โลกโซเชียลแห่แชร์ ภาพ “เกาะต้นไม้” กลางบึงน้ำ ไฮไลท์ของ “สวนป่าเบญจกิติ” ที่เปลี่ยนไปจนกลายเป็นดราม่า เนื่องจากดูโทรมลงผิดหูผิดตา มีน้ำเน่า-ต้นหญ้าตายซาก เหมือนไม่ได้รับการดูแล ทั้ง ๆ ที่เป็นสวนสาธารณะที่มีความโดดเด่นระดับอาเซียน
ถือเป็นอีกหนึ่งดราม่าบนโลกโซเชียล เมื่อชาวเน็ตจำนวนมากแห่แชร์ ภาพ “เกาะต้นไม้กลางบึงน้ำ” (จาก Traffy Fondue) ซึ่งเป็นไฮไลท์ของ “สวนป่าเบญจกิติ” ที่เปลี่ยนไปจนกลายเป็นไวรัล เนื่องจากเกาะต้นไม้ดูโทรมลงผิดหูผิดตา มีน้ำเน่า-ต้นหญ้าตายซาก เหมือนไม่ได้รับการดูแล
นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบภาพเกาะต้นไม้ของสวนป่าเบญจกิติในยุคของผู้ว่าฯ กทม.คนก่อน กับผู้ว่าญ กทม.คนปัจจุบันที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
สำหรับสวนป่าเบญจกิติ ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร มีเนื้อที่ประมาณ 350 ไร่ ติดกับสวนเบญจกิติทางฝั่งตะวันออก บริเวณนี้เคยเป็นพื้นที่เดิมของโรงงานยาสูบ ที่ต่อมากรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ได้ร่วมกับกองทัพบก ทำการปรับปรุงพื้นที่ใหม่ให้เป็นสวนสาธารณะ พื้นที่สีเขียวที่พัฒนาขึ้นแห่งใหม่ในกรุงเทพมหานคร
สวนป่าเบญจกิติเป็นโครงการสวนสาธารณะระยะต่อเนื่องจากสวนเบญจกิติที่ยึดแนวคิดของ “สวนน้ำ” ส่วนสวนป่าเบญจกิติยึดแนวคิดของ “ป่าในเมือง” (urban forest) หากรวมพื้นที่ทั้งหมดจะมีเนื้อที่รวมประมาณ 450 ไร่
สวนป่าเบญจกิติ ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 โดย กรมธนารักษ์ได้จัดสร้างสวนป่าระยะที่ 1 เนื้อที่ 61 ไร่ และได้ส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวให้ “กรุงเทพมหานคร” เป็นผู้ดูแลบำรุงรักษาและบริหารจัดการในปี 2563 อีกทั้งยังขอความร่วมมือจากกองทัพบกก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 เนื้อที่ประมาณ 259 ไร่ ให้มีพื้นที่ป่าและพื้นที่น้ำร้อยละ 85 โดยเพิ่มต้นไม้ในพื้นที่โครงการเข้าไปอีกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังกำหนดพรรณไม้ใหญ่ในแต่ละจุดเพื่อสร้างเอกลักษณ์ของสวนป่าในเมืองให้มีความโดดเด่นสวยงาม
สำหรับหนึ่งในไฮไลท์อันโดดเด่นที่เป็นอีกหนึ่งภาพจำของสวนป่าแห่งนี้ก็คือ “เกาะต้นไม้” กลางบึงน้ำ ที่นำมาจากภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวสวน ยกรากต้นไม้ให้สูงกว่าระดับน้ำใต้ดิน ทำให้น้ำซึมเข้าสู่ดิน รากต้นไม้สามารถดูดซับน้ำ จึงเจริญเติบโตได้ดี พร้อมทั้งลดการระเหยของน้ำ และช่วยลดอุณหภูมิของพื้นที่รอบ ๆ ได้
โดยเกาะต้นไม้กลางบึงน้ำ สามารถมองเห็นได้ชัดจากมุมสูงเมื่อมองลงมาจาก Skywalk เป็นจุดชมทิวทัศน์ยอดนิยม หรือหากใครอยากสัมผัสให้เต็มตากว่านั้น ก็มีเส้นทางเดินเท้าลัดเลาะไปตามบึงน้ำเพื่อศึกษาธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด
ขณะที่ในส่วนเส้นทางออกกำลังกายเอาใจคนรักสุขภาพแบ่งเป็นเส้นทางเดินลัดเลาะชมธรรมชาติ 5.8 กิโลเมตร เส้นทางวิ่ง 2.8 กิโลเมตร และเส้นทางจักรยาน 3.4 กิโลเมตร นอกจากนี้ เด็กและเยาวชนยังจะได้ศึกษาระบบนิเวศและธรรมชาติ โดยมีแปลงนาสาธิต ศูนย์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์ ลานกิจกรรมและอัฒจันทร์ที่รองรับผู้ใช้งานกว่า 15,000 คน รวมทั้งยังมีทางเดิน Skywalk ระยะทาง 1.6 กิโลเมตรเชื่อมต่อไปถึงสวนลุมพินี ซึ่งกลายเป็นแลนด์มาร์กยอดนิยมของผู้มาเยือนที่ไม่พลาดในการเดินเล่นและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ปัจจุบันสวนป่าเบญจกิติเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของคนเมืองที่ได้รับความนิยมอย่างมากหลังจากสวนสาสารณะแห่งนี้เปิดให้บริการ อีกทั้งยังเป็นสวนสาธารณะใหม่ของกรุงเทพฯ ที่มีความโดดเด่นในระดับอาเซียนที่เราทุกคนต้องช่วยกันดูและรักษาพื้นที่สีเขียวใจกลางกรุงฯแห่งนี้ให้เป็นอย่างดี