เส้นแกนกลางปักกิ่ง (Beijing Central Axis) หรือ “จงโจ้วเซี่ยน เป็นเขตเมืองเก่าของกรุงปักกิ่งถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์หยวน (กลางศตวรรษที่ 13 เดิมเรียกว่า "ต้าตู้") และได้รับการพัฒนาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง (ต้นศตวรรษที่ 14 ถึงต้นศตวรรษที่ 20)
ด้วยประวัติศาสตร์การพัฒนามาราว 800 ปี ปัจจุบัน “เส้นแกนกลางปักกิ่ง” ได้กลายเป็นต้นแบบคลาสสิกของการวางผังเมืองจีนโบราณ เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของเมืองหลวงจีนในอดีต รวมทั้งประวัติศาสตร์โลกของการวางผังและพัฒนาเมือง
พื้นที่แกนกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี มีความยาว 7.8 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นทางตอนใต้ของเมืองจากประตูหย่งติ้ง (Yongding) พาดผ่านประตู Zhengyang จัตุรัสเทียนอันเหมิน พระราชวังต้องห้าม เขาจิงซาน และสิ้นสุดที่หอกลองและหอระฆังในทางเหนือ
สถานที่สำคัญส่วนใหญ่ในเมืองเก่าของปักกิ่งสร้างตามแนวแกนกลาง ทั้งพระราชวังของจักรพรรดิ เมือง วัด ตลาด ถนน และจัตุรัสเทียนอันเหมินที่สร้างขึ้นหลังจากการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1949 แสดงให้เห็นถึงระเบียบการพัฒนาเชิงพื้นที่อันงดงามในตัวเมือง
"เส้นแกนกลางปักกิ่ง" มีรากฐานมาจากการวางแผนและออกแบบเมืองต้าตู้ในสมัยราชวงศ์หยวน โดยเริ่มแรกกำหนดตำแหน่งตามระบบน้ำในการขนส่งพืชพรรณอาหารของจักรพรรดิ ควบคู่ไปกับสภาพทางธรรมชาติ
โดยได้รับการออกแบบเป็นไปตามผังเมืองในอุดมคติตามวัฒนธรรมจีนดั้งเดิม ส่วนในยุคราชวงศ์หมิง มีการสร้างพระราชวังต้องห้าม ยึดพื้นฐานของพระราชวังสมัยราชวงศ์หยวน และแกนกลางขยายต่อไปถึงประตูหย่งติ้งทางทิศใต้ นับเป็นการเสร็จสิ้นของระบบแกนกลาง
ในช่วงวิวัฒนาการที่ผ่านมาอีกหลายศตวรรษ การเปลี่ยนแปลงของระบอบการเมือง ตลอดจนการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และเมือง มีอิทธิพลต่อสถาปัตยกรรมและรูปแบบเชิงพื้นที่ของ เส้นแกนกลางปักกิ่ง
อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เป็นคุณลักษณะสำคัญที่สุดและเป็นพื้นฐานของการวางผังเมือง เส้นแกนกลางปักกิ่ง ยังได้รับการอนุรักษ์อย่างเต็มที่ แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการรวมของระเบียบเชิงพื้นที่ที่ออกแบบอย่างแยบยลสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งแสดงให้เห็นโดยวิวัฒนาการของเมือง
ปัจจุบัน "เส้นแกนกลางปักกิ่ง" จึงไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของการหวนนึกถึงชีวิตในเมืองแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ภูมิทัศน์ของเมืองยังคงเต็มไปด้วยพลังที่ขับเคลื่อนในปัจจุบัน
รัฐบาลจีนมีการยื่นขอเข้าบัญชีรายชื่อมรดกโลกของเส้นแกนกลางปักกิ่ง โดยสำนักงานโบราณวัตถุแห่งชาติจีน จัดเป็นโครงการยื่นขอมรดกวัฒนธรรมโลกเรื่อยมา จนกระทั่ง องค์การยูเนสโก ประกอบรับรองเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในปี ค.ศ.2024
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline