ดราม่าหนัก! หลัง “ท๊อป บิทคับ” ออกมาแนะรัฐ ให้ยกเลิกชูธงการหารายได้เข้าประเทศจากการท่องเที่ยวไทย อ้างล้าหลัง แต่ให้หันมาชูไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจติจิทัลแทนเพื่อความมั่งคั่งของประเทศ งานนี้ทำให้เกิดเป็นกระแสบนโลกโซเชียล โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างไม่เห็นด้วย หลายคนถึงขนาดบอกว่า “ใช้ส่วนไหนคิด”
ถือเป็นอีกหนึ่งกระแสทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ บนโลกโซเชียล เมื่อ นาย “จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” หรือ “ท๊อป จิรายุส” หรือ “ท๊อป บิทคับ” ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ Thailand “Next” to Web 3.0 ในงาน Thailand Metaverse Expo 2022 เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในการปาฐกถาดังกล่าว ได้ระบุถึงแนวโน้มเทรนด์เศรษฐกิจในอนาคตว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันในภูมิภาคเอเซียและประเทศไทย (อ่านเพิ่มเติมที่ ศาสดาเหรียญ Kubcoin แนะรัฐเลิกชูธงนโยบายท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจ
โดยส่วนหนึ่งของการปาฐกถา นายจิรายุส ได้แนะรัฐให้เลิกชูธงนโยบายท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจ ก่อนถอยหลังลงคลอง ขณะที่แผนพัฒนานโยบายเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้น เดิมทีประเทศไทยเป็นประเทศที่ใช้แผนนโยบายพึ่งพาเศรษฐกิจในโลกเก่าเช่น Amazing Thailand หรือการดึงเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวเข้ามา ซึ่งมองว่าสวนทางกับทิศทางเศรษฐกิจของโลกในปี 2030 โดยมองว่าอนาคต ทุกคนต่างเตรียมเลิกใช้รถยนต์สันดาบแล้ว เราจะยังคงเดินหน้าสนับสนุนการผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ใช้น้ำมันสำหรับต่อไปหรือไม่ เช่นที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้มีการอนุมัติจัดตั้งรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ เพราะวันนี้เขารู้แล้วว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าเขาจะไม่สามารถส่งออกน้ำมันเป็นหลักได้อีกต่อไป
“ประเทศไทยควรจะต้องเปลี่ยนจากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือ Amazing Thailand ที่ล้าหลังมากกว่า 20 ปี ซึ่งมองว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าไทยซึ่งเป็นภูมิรัฐศาสตร์ของการเป็น hub ในภูมิภาคนี้ และควรเป็น digital hub ด้วยเช่นกัน ซึ่งรัฐควรส่งเสริมและเริ่มต้นโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัลตั้งแต่วันนี้ และควรที่จะยกเลิกเศรษฐกิจยุคเก่าโดยเน้นการให้ความสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งควรวางโครงสร้างพื้นฐานให้มั่นคงเพราะจะนำพามาซึ่งความมั่งคั่งให้กับประเทศ”
นอกจากนี้นายจิรายุส ยังมีคำกล่าวบางส่วนถึงเรื่องดังกล่าวอีกว่า
“ผมเชื่อว่าเว็บ 3.0 จะเกิดขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งเริ่มมาแล้วตั้งแต่ปี 2020 และส่วนตัวมองว่าในอนาคตความมั่งคั่งจะมากขึ้นกว่าเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และข้อดีของโลกใหม่ที่เกิดขึ้นคือไม่มีผู้เล่นเก่าที่ครองตลาดอยู่แล้วเพราะทุกคนเริ่มต้นจากศูนย์พร้อมกัน และในอนาคตรายได้ของประเทศทั่วโลกจะมาจากเศรษฐกิจดิจิทัลซึ่งเป้าหมายของประเทศไทยในอนาคตจะไม่ใช่ Amazing Thailand แต่เราจะต้องเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคนี้ ซึ่งถ้าเรามีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนเราก็ต้องเริ่มจากโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัลตั้งแต่วันนี้” นายจิรายุส กล่าว
หลังคำปาฐกถาดังกล่าวของนายจิรายุสถูกเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน ได้เกิดเป็นกระแสบนโลกโซเชียลที่มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของนายจิรายุส
ทั้งนี้ส่วนใหญ่ต่างเห็นว่าไทยไม่ควรยกเลิกนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นหนึ่งในรายได้หลักของประเทศ ซึ่งประเทศไทยมีความโดดเด่นระดับโลกในหลายเรื่อง ทั้งธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม อาหารการกิน ที่พักและบริการ อีกทั้งยังมีคนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนับล้านคน โดยหลายคนให้ความเห็นว่า รัฐควรหารายได้เข้าประเทศในทุกทางทั้งจากการท่องเที่ยว การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิตอล และจากช่องทางอื่น ๆ
นอกจากนี้ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีนโยบายขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล สร้างความสามารถในการแข่งขันเพื่อก้าวสู่ “เศรษฐกิจดิจิทัล” ที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศและของโลก ออกมาได้ระยะหนึ่งแล้ว
ด้านนาย “เถกิง สมทรัพย์” อดีตนายกสมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ไทย ที่ปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัทนำเที่ยว ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวบัญชีรายชื่อ เถกิง สมทรัพย์ ตอบโต้แนวคิดดังกล่าวว่า
อ้าว..
เอ็งจะหารายได้จากเศรษฐกิจดิจิตอลก็ทำไปสิ
จะไปยุ่งกับการทำมาหากินของคนอื่นทำไม..
การท่องเที่ยวนี่หลายแสนล้านเลยนะเมิง..
แรงงานในการท่องเที่ยวเป็นล้านคน..พี่ก็พูดพล่อยๆไปได้
#พูดผิดพูดใหม่ได้นะ
ขณะที่ชาวเน็ตหลายคนก็ได้ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ในคำกล่าวปาฐกถานี้ นายจิรายุส “ใช้ส่วนไหนคิด”