xs
xsm
sm
md
lg

ศาสดาเหรียญ Kubcoin แนะรัฐเลิกชูธงนโยบายท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ศาสดาเหรียญ Kubcoin แนะรัฐยกเลิกนโยบาย Amazing Thailand ส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศ เหตุล้าหลัง สวนทางเทรนเศรษฐกิจโลกดิจิทัลในปี 2030 ที่เป็นยุคเศรษฐกิจดิจิทัลเต็มรูปแบบ ชี้ควรปรับกลยุทธ์ทำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลตั้งแต่วันนี้ เพื่อกอบโกยความมั่งคั่งจากการเป็น Hub Digital ในอนาคต

จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา (ท๊อป) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ Thailand "Next" to Web 3.0 ในงาน Thailand Metaverse Expo 2022 โดยระบุถึงแนวโน้มเทรนเศรษฐกิจในอนาคตว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันในภูมิภาคเอเซียและประเทศไทย ซึ่งมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเฉลี่ยมากขึ้นจากเดิมที่ประมาณ 80 ล้านคนเป็น 350 ล้านคน โดยสัดส่วนเฉลี่ย 9 ใน 10 คน เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล ซึ่งมุมมองที่สะท้อนของผู้บริหารต่างๆ ในการแสดงวิสัยทัศน์ จาก Google ที่ซิลิคอนวัลเลย์และในงาน World Econic Forum ณ เมือง Davos ต่างมีมุมมองที่สอดคล้องกันว่าปัจจุบันนี้มีองค์กรต่างๆต้องเชื่อมโยงสอดประสานกับโลกดิจิทัล และสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือความมั่งคั่งที่บริษัทจะกอบโกยจากเศรษฐกิจดิจิทัล

อย่างไรก็ดีหากย้อนไปในอดีต การพัฒนาของประเทศในยุคบุกเบิกเริ่มแรกนั้นมาจากการทำเกษตรกรรมและเริ่มพัฒนาเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนมาใช้เครื่องจักร ซึ่งหลังจากนั้น หลายๆประเทศปรับเปลี่ยนแนวทางสู่ความเป็นอุตสาหกรรมเต็มรูปแบบ และปัจจุบันหลายๆประเทศก็เริ่มขยับก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุดคือในอนาคต เทคโนโลยีด้านเงินทุนจะเปลี่ยนไป มีการหมุนเวียนเชื่อมโยงกันมากขึ้น โดยผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน

"ท๊อป จิรายุส" แนะรัฐเลิกชูธงนโยบายท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจ ก่อนถอยหลังลงคลอง ขณะที่แผนพัฒนานโยบายเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้น เดิมทีประเทศไทยเป็นประเทศที่ใช้แผนนโยบายพึ่งพาเศรษฐกิจในโลกเก่าเช่น Amazing Thailand หรือการดึงเม็ดเงินนจากนักท่องเที่ยวเข้ามา ซึ่งมองว่าสวนทางกับทิศทางเศรษฐกิจของโลกในปี 2030 โดยมองว่าอนาคต ทุกคนต่างเตรียมเลิกใช้รถยนต์สันดาบแล้ว เราจะยังคงเดินหน้าสนับสนุนการผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ใช้น้ำมันสำหรับต่อไปหรือไม่ เช่นที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้มีการอนุมัติจัดตั้งรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ เพราะวันนี้เขารู้แล้วว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าเขาจะไม่สามารถส่งออกน้ำมันเป็นหลักได้อีกต่อไป


"ประเทศไทยควรจะต้องเปลี่ยนจากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือ Amazing Thailand ที่ล้าหลังมากกว่า 20 ปี ซึ่งมองว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าไทยซึ่งเป็นภูมิรัฐศาสตร์ของการเป็น hub ในภูมิภาคนี้ และควรเป็น digital hub ด้วยเช่นกัน ซึ่งรัฐควรส่งเสริมและเริ่มต้นโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัลตั้งแต่วันนี้ และควรที่จะยกเลิกเศรษฐกิจยุคเก่าโดยเน้นการให้ความสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งควรวางโครงสร้างพื้นฐานให้มั่นคงเพราะจะนำพามาซึ่งความมั่งคั่งให้กับประเทศ"

ในโลกแห่งความจริงถ้าหากไม่มีทางด่วนไม่มีถนนเราคงไม่สามารถพัฒนาเศรษฐกิจได้ ขณะที่ในโลกดิจิทัลถ้าหากเราไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับประเทศไทย ก็ไม่สามารถพัฒนาเพื่อรับความเติบโตได้ได้เช่นกัน

เตรียมความพร้อมเปิดรับ Web 3.0 วันนี้เรามีเรื่องราวของ Internet from the sky หรืออินเตอร์เน็ตจากท้องฟ้าซึ่งบริษัทใหญ่ๆอย่าง Google , Facebook และ Starlink ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งของ Elon Musk ที่มีการแข่งขันกันสูงและในอนาคตจะมาทดแทนเทคโนโลยีรูปแบบเก่าเช่นอินเตอร์เน็ตแบบระบบสาย นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ VR และ XR ที่เข้ามาเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตเรา และส่วนสุดท้ายคือเรื่องราวของปัญญาประดิษฐ์

"ผมมีโอกาสได้ไปเห็นกับตากับบริษัท Microsoft ที่เขาใช้เงิน 2,000-3,000 ล้านในการซื้อบริษัทปัญญาประดิษฐ์ที่ทำให้ผู้คนสามารถพูดคุยกับคอมพิวเตอร์ได้เสมือนกับการไปหาหมอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่บุคลากรในอนาคตของเราจะต้องพัฒนาทักษะให้รองรับกับสิ่งเหล่านี้ซึ่งนี่ยังไม่รวมเรื่องราวของเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติที่จะสามารถทำให้เราผลิตสิ่งต่างๆได้ตามใจนึก"

นอกจากนี้ในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้นและสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ ที่ผ่านมาเวลาเราต้องการที่จะติดต่อสื่อสารกันแบบตัวต่อตัวการที่เราไม่มีเทคโนโลยีก็จำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการสื่อสารออกไปหาคนจำนวนมาก เช่นงานวันนี้อาจจุคนได้จำนวนหนึ่งแต่เมื่อมีเทคโนโลยีแล้วเราสามารถที่จะถ่ายทอดสดออกไปยังผู้คนหลายล้านคนทั่วประเทศได้ ซึ่งในเว็บ 3.0 จะทำให้ข้อจำกัดของเทคโนโลยีการถ่ายทอดสดหายไปนั่นคือเราสามารถมองเห็นตัวตนของบุคคลต่าง ๆ ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เสมือนมาอยู่ตรงหน้าเราจริง ๆ ด้วยงบประมาณที่น้อยลง

"ผมเชื่อว่าเว็บ 3.0 จะเกิดขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งเริ่มมาแล้วตั้งแต่ปี 2020 และส่วนตัวมองว่าในอนาคตความมั่งคั่งจะมากขึ้นกว่าเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และข้อดีของโลกใหม่ที่เกิดขึ้นคือไม่มีผู้เล่นเก่าที่ครองตลาดอยู่แล้วเพราะทุกคนเริ่มต้นจากศูนย์พร้อมกัน และในอนาคตรายได้ของประเทศทั่วโลกจะมาจากเศรษฐกิจดิจิทัลซึ่งเป้าหมายของประเทศไทยในอนาคตจะไม่ใช่ Amazing Thailand แต่เราจะต้องเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคนี้ ซึ่งถ้าเรามีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนเราก็ต้องเริ่มจากโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัลตั้งแต่วันนี้"




กำลังโหลดความคิดเห็น