“วัดพระพุทธบาทผาหนาม” สักการะพระเกจิดัง-พระธาตุเจดีย์ ชมวิวแห่งเมืองลี้แห่งลำพูน

“ลำพูน” เป็นจังหวัดเล็กๆ ในภาคเหนือที่เงียบสงบ (จนบางคนคิดว่าเงียบเกินไปเสียด้วยซ้ำ) อาจเป็นเพราะลำพูนอยู่ติดกับเมืองใหญ่อย่างเชียงใหม่ จากตัวเมืองลำพูนไปเดินทางราวครึ่งชั่วโมงก็ถึงเชียงใหม่แล้ว ความเจริญต่างๆ จึงไปอยู่ที่เชียงใหม่เสียเกือบหมด แต่นั่นก็ทำให้ลำพูนยังคงความเงียบสงบและสภาพของบ้านเมืองดั้งเดิมไว้ได้

และอีกหนึ่งความโดดเด่นของลำพูนก็คือความเป็นเมืองเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดในจังหวัดล้านนา

อย่างที่ “ลี้” อำเภอหนึ่งใน จ.ลำพูน ก็มีความเป็นมาเก่าแก่ไม่น้อย หากเล่าถึงตำนานเมืองลี้ก็สามารถย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ก่อนปี พ.ศ.1800 และจากตำนานเมืองลี้ก็จะพบว่าเมืองลี้นับถือพุทธศาสนามาตั้งแต่แรกตั้งเมือง


และปัจจุบัน หากใครได้เดินทางมาที่ “ลี้” ก็ต้องไม่พลาดที่จะมาสักการะรอยพระพุทธบาทที่ “วัดพระพุทธบาทผาหนาม” อีกหนึ่งวัดดังในอำเภอลี้

“วัดพระพุทธบาทผาหนาม” เดิมเคยเป็นวัดร้างมาก่อน พื้นที่เคยเป็นป่ารกร้างและมีแต่ซากปรักหักพัง ต่อมา “พระครูบาอภิชัยขาวปี” (ศิษย์เอกของครูบาศรีวิชัย เกจิดังแห่งล้านนา) ได้ร่วมกับชาวบ้านผาหนามที่อพยพหนีน้ำท่วมจากเขื่อนภูมิพล โดยยึดเอาการบูรณะวัดร้างบนดอยผาหนาม ให้เป็นวัดที่เจริญรุ่งเรื่องด้วยศรัทธาและสิ่งก่อสร้างมากมาย เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ

ตัววัดพระพุทธบาทผาหนาม แบ่งออกเป็นวัดทางด้านล่าง และพระธาตุเจดีย์ทางด้านบน


โดยเมื่อเดินทางมาถึงวัดทางด้านล่าง หน้าวัดก็จะมีรูปปั้นปูนขนาดใหญ่ของครูบาอภิชัยขาวปีในเครื่องนุ่งห่มแบบชีปะขาวอยู่บริเวณเชิงดอยผาหนาม ส่วนด้านหลังก็จะมี “เมรุมณฑป” อันเป็นที่ตั้งสังขารของพระครูบาอภิชัยขาวปี ด้วยวัตรปฏิบัติอันเคร่งครัด และท่านได้สร้างประโยชน์เพื่อชาวบ้านเป็นจำนวนมาก จึงทำให้พุทธศาสนิกชนเดินทางมาสักการะสังขารของท่าน โดยเฉพาะในวันที่ 3 มีนาคม ของทุกปี จะมี “ประเพณีเปลี่ยนผ้าครองสรีระสังขาร” และจะมีประชาชนเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก




สำหรับด้านบนดอยผาหนาม จะมีพระธาตุเจดีย์ 2 องค์ การเดินทางขึ้นไปก็สามารถเดินขึ้นบันไดนาค จำนวน 432 ขั้น หรือหากจะขับรถขึ้นไปด้านบนก็ทำได้สะดวกสบาย มีที่จอดรถกว้างขวาง

ขึ้นมาถึงด้านบนแล้ว แวะสักการะ “รอยพระพุทธบาท” ที่อยู่ด้านในมณฑปรอยพระพุทธบาท ซึ่งด้านในก็ยังมี “บ่อน้ำทิพย์” ที่ยังสามารถตักน้ำขึ้นมาได้ ใกล้ๆ กับมณฑปก็มี “พระนอนตาหวาน” ที่จำลองมาจากพม่า






จากนั้นออกแรงเดินขึ้นบันไดกันอีกหน่อย (ด้านข้างทำเป็นทางลาดขึ้นสู่ด้านบนได้เช่นกัน) ขึ้นไปชม “พระธาตุเจดีย์ทอง-พระธาตุเจดีย์เงิน” ซึ่งมีสะพานทางเดินเชื่อมถึงกัน เรียกว่า “สะพานบุญจารึก” และยังประดิษฐานพระพุทธรูปอีกหลายองค์ ไม่ว่าจะเป็น พระเจ้าทันใจ พระธรรมราชาสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธอรุณโรจน์ พระพุทธเมตตา เป็นต้น

และบนดอยผาหนามแห่งนี้ นอกจากจะขึ้นมาสักการะองค์พระธาตุเจดีย์แล้ว ด้านบนนี้ยังเป็นจุดชมวิวเมืองลี้ และจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าที่งดงามไม่น้อย









#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline