“ภูระงำ” ร้องระงม หลังคนมือบอนสันดานเสีย ขีดเขียนหินภาพเขียนสีโบราณเกิ้งตะขาบ อายุเก่าแก่กว่า 2-5 พันปี ที่ถือเป็นอีกหนึ่งสมบัติชาติล้ำค่าที่ต้องมาเสียหายจากการกระทำของนักท่องเที่ยวมือบอนบางคน
เพจ วนอุทยาน ภูหัน ภูระงำ เผยผาหินบริเวณภาพเขียนสีโบราณเกิ้งตะขาบที่ป่าภูระงำ ถูกนักท่องเที่ยวมือบอนขีดเขียนทำสมบัติชาติเสียหาย
ทั้งนี้เพจดังกล่าวได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความ ระบุว่า
ในขณะที่เราพยายามรักษาสมบัติของชาติไม่ให้สูญหาย เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม ก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่ทำลายมันลงเพราะความคึกคะนองหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ว่านี่คือสิ่งล้ำค่าของชาติ หากได้เห็นข้อความนี้แล้ว กรุณาหยุดพฤติกรรมนี้นะคะ
‼️❌⛔ มีผู้ขีดเขียนหินบริเวณภาพเขียนสีโบราณเกิ้งตะขาบ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่น่ารักเป็นอย่างยิ่ง และไม่สมควรลอกเลียนแบบ⛔
📣หากผู้ใดพบเห็นการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรของชาติกรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วนด้วยนะคะ🙏
สำหรับ “ป่าภูระงำ” ตั้งอยู่ที่ ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ป่าภูระงำ เป็นส่วนหนึ่งของ “วนอุทยานภูหัน-ภูระงำ” ป่าแห่งนี้ลักษณะพื้นที่เป็นป่าดิบแล้งเชื่อมป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ โดยมีภูเขาขนาดเล็กมีจุดสูงจากระดับน้ำทะเล 250 เมตร บริเวณโดยรอบมีพรรณไม้ขึ้นหนาแน่นสลับกับลานหินทราย เพิงหิน และถ้ำ
ป่าภูระงำในอดีตถือเป็น “ดินแดนลี้ลับ” โดยจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ระบุว่า ป่าแห่งนี้เคยเป็นเส้นทางจาริกธรรมะของ “หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต” พระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐาน ผู้เป็นบูรพาจารย์สายพระป่า ที่เคยพาคณะศิษย์เดินธุดงค์มาค้างแรม แล้วได้พบกับพญางูยักษ์ที่จำศีลภาวนาภายในถ้ำ โดยจะออกมาเล่นน้ำในคืนเดือนเพ็ญ และเรื่องราวของตะขาบยักษ์ ที่ล้วนเป็นเรื่องราวที่ท้าทาย และรอการสืบค้นจากผู้รู้ต่อไป
สำหรับวนอุทยานภูหัน-ภูระงำ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ในภาคอีสาน ทีนี่มีสถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ ได้แก่ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ภูหัน หินพญานาค ลานหินล้านปี และภาพเขียนสีโบราณ รวมถึงเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 2 เส้นทาง ที่ทางวนอุทยานจัดทำไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินท่องธรรมชาติ ชมประติมากรรมหิน พืชพันธุ์ไม้ และสัมผัสธรรมชาติของขุนเขาป่าไพร
นอกจากนี้วนอุทยานภูหัน-ภูระงำ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นไปด้วย “ประติมากรรมหิน” ธรรมชาติรูปร่างประหลาดแปลกตาชวนจินตนาการจำนวนมาก ที่ตั้งอยู่กระจัดกระจายไปตามพื้นที่ไหล่เขา
หินเหล่านี้เป็นหินทรายที่เกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำหรือกระแสลมเป็นเวลานาน รวมถึงมีการสะสมของตะกอนในทางน้ำโค้งตวัดตามร่องน้ำในอดีต ทำให้หินเหล่านี้มีรูปร่าง รูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น หินพญานาค หินตั้งหม้อ หรือหินสามก้อนเส้า หรือหินผาที่มีรูปลักษณะคล้ายหน้าคน เป็นต้น
ประติมากรรมหินทรายเหล่านี้ ชาวบ้านจะเรียกกันว่า “เกิ้ง” ซึ่ง เป็นคำเรียกเพิงหิน ที่ใช้พักหลบแดด ฝน อาทิ เกิ้งจ้อง เกิ้งย่ามา เกิ้งตะขาบ และเกิ้งขาม เป็นต้น
บริเวณเพิงหินทรายหรือเกิ้งที่ภูระกำ ปัจจุบันมีการค้นพบภาพเขียนสีโบราณเก่าแก่อายุนับพันปี ซึ่งเบื้องต้นนักโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น สันนิษฐานว่าภาพเขียนสีที่นี่น่าจะมีมีอายุเก่าแก่ราว 2,000-5,000 ปี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นสมบัติของชาติอันทรงคุณค่า
สำหรับแหล่งภาพเขียนที่ที่ภูระงำปัจจุบันค้นพบ 2 แหล่งด้วยกัน คือ “แหล่งภาพเขียนสีเกิ้งขาม” และ “แหล่งภาพเขียนสีเกิ้งตะขาบ” ที่ทั้ง 2 แหล่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของที่ทำการวนอุทยานฯ
แหล่งภาพเขียนสีเกิ้งขามพบภาพเขียนด้วยสีแดงบนผนังสูงจากพื้นประมาณ 3-4 เมตร มีระยะขอบเขตการกระจายของภาพยาวประมาณ 15 เมตร มีภาพเขียนประกอบด้วย ภาพเราขาคณิต เส้นตรง-เส้นโค้ง ภาพลายเส้นคล้ายรูปร่างมนุษย์ ภาพลายเส้นคล้ายภาชนะ (หม้อ) และภาพประทับฝ่ามือ
ส่วนแหล่งภาพเขียนสีเกิ้งตะขาบที่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของภูระงำ มีภาพเขียนด้วยสีแดงบนผนังหิน ซึ่งมีทั้งภาพเขียนเสมือนจริง ได้แก่ภาพลายเส้นรูปร่างคล้ายมนุษย์ ภาพสัตว์วงศ์ (ตระกูล) เหี้ย ภาพคล้ายตะขาบอันเป็นที่มาของชื่อเกิ้งแห่งนี้ รวมถึงมีภาพเรขาคณิตและภาพนามธรรม เช่น ภาพเส้นตรง-เส้นโค้ง ภาพเครื่องหมายบวก และภาพที่ไม่สามารถระบุรูปทรงได้
อย่างไรก็ดีแม้ภูระงำจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีภาพเขียนสีโบราณที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ แต่ว่าก็มีนักท่องเที่ยวไร้สำนึกบางคนไปขีดเขียนบนหินบริเวณภาพเขียนสีโบราณ ซึ่งถือเป็นการทำลายสมบัติชาติที่บัดซบไม่น้อยเลย