xs
xsm
sm
md
lg

ควันหลงโตโน่...”ออนซอนนครพนม” เมืองสุขที่สุดอีหลี เลาะเลียบริมโขง ตื่นตา “กุ้ยหลินเมืองลาว”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี


จังหวัดนครพนมหนึ่งใน “เมืองสุขที่สุด” ที่น่าท่องเที่ยวไม่น้อย
“ออนซอนนครพนม” ชวนไหว้พระ -พญานาค เบิ่งโขงในตัวเมือง ตื่นตา “กุ้ยหลินเมืองลาว” งามหลาย ภูเขาหินปูนคดโค้ง แขวงคำม่วนงาม วิวจากฝั่งเขา (ลาว) แต่ชมได้ทางฝั่งเรา (ไทย) หลัง “ปรากฏการณ์โตโน่” หนุนส่งบรรยากาศท่องเที่ยวนครพนมคึกคัก...

นครพนมได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน “เมืองสุขที่สุด” เนื่องจากเคยได้แชมป์จังหวัดที่มีความสุขที่สุดของประเทศไทยในปี 2556 จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ

สำหรับเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 เป็นอีกวันหนึ่งที่ชาวนครพนมมีความสุขที่สุด รวมถึงชาวไทยส่วนใหญ่ก็มีความสุขปลื้มปริ่มไปตาม ๆ กัน กับปรากฏการณ์ “โตโน่ว่ายน้ำข้ามโขง” ในโครงการ #หนึ่งคนว่ายหลายคนให้ ที่แม้จะมีหมาเห่าหอนอยู่ตลอดทางตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ว่าก็ประสบความสำเร็จเกินคาด ได้รับยอดบริจาคล้นหลามทะลุเป้าไปมาก จากพลังความสามัคคีของพี่น้องคนไทยส่วนใหญ่ที่เชื่อมั่นในพลังความดี ยกย่องสนับสนุนคนที่ทำเพื่อส่วนรวมและการกระทำที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

พญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์กริมฝั่งโขงแห่งเมืองนครพนม
นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังทำให้การท่องเที่ยวจังหวัดนครพนมรับอานิสงส์ไปเต็ม ๆ โดยในช่วงที่นักแสดงคนดัง “โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ทำการว่ายน้ำได้มีคนแห่มาให้กำลังใจ จนโรงแรมที่พักเต็ม ร้านอาหารในเมืองขายดิบขายดี ขณะที่หลังโครงการสิ้นสุด แต่ควันหลงของปรากฏการณ์ยังคงอยู่ก็ทำให้หลาย ๆ ปักหมุด “นครพนม” ไว้เป็นหนึ่งจังหวัดในดวงใจ เพื่อที่จะมาท่องเที่ยวขอพรไหว้องค์พญานาคตามรอยโตโน่

ดังนั้นผมจึงขอพาไปทัวร์ตัวเมืองนครพนมในเส้นเลาะเลียบริมโขง ซึ่งนอกจากจะมีไฮไลท์สำคัญ คือ องค์ “พญาศรีสัตตนาคราช” ที่เป็นจุดเริ่มต้นมงคลในการว่ายน้ำของโตโน่แล้ว เส้นทางสายนี้ยังมีสิ่งน่าสนใจหลากหลาย โดยเฉพาะวิวทิวทัศน์ของ “กุ้ยหลินเมืองลาว” อันงดงามน่าตื่นตาตื่นใจริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งหลายคนต่างยกให้ริมโขงตัวเมืองนครพนม เป็นหนึ่งในจุดชมแม่น้ำโขงที่สวยที่สุดของบ้านเรา

กุ้ยหลินเมืองลาว-หาดทรายทอง


วิวทิวทัศน์ยามเช้ากุ้ยหลินเมืองลาว เมื่อมองจากริมโขงฝั่งนครพนม
แม่น้ำโขงที่ไหลเลาะเลียบตัวเมืองนครพนมนั้น ฝั่งตรงข้ามคือเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว บริเวณนี้มีถนนสุนทรวิจิตรและเขื่อนหน้าเมืองสร้างยาวเลาะเลียบริมโขงไปตลอดเป็นดังระเบียงชมวิวแม่น้ำโขงอันสวยงาม ซึ่งในช่วงวันออกพรรษาที่นี่จะมี “ประเพณีไหลเรือไฟ” อันลือลั่นของจังหวัดนครพนมให้ได้ชมกันอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

ขณะที่ในช่วงวันปกติวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงบริเวณนี้เป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กชั้นดี ดึงดูดให้คนเดินทางมาเที่ยวชมสัมผัสในความงามของธรรมชาติของลำน้ำโขง ซึ่งโดดเด่นไปด้วยวิวของภูเขาหินปูนแห่งแขวงคำม่วน สปป.ลาว ที่ทอดแนวตั้งตระหง่าน มองเห็นเป็นแนวสูง-ต่ำสลับไปมา บางช่วงมีแนวเขาซ้อนชั้นให้มิติลึกเข้าไป ในยามเช้าจะมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางสายหมอกที่ลงบาง ๆ มีเรือข้ามฟาก เรือประมงพื้นบ้านล่องผ่าน ดูงดงามประหนึ่งภาพฝัน

แนวเทือกเขาหินปูนในแขวงคำม่วน
กลุ่มแนวเทือกเขาหินปูนที่มองเห็นจากบริเวณนี้ ถูกเรียกขานว่า “กุ้ยหลินเมืองลาว” (เช่นเดียวกับที่วังเวียง) หรือ “กุ้ยหลินริมโขง” เพราะเป็นทัศนียภาพของภูเขาหินปูนน้อย-ใหญ่ คล้าย ๆ กับที่เมืองกุ้ยหลิน ประเทศจีน

กุ้ยหลินเมืองลาวแม้เป็นวิวงามที่อยู่ทางฝั่งลาว แต่กลับสามารถชมได้ทางฝั่งไทย จนมีคำกล่าวว่า “วิวจากฝั่งเขา (ลาว) ชมจากฝั่งเรา (ไทย)” ซึ่งนอกจากจะมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังถือเป็น 1 ใน 3 สิ่งที่สุดของจังหวัดนครพนม (อีก 2 สิ่งคือ พระธาตุพนมและสะพานมิตรภาพไทย-ลาว)

หาดทรายทองศรีโคตรบูรณ์ อันซีนไทยแลนด์
นอกจากนี้ในช่วงหน้าแล้งประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์-ต้นพฤษภาคม ช่วงแม่น้ำโขงลดระดับลงสุด ๆ แม่น้ำโขงบริเวณหน้าเขื่อนเมืองนครพนม จะเกิดเป็นหาดทรายน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน มีชื่อเรียกขานว่า “หาดทรายทองศรีโคตรบูรณ์” หรือ “หาดทรายทอง” ซึ่งในช่วงเช้า หาดทรายที่นี่ยามถูกแสงแดดส่องต้องกระทบจะเกิดเป็นริ้วสันดอนทรายสีทองอันงดงามจนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์อันลือลั่น

ปั่นชิลล์ เที่ยวริมโขง


บริเวณริมโขงในตัวเมืองนครพนม นอกจากวิวงามของกุ้ยหลินเมืองลาวและหาดทรายทอง (ในช่วงหน้าแล้ง) แล้ว ตลอดแนวบนถนนสุนทรวิจิตรเลียบแม่น้ำโขงริมเขื่อนหน้าเมืองยังเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวไม่ควรพลาดของจังหวัดนครพนม ซึ่งผู้สนใจสามารถขับรถเที่ยว ปั่นจักรยานเที่ยว หรือจะเดินชิลล์ ๆ เที่ยวช่วงเช้า-เย็น ในบางจุดที่อยู่ไม่ไกลกันก็สามารถทำได้

ปั่นจักรยานเที่ยวริมโขงในเมืองนครพนม
แต่ถ้าจะให้เหมาะ ได้ออกกำลังกาย ไม่เหนื่อยมาก แถมยังเป็นการเที่ยวแบบโลว์คาร์บอนตามเทรนด์รักษ์โลกที่กำลังมาแรง ผมขอแนะนำให้ปั่นจักรยานชิลล์ ๆ เที่ยวเลาะริมโขงไปเรื่อย ๆ เพราะระหว่างทางนอกจากจะมีจุดให้แวะจอดถ่ายรูปกันเพียบแล้ว ทางจังหวัดนครพนมยังทำเส้นทางจักรยานวิวงามริมฝั่งโขงให้ปั่นกันอย่างเพลิดเพลิน รวมถึงมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่เก๋ ๆ บนถนนริมโขงให้นั่งชิลล์ ๆ กันไดตามใจชอบ

สำหรับเส้นทางปั่นเลียบโขงในทริปนี้จะปั่นไล่จากใต้ขึ้นเหนือ โดยผมเอาฤกษ์เอาชัยด้วยการออกสตาร์ทจาก “วัดมหาธาตุ” ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน “พระธาตุนคร” พระธาตุศักดิ์สิทธิ์สำคัญกลางเมืองนครพนม

พระธาตุนคร
ภายในองค์พระธาตุนครบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุพระสีวลี พระพุทธรูปทองคำ และของมีค่าหลากหลาย นอกจากนี้พระธาตุนครองค์ปัจจุบันยังมีสถาปัตยกรรมคล้ายพระธาตุพนมองค์เดิมอีกด้วย

เมื่อปั่นขึ้นเหนือไปได้สักพักจะพบกับรูปเคารพ “พญาศรีสัตตนาคราช” ที่ได้ชื่อว่าเป็นพญานาคผู้สั่งสมบารมีแก่กล้ามีอิทธิฤทธิ์ล้ำเลิศ และเป็นผู้ให้กำเนิดแม่น้ำ “อุรงคนที” หรือ “แม่น้ำโขง” ในปัจจุบัน

พญาศรีสัตตนาคราช
รูปเคารพพญาศรีสัตตนาคราช เป็นประติมากรรมพญานาค 7 เศียร ขดหางบนแท่นฐานแปดเหลี่ยม ตั้งโดดเด่นสวยงามอยู่ริมฝั่งโขง “ลานพญาศรีสัตตนาคราช” (บริเวณ 3 แยก ถ.สุนทรวิจิตร และ ถ.นิตโย) แลนด์มาร์กสำคัญริมฝั่งโขงของเมืองนครพนม ซึ่งโตโน่ใช้เป็นจุดสตาร์ทมงคลของการว่ายน้ำข้ามโขงไทย-ลาวในครั้งนี้

จุดถัดไปเป็น “ลานพนมนาคา” สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และจุดท่องเที่ยวชมวิวแม่น้ำโขง ส่วนเลยไปฝั่งซ้ายจะเป็นตลาดอินโดจีนแหล่งชอปปิ้งสินค้า เสื้อผ้า ของกินที่ส่วนใหญ่มาจากเมืองจีน ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นด่านตรวจคนเข้าเมืองและท่าเรือนครพนม ที่เป็นเส้นทางทางสัญจรข้ามโขงนครพนม-เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว

วัดโอกาส (ศรีบัวบาน)
จากนั้นเมื่อปั่นถัดไปจะเป็น “วัดโอกาส (ศรีบัวบาน)”สถานที่ประดิษฐาน “พระติ้ว”-“พระเทียม” พระพุทธรูปคู่แฝด คู่บ้านคู่เมืองนครพนม เลยไปเป็น “หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์” ที่ชาวเวียดนามที่เคยอพยพมาอยู่เมืองไทยสร้างไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ชาวนครพนมเมื่อคราวย้ายกลับประเทศ ในปี พ.ศ. 2503 ท่ามกลางบรรยากาศอาคารบ้านเรือนเก่าที่ยังหลงเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง

สำหรับจุดชวนชมต่อไปเป็น “โรงเรียนสุนทรวิจิตร”(บำรุงวิทยา) โรงเรียนที่มีตึกอาคารเก่าก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมยุโรปชั้นเดียวสร้างเป็นแถวยาวดูสวยงาม

พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม (หลังเก่า)
ส่วนถัดไปเป็น “พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม (หลังเก่า)” ที่สร้างในสไตล์ “เฟรนซ์โคโลเนียล” อันงดงาม ภายในจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองนครพนม ประวัติการก่อสร้างอาคารหลังนี้ เรื่องราวการเสด็จจังหวัดนครพนมของในหลวงและพระราชินี รวมไปถึงงานประเพณีต่าง ๆ ของชาวนครพนม

จากนั้นก็มาถึงไฮไลท์จุดสุดท้ายขอเส้นทาง คือ “วัดนักบุญอันนาหนองแสง” (รองอาสนวิหารนักบุญอันนา) วัดในศาสนาคริสต์ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยคริสต์เชื้อสายเวียดนามในอำเภอเมืองนครพนม

วัดนักบุญอันนาหนองแสง” (รองอาสนวิหารนักบุญอันนา)
วัดนักบุญอันนาหนองแสงสร้างขึ้นในปี 2469 โดยคุณพ่อเอดัวร์ (เอทัวร์) นำลาภ อดีตอธิการโบสถ์ ตัวโบสถ์เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิกมีหอคอยคู่ยอดแหลมโดดเด่น ในสมัยสงครามอินโดจีนโบสถ์หลังนี้ได้รับความเสียหายจากระเบิด ก่อนจะได้รับการบูรณะซ่อมแซมในภายหลัง

และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของเส้นทางริมฝั่งโขงในตัวเมืองของจังหวัดนครพนม หนึ่งในเมืองสุขที่สุดอีหลีของบ้านเรา ซึ่งเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ไม่เพียงชาวนครพนมที่สุขที่สุด แต่ชาวไทยส่วนใหญ่ต่างมีความสุขและอิ่มเอมใจไปตาม ๆ กัน

เป็นความสุขที่เกิดจากการให้ เพื่อสนับสนุนให้คนคิดดี ทำดี ไม่ย่นย่อท้อ ต่ออุปสรรคขวากหนาม และ “มารผจญ” ที่ถาโถมเข้ามาในหลายรูปแบบ

กุ้ยหลินเมืองลาว วิวจากฝั่งเขา มองจากฝั่งเรา

ใส่บาตรริมโขง จ.นครพนม เมืองสุขที่สุดอีหลี




กำลังโหลดความคิดเห็น