ย้อนรำลึกเรื่องราวและชมของสะสมน่าสนใจที่เป็นดังฝันที่เป็นจริงของ “โชคชัย บูลกุล” ผู้ล่วงลับ ผ่าน “พิพิธภัณฑ์โชคชัย” นักธุรกิจคนดัง ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้ก่อตั้งฟาร์มโชคชัยแล้ว เขายังเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกตำนานโคบาลเมืองไทยที่โดดเด่นคนหนึ่งของบ้านเรา
ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของนาย “โชคชัย บูลกุล” อีกหนึ่งบุคคลสำคัญของบ้านเรา ที่จากไปด้วยวัย 85 ปี เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา
“โชคชัย บูลกุล” เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2480 เป็นบุตรชายของ นายมา และ นางบุญครอง บูลกุล ผู้ทำธุรกิจค้าข้าวและโรงสีระดับเจ้าสัว (รวมถึงเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง หรือ เอ็มบีเค)
โชคชัยเป็นบุตรคนที่ 7 ในบรรดาพี่น้อง 8 คน เขาเป็นลูกคนเดียวที่เกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ชีวิตจึงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเหมือนลูกคนมีเงินทั่ว ๆ ไป
โชคชัยชื่นชอบและใฝ่ฝันที่จะเป็น “คาวบอย” (Cowboy) หรือที่คนไทยสมัยก่อนนิยมเรียกว่า “โคบาล” มาตั้งแต่เด็ก ตามเทรนด์ภาพยนตร์ตะวันตกในยุคนั้นที่พระเอก (คาวบอย) สวมหมวก นุ่งยีนส์ ควงปืน และขี่ม้าโลดโผน
เมื่อเติบใหญ่โชคชัยไปเรียนด้านการปศุสัตว์จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่อจบการศึกษากลับมาเมืองไทย โชคชัยเริ่มต้นงานทางด้านธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง จากนั้นเขาสานฝันวัยเยาที่อยากเป็นคาวบอยด้วยการก่อตั้งฟาร์มโคนมชื่อ “ฟาร์มโชคชัย”ขึ้น เมื่อปี 2511 ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ปัจจุบันฟาร์มโชคชัยถือเป็นอีกหนึ่งต้นแบบของฟาร์มสมัยใหม่ในบ้านเรา รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ พักผ่อนหย่อนใจ และทำกิจกรรมใกล้กรุง ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศซึ่งมีดีกรีคว้ารางวัลต่าง ๆ มากมาย การันตีในคุณภาพ
นอกจากนี้ด้วยความที่โชคชัยเป็นนักสะสมตัวยง เขาจึงได้นำของสะสมจำนวนมากทั้งของที่ชื่นชอบ ของล้ำค่า และของหายากจำนวนมากที่เก็บรักษาไว้มาจัดแสดงที่ “พิพิธภัณฑ์โชคชัย รังสิต” จ.ปทุมธานี เพื่อบอกเล่าเรื่องราว รำลึกความทรงจำวันวาน รวมถึงให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาหาความรู้
พิพิธภัณฑ์โชคชัย รังสิต จัดแสดงของสะสมส่วนตัวของนายโชคชัยที่มีหลากหลาย โดยมีอาคารจัดแสดง 5 ชั้น แบ่งการจัดแสดงออกเป็นส่วนต่าง ๆ ดังนี้
-ชั้น 1 เป็นส่วน “ยานยนต์” รวบรวมรถคลาสสิกหายาก อาทิ Mercedes Benz 300 SL Gull Wing สุดยอดยนตรกรรมหรูหรา, Cadillac สุดยอดยนตรกรรมคลาสสิค สไตล์อเมริกัน และJaguar สุดยอดสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ 12 สูบ
นอกจากนี้ก็ยังมี ยานยนต์ที่ใช้ในการทหาร อย่างเช่น รถฮัมวี่ รถสะเทินน้ำสะเทินบก เป็นต้น
-ชั้น 2 แบ่งออกเป็นห้องย่อยต่าง ๆ ได้แก่ “ห้องเขาสัตว์” จัดแสดงเขาสัตว์ (จำลอง) ทำจากเรซิ่น ที่มีรายละเอียดและรูปทรงต่าง ๆ เหมือนเขาจริงทุกประการ โดยมีไฮไลท์คือ “เขาสมัน” สัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วจากเมืองไทยมารำลึกไว้ให้ชมกัน เขาสมันยามมีชีวิตมีความพิเศษตรงที่สามารถแตกกิ่งออกมาได้คล้ายต้นไม้ โดยส่วนที่โชว์เป็นเขาสมันที่แตกกิ่งมากที่สุดในโลกถึง 32 กิ่ง (ปกติเขาสมันทั่วไปจะแตกกิ่งประมาณ ข้างละ 8-9 กิ่ง)
“ห้องปืน” ด้วยความที่นายโชคชัยชื่นชอบวิถีชีวิตแบบคาวบอย จึงสะสมปืนเอาไว้เพื่อชื่นชมมากมาย ห้องนี้มีปืนของนายโชคชัยจัดแสดงอยู่ทั่วทั้งห้อง โดยมีปืนเด่น ๆ อาทิ ปืนยาวคานเหวี่ยง เป็นปืนกระบอกแรกในชีวิตของนายโชคชัย, ปืนไรเฟิลที่ใหญ่ที่สุดในโลก, ปืนสั้นลูกโม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และปืนไรเฟิล 4 กระบอกรุ่น Crown custom ที่นายโชคชัยสั่งทำพิเศษเป็นปืนประกอบด้วยมือ ที่พานท้ายปืนมีลวดลายแกะสลัก ใต้ตัวปืนมีแผ่นทองแกะสลักชื่อโชคชัย ฯลฯ รวมถึงมีปืนสั้นกระบอกแรกที่นายโชคชัยรักมากที่สุด เพราะเป็นปืนคู่ชีพที่พกติดตัวตลอดเมื่อครั้งบุกเบิกฟาร์มโชคชัย
นอกจากปืนแล้วภายในห้องนี้ยังจัดแสดงกล้องต่าง ๆ เนื่องจากนายโชคชัยนิยมถ่ายภาพเป็นงานอดิเรก จึงมีกล้องสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก โดยที่จัดแสดงในนี้ทุกตัวล้วนเป็นกล้องในระบบ Manual ทั้งนั้น
“ห้องคริสตัล” ถือเป็นห้องชวนตื่นตาตื่นใจของชั้นนี้ เพราะเมื่อเดินเข้าห้องนี้มาจะได้พบกับประกายระยิบระยับอยู่ทั่วบริเวณ คริสตัลในห้องนี้มาจากบริษัทสวารอฟสกี้ ที่ถือว่ามีชื่อเสียงและโด่งดังก้องโลก ซึ่งผลิตออกมาจำนวนจำกัด
สำหรับคริสตัลเด่น ๆ ที่จัดแสดง มีอาทิ คริสตัลรูปม้า คริสตัลรูปงูใหญ่ ชุดเชิงเทียน ที่บดกาแฟและกังหันลม รวมถึงคริสตัลเพชรเม็ดใหญ่ยักษ์ที่มีน้ำหนักถึง 24 กิโลกรัม ซึ่งถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับนายโชคชัย เป็นต้น
-ชั้น 3 เป็นห้องจัดแสดงที่บอกเล่าเรื่องราวของนายโชคชัยและภาพบรรยากาศในสมัยบุกเบิกทำฟาร์มในปี พ.ศ.2500 ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นอกจากนี้ก็ยังมี “เจ้ากลางดง” ม้าคู่ใจของนายโชคชัยที่ได้สตาฟฟ์เก็บไว้ให้ชมกัน
-ชั้น 4 นำโดยห้อง “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” จัดแสดงพระพุทธรูปในสมัยต่าง ๆ พระโพธิสัตว์กวนอิม พระสังกัจจายน์ องค์จตุคามรามเทพ รูปหล่อโลหะรัชกาลที่ 5 รูปเคารพกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และรูปเคารพนักษัตร 12 ราศี เป็นต้น
ที่ชั้น 4 ยังมีห้อง “สิ่งของสะสม” จัดแสดงของสะสมของนายโชคชัยจำนวนมากและหลากหลาย นำโดยโมเดลรถเล็กต่าง ๆ กว่า 800 คัน โมเดลยานยนต์อย่างเช่น รถถัง เรือรบ เครื่องบินรบ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีตู้ของที่ระลึกสมเด็จย่า, ตู้ของที่ระลึกในหลวงรัชกาลที่ 9, ตู้โมเดลม้าสายพันธุ์ต่างๆ, ตู้โมเดลสัตว์ป่า, ตู้โมเดลปลาทะเลสวยงาม และ เรือหยกแกะสลักที่สั่งทำจากจีนใช้เวลาในการทำถึง 3 ปี เป็นต้น
-ชั้น 5 จัดแสดงบรรยากาศจำลองของ “ป่าดงพญาไฟ” ในช่วงปีพ.ศ.2499 ที่เป็นช่วงที่บ้านเรามีป่าไม้อุดมสมบูรณ์มีสัตว์ป่าชุกชุม ซึ่งนายโชคชัยได้เคยพบเจอในช่วงที่ขับรถมาหาที่ที่มีภูมิประเทศและภูมิอากาศเหมาะสมกับการทำการเกษตรและฟาร์มปศุสัตว์จนมาพบกับพื้นที่บริเวณอำเภอปากช่องดังปัจจุบัน
นอกจากส่วนจัดแสดงทั้ง 5 ชั้นแล้ว พิพิธภัณฑ์โชคชัย รังสิต ยังมี “สวนสัตว์เผือก” ซึ่งเป็นสัตว์เผือกหรือสัตว์ตัวสีขาวต่าง ๆ ที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกายจนเกิดการกลายพันธุ์ ซึ่งหาชมไม่ได้ง่าย ๆ อาทิ ลิงเผือก, จิ้งโจ้เผือก, จระเข้เผือก, สกั๊งค์, แรคคูณ, เสือขาว และสิงโตขาว เป็นต้น
รวมถึงมีโซน “เรือนไทยประยุกต์และห้องเบญจรงค์” จัดแสดงบ้านทรงไทย อันเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติมาจัดแสดง พร้อม เครื่องเบญจรงค์ ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากจีน เมื่อเข้าสู่ประเทศไทยจึงมีการพัฒนาลวดลายโดยช่างไทยเพื่อให้ได้รูปลักษณ์และลวดลายงดงามเป็นเอกลักษณ์ของไทย
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของ พิพิธภัณฑ์โชคชัย รังสิต ที่เป็นหนึ่งในฝันที่เป็นจริงของนายโชคชัย บูลกุล อีกหนึ่งบุคคลมีชื่อเสียงของไทยที่ตัวตายแต่ชื่อยัง
####################################
“พิพิธภัณฑ์โชคชัย รังสิต” ตั้งอยู่ที่ถนนวิภาวดีรังสิต ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี (ริมถนนวิภาวดี-รังสิต ฝั่งขาเข้าก่อนถึงเซียร์รังสิต ตรงข้ามถนนเข้าม.รังสิต) เปิดให้บริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-16.00 น. (ปิดรับทัวร์กลุ่มสุดท้ายเวลา 16.00 น.) โทร.0-2532-2846 ต่อ 1902 และ 0-2998-9346,0-2998-9867
นอกจากนี้ก็ยังมี “พิพิธภัณฑ์โชคชัย ปากช่อง” ตั้งอยู่ที่ ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดทำการ วันอังคาร-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09:30-16:30 น. (ปิดรับทัวร์กลุ่มสุดท้าย เวลา 16:30 น.) โทร. 044-081-225-8