโซนอ่างศิลาแล้ว ห้ามพลาดเข้าไปชม “ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ” หรือ “วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม” ศาลเจ้าที่มีสถาปัตยกรรมจีนสวยงามอยู่ริมถนนเลียบชายทะเล

สถาปัตยกรรมจีนของที่นี่ มีความสูง 4 ชั้น มีความโดดเด่นอยู่ที่การประดับประดาตามคติความเชื่อของชาวจีน ไม่ว่าจะเป็น รูปปั้นมังกรซึ่งมีมากถึง 2,840 ตัว กระถางธูปศักดิ์สิทธิ์ เสาฟ้าดิน นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่มีองค์ไท้ส่วยเอี้ย (ดาวเทพคุ้มครองดวงชะตาประจำปีเกิดของมวลมนุษย์) ครบ 60 องค์ เป็นต้น

ภายในเป็นที่ประดิษฐาน พระกษิติครรภโพธิสัตว์, องค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ปางที่จำลองมาจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน, องค์เง็กเซียนฮ่องเต้, พระศรีศากยมุนีพระพุทธเจ้า องค์พุทธเจ้าอีก 5 พระองค์






มาเที่ยวทะเลทั้งที ก็อดไม่ได้ที่อยากจะหาอาหารทะเลสดๆ กินให้อิ่มเอมใจ มาถึงโซนอ่างศิลา ก็ต้องแวะที่ “สะพานปลาอ่างศิลา” หรือที่เรียกกันว่า สะพานหิน ซึ่งสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔ แล้ว แต่ต่อมา ราวๆ ปี พ.ศ.2499 จึงได้มีการสร้างเป็นสะพานปลาขึ้นมาตามคำเรียกร้องของชาวประมง เพื่อให้เป็นท่าเทียบเรือสาธารณะของชลบุรี

ในภายหลัง ได้มีการปรับปรุงสะพานปลาขึ้นใหม่จนสวยงาม และเปิดให้บริการตลาดประมงอ่างศิลาอ่างเต็มรูปแบบ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2564 ชูจุดขายให้เป็นตลาดปลากลางทะเลแห่งแรกของไทย รวบรวมร้านค้าอาหารทะเลสดๆ มากมายทั้งกุ้ง ปู ปลา หมึก หอย ไปจนถึงอาหารทะเลแปรรูป ที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อหาไปกินกันได้เลย

เต็มอิ่มกับเส้นทางเที่ยว “บางแสน-อ่างศิลา” ได้เที่ยวทั้งทะเลชิลๆ แวะชมสัตว์น้ำในพิพิธภัณฑ์ ไหว้พระ ไหว้เจ้าเพื่อความเป็นสิริมงคล แถมยังได้หาซื้อของฝากของอร่อยติดไม้ติดมือกลับบ้านกันด้วย





#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline