xs
xsm
sm
md
lg

เรียนปั้นเซรามิก เดินป่าปลูกกล้วยไม้-ตามหาต้นกาแฟ ที่ “เชียงใหม่” พักผ่อนกายใจ ณ “รายา เฮอริเทจ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รายา เฮอริเทจ
ชวนทำกิจกรรมสนุกๆ กับ “รายา เฮอริเทจ” โรงแรมริมลำน้ำปิง ที่บอกเล่าวิถีล้านนาในยุคก่อน กับกิจกรรมปั้นภาชนะเซรามิกที่ InClay Studio และกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ณ บ้านปงไคร้ เรียนรู้การขยายพันธุ์กล้วยไม้ และสำรวจเส้นทางการผลิตกาแฟออร์แกนิก

InClay Studio
ช่วงปลายปีอากาศดีๆ แบบนี้ เชื่อว่าหลายคนน่าจะอยากเก็บกระเป๋าเดินทางขึ้นเหนือ ไปพักผ่อนท่ามกลางอากาศเย็นฉ่ำ โดนเฉพาะที่ “เชียงใหม่” อันเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิต

ทริปนี้เลยจะชวนมาทำกิจกรรมใหม่ๆ ไปพร้อมกับการพักผ่อนแสนสบาย ณ “รายา เฮอริเทจ” โรงแรมสวยริมแม่น้ำปิง ใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

โซน Workshop สำหรับผู้ที่สนใจอยากเรียนการทำเซรามิค
ลองปั้นภาชนะเซรามิก ณ InClay Studio
เวลาเห็นจานสวยๆ ก็อดสงสัยไม่ได้ว่ากว่าจะได้จานชามแต่ละใบนั้นมีกรรมวิธีอะไรบ้าง มาเรียนรู้และทดลองปั้นกันได้ที่ “InClay Studio” ในตัวเมืองเชียงใหม่

ที่ “InClay Studio” เราจะได้ทำความรู้จักกับภาชนะเซรามิกรูปทรงต่างๆ เริ่มต้นกันตั้งแต่การเตรียมดิน ไปจนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม โดยคุณชิ จิรวงศ์ วงษ์ตระหง่าน ได้ก่อตั้งสตูดิโอเซรามิกแห่งนี้มานานกว่า 14 ปีแล้ว ส่วนประกอบหลักของ studio มี 3 ส่วนด้วยกัน คือ Workshop สำหรับผู้ที่สนใจอยากเรียนการทำเซรามิค, งานส่วนตัวของคุณชิที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะส่วนตัวขึ้นมา และส่วนสุดท้ายคือผลงานการผสิตเซรามิกตามความต้องการของลูกค้า

ทดลองขึ้นรูปเซรามิก

ผลงานที่รอเข้าสู่กระบวนการเผาต่อไป
จากก้อนดินที่ผ่านการผสมสัดส่วนมาเรียบร้อยแล้ว ก็มาขึ้นรูปกันแบบง่ายๆ สำหรับมือใหม่ ใครจะเลือกภาชนะรูปทรงไหนก็ตามแต่ใจชอบ นวดๆ ปั้นๆ และตกแต่งตามสไตล์ของแต่ละคน ก่อนจะวางผึ่งไว้ให้แห้งสนิท ประมาณ 3-4 วันตามแต่สภาพอากาศ จากนั้นนำเข้าเผารอบแรกที่อุณหภูมิ 800 องศา เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง จะได้เครื่องปั้นดินเผาเป็นพวกกระถางต้นไม้ หรืออิฐที่ไม่ซับน้ำ

จากนั้นมาสู่ขั้นตอนของการทำเซรามิก ก็คือการนำดินเผาจากรอบแรกมาเคลือบ แล้วจึงนำไปเผาเคลือบที่อุณหภูมิประมาณ 1,260 องศา ประมาณ 10-12 ชั่วโมง ก็จะได้ผลิตภัณฑ์เซรามิกออกมา แต่สำหรับกิจกรรมปั้นเซรามิกในช่วงเวลาสั้นๆ ของเรานั้น เพียงขึ้นรูปทรง และเลือกสีเคลือบ กระบวนการเผาและเผาเคลือบ ทางสตูดิโอจะทำให้ และส่งมอบผลงานชิ้นเอกให้เราในภายหลัง

อั่วกุ้งแม่น้ำ มาคู่กับเครื่องดื่มตะไคร้

ต้มซี่โครงหมูหยวกกล้วย มาคู่กับเครื่องดื่มพริก
Craft & Cuisine Pottery Pairing Dinner by Raya Heritage x InClay Studio
ใครที่ติดใจภาชนะเซรามิกสวยๆ ของ InClay Studio แล้วก็อยากลิ้มลองอาหารอร่อยๆ ที่จัดวางบนภาชนะสวยๆ แบบนี้ ทางรายา เฮอริเทจ ก็มีการร่วมมือกับ InClay Studio จัดเป็นเซตเมนูอาหารพิเศษ ที่คัดเลือกวัตถุดิบในทุกช่วงฤดูกาลในการทำนา ตั้งแต่การเตรียมดินไปจนถึงการเก็บเกี่ยว นำมาปรุงเป็นอาหารท้องถิ่นจานพิเศษ กับคู่กับเครื่องดื่มรสชาติดีทั้ง 4 คอร์ส เสิร์ฟในภาชนะเซรามิกที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน

มอบปู๋ แอ๊บปลา และน้ำพริกบะเขือ มาคู่กับเครื่องดื่มมะกรูด

ข้าวเม่าและไอศกรีมหมากเม่า มาคู่กับเครื่องดื่มสาโท
เริ่มต้นจากคอร์สแรก อั่วกุ้งแม่น้ำ มาคู่กับเครื่องดื่มตะไคร้ ต่อด้วย ต้มซี่โครงหมูหยวกกล้วย มาคู่กับเครื่องดื่มพริก คอร์สที่สามคือ มอบปู๋ แอ๊บปลา และน้ำพริกบะเขือ มาคู่กับเครื่องดื่มมะกรูด คอร์สสุดท้าย ข้าวเม่าและไอศกรีมหมากเม่า มาคู่กับเครื่องดื่มสาโท

โดยเซตเมนูพิเศษนี้ สามารถสำรองล่วงหน้าได้ที่ ห้องอาหารคุข้าว โรงแรมรายา เฮอริเทจ

ศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้ป่า ที่บ้านปงไคร้

สาธิตการขยายพันธุ์กล้วยไม้
เดินป่าปลูกกล้วยไม้ สำรวจเส้นทางกาแฟออร์แกนิก ณ บ้านปงไคร้
“บ้านปงไคร้” หมู่บ้านเล็กๆ ที่อุดมสมบูรณ์ ในพื้นที่ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้ป่า “ฟ้ามุ่ย” โดยที่นี่เป็นธนาคารกล้วยไม้ มีกล้วยไม้ที่ลงทะเบียนไว้กว่า 36 ชนิด

ชาวบ้านจะผลิตฝักกล้วยไม้ที่นำไปเพาะขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนให้มากขึ้น โดยเฉพาะ ฟ้ามุ่ย นกคุ้มไฟ เอื้องม่อนไข่ เอื้องคำ เป็นต้น หากนักท่องเที่ยวเข้ามาที่นี่ก็จะได้เห็นตั้งแต่การสาธิตการขยายพันธุ์กล้วยไม้ ไปจนถึงการนำพันธุ์กล้วยไม้ที่เตรียมไว้แล้วไปปลูกในป่า ในพื้นที่ที่เหมาะสม คือ เป็นป่าโปร่งที่มีแสงสว่างส่องลงมา

เดินป่าชมธรรมชาติ

เข้าป่าปลูกกล้วยไม้

ตามหาต้นกาแฟออร์แกนิก
หลังจากช่วยกันปลูกกล้วยไม้แล้ว ก็ออกเดินเท้าเข้าป่า ชมธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ เดินลัดเลาะเส้นทางในป่าที่มีให้ต้นไม้นานาพรรณ ลำธารเล็กๆ ซึ่งเป็นต้นน้ำ และชาวบ้านจะต่อท่อจากลำธารนี้ไปใช้ในหมู่บ้าน

เดินไปเรื่อยๆ ก็จะถึงบริเวณไร่กาแฟออร์แกนิก ที่จะต้องปลูกต้นกาแฟใต้ร่มไม้ใหญ่ ให้พอมีแสงแดดรำไร โดย “กาแฟปงไคร้” เป็นกาแฟอาราบิกา สายพันธุ์ Catimor จากโคลัมเบีย ซึ่งเติบโตได้ดีที่ระดับความสูง 1,000-1,100 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

ลำธารเล็กๆ ในป่า

กาแฟออร์แกนิกใต้ต้นไม้ใหญ่

ผลผลิตที่กำลังออก
ชมเมล็ดกาแฟบนต้นกาแฟที่กำลังออกผลผลิตกันแล้ว ก็มาเรียนรู้กรรมวิธีการผลิตกาแฟกันต่อ โดยที่นี่จะเป็นการแปรรูปเมล็ดกาแฟแบบเปียก เริ่มตั้นแต่การเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟ นำมาสีแยกเปลือก แช่น้ำ กะเทาะเปลือกออกจนหมด จนได้เมล็ดที่เรียกว่ากาแฟกะลา นำมาตากจนแล้ว แล้วเก็บใส่กระสอบ

จากนั้นบ่มกาแฟกะลาทิ้งไว้ 6 เดือน นำไปสีเพื่อให้เยื่อหุ้มเมล็ดหลุดออกได้เป็นสารกาแฟ และขั้นตอนสุดท้ายคือการนำมาคั่ว จนได้เป็นเมล็ดกาแฟคั่วแบบที่เราคุ้นเคยกันดี โดยกาแฟปงไคร้ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน ให้ผลผลิต 12,000 ถึง 16,000 กิโลกรัมต่อปีโดยประมาณ

หากสนใจเส้นทางการท่องเที่ยวและเรียนรู้การผลิตกาแฟออร์แกนิกที่บ้านปงไคร้ หรืออยากทดลองปั้นเซรามิกที่ InClay Studio สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โรงแรมรายาเฮอริเทจ เชียงใหม่ โทร. 053-111-670 หรืออีเมล tonhong@rayaheritage.com

เมล็ดกาแฟกะลา

ทดลองชิมกาแฟปงไคร้
“รายา เฮอริเทจ” รำลึกวิถีล้านนา พักสบายริมแม่น้ำปิง
ท่องเที่ยวกันเสร็จแล้วก็ได้เวลาพักผ่อนทั้งกายใจกันที่ “รายา เฮอริเทจ” โรงแรมสวยริมแม่น้ำปิง

ที่นี่มีแนวคิดในการออกแบบหลักๆ 4 เรื่อง คือ วิถีชีวิตริมน้ำ ที่สะท้อนออกมาให้เห็นจากสิ่งของตกแต่งต่างๆ ภายในโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์หาปลา วิถีชาวนาและการเกษตร ข้าวของเครื่องใช้ของชาวล้านนาในยุคก่อน วัฒนธรรม Cross Road เป็นการเดินทางเลียบแม่น้ำปิงในสมัยก่อน สอดแทรกให้เห็นตามมุมต่างๆ ของโรงแรม ภูมิปัญญาล้านนา มีทั้งสถาปัตยกรรมต่างๆ โครงสร้าง อิฐปูพื้น งานเครื่องสาน งานผ้า และงานทอ สุดท้ายคือการทำงานร่วมกับชุมชน ร่วมมือกับสล่าพื้นบ้าน ออกแบบข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ให้ร่วมสมัย

รายา เฮอริเทจ โรงแรมริมแม่น้ำปิง

พักผ่อนสบายริมสายน้ำ
บรรยากาศภายในโรงแรมจะร่มครึ้มไปด้วยแมกไม้ใหญ่ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นต้นไม้เดิมที่มีอยู่ มีเพียงบางส่วนที่นำมาปลูกเพิ่มเติม ทางเดินเลียบแม่น้ำปิง สามารถมาเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมดื่มด่ำความเงียบสงบของสายน้ำ โดยห้องพักของที่นี่ทั้ง 38 ห้อง จะหันหน้าเข้าหาแม่น้ำปิง ทำให้สามารถชมวิวแม่น้ำได้

ทางด้านห้องอาหารของ รายา เฮอริเทจ ก็มีทั้ง “บ้านท่า” โซนนั่งดื่มที่เน้นตกแต่งด้วยสีดำ ทำให้สามารถมองเห็นความเขียวขจีของต้นไม้ด้านนอกได้แบบสบายตา “ลานชา” ให้บริการอาฟเตอร์นูนที บรรยากาศสบายๆ เหมาะกับการนั่งพักผ่อนยามบ่าย และ “คุข้าว” ห้องอาหารหลักของโรงแรม ให้บริการตลอดทั้งวัน โดยในช่วงเช้าจะให้บริการอาหารเช้าทั้งไทยและนานาชาติ รวมถึงอาหารเพื่อสุขภาพ

ห้องพักในรายา เฮอริเทจ

อาหารเช้า ณ ห้องอาหารคุข้าว
นอกจากนี้ยังมี “ไอว่านสปา” ที่เหมาะกับการผ่อนคลายร่างกาย มีทรีตเมนต์ให้เลือกหลากหลาย ทั้งนวดไทย นวดเฉพาะส่วน นวดอโรมา และไฮไลต์คือ Bamboo Massage ผสมผสานการนวดไทย-จีน ที่ใช้ไม้ไผ่เป็นส่วนหนึ่งในการนวด

เพียงได้มาพักที่ “รายา เฮอริเทจ” ก็สัมผัสได้ถึงวันวานของล้านนา ผ่านทางการออกแบบอาคาร พื้นทางเดิน หลังคา หรือแม้แต่ของตกแต่งต่างๆ ที่เชื่อมโยงไปถึงยุคอดีต แต่ก็ยังคงความร่วมสมัย และความสะดวกสบาย ที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง (อ่านรีวิว "รายา เฮอริเทจ" เพิ่มเติมที่นี่)

ห้องอาหารคุข้าว
* * * * * * * * * * * * * *

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางท่องเที่ยวและที่พัก โรงแรมรายา เฮอริเทจ ได้ที่ โทร. 0-5311-1670 Facebook : Raya Heritage และ www.rayaheritage.com

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline




กำลังโหลดความคิดเห็น