เปิดตัวเพิ่มกันไปแล้ว สำหรับคู่มือ “มิชลิน ไกด์” ประเทศไทย ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นฉบับที่ 6 ของไทย โดยในครั้งนี้มีการขยายไปยังภาคอีสาน โดย 4 จังหวัดที่ได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนคือ นครราชสีมา, อุบลราชธานี, อุดรธานี และ ขอนแก่น นับเป็นจังหวัดหน้าด่านที่อุดมไปด้วยของกินที่หลากหลาย
และก่อนที่ มิชลิน ไกด์ จะประกาศรายชื่อร้านอาหารที่ได้รับรางวัลทั้งหมดในเดือนธันวาคม 2565 ก็เลยอยากชวนทุกคนมารู้จักกันสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของ 4 จังหวัดที่ได้รับคัดเลือกในครั้งนี้กัน
นครราชสีมา
อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
แลนด์มาร์กที่สำคัญอันดับต้นๆ เมื่อมาเยือนนครราชสีมาที่หลายคนนึกถึงก็คือ “อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี” หรือ “ย่าโม” ที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักกันดี เพราะถ้าใครได้มาโคราช ก็ต้องไปกราบสักการะกัน เพราะหากไม่ได้ไปก็จะเหมือนมาไม่ถึงโคราชนั่นเอง
“อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี” หรือที่คนส่วนใหญ่นิยมเรียกกันว่า “อนุสาวรีย์ย่าโม” ตั้งอยู่ด้านหน้าประตูชุมพล (ประตูเมืองด้านทิศตะวันตก) ตัวอนุสาวรีย์เป็นรูปหล่อทองแดงรมดำ สูง 1.85 เมตร แต่งกายด้วยเครื่องยศพระราชทานในท่ายืน มือขวากุมดาบ ปลายดาบจรดพื้น ซื้อซ้ายท้าวเอว หันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บนฐานไพทีสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองซึ่งบรรจุอัฐิของท่าน
วัดศาลาลอย
“วัดศาลาลอย” ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นวัดเก่าแก่ที่ท้าวสุรนารีสร้างขึ้น กับ พระยาสุริยเดช หรือ ปลัดทองคำ ปลัดเมืองนครราชสีมา ผู้เป็นสามี หลังจากที่รบชนะกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2370 หลังจากเสร็จศึกสงครามที่ทุ่งสัมฤทธิ์ ขณะยกทัพกลับเมืองนครราชสีมา คุณหญิงโมได้แวะพักบริเวณท่าตะโก และได้สั่งให้ทหารทำแพเป็นรูปศาลาเสี่ยงทายลอยไปตามลำตะคอง พร้อมตั้งจิตอธิฐาน หากแพรูปศาลานี้ ลอยไปติดอยู่ ณ ที่แห่งใด จะสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ ซึ่งแพได้ลอยไปติดอยู่ริมฝั่งขวาของลำตะคอง ซึ่งเป็นวัดร้าง จึงได้สร้างพระอุโบสถขึ้น เป็นวัดศาลาลอยในปัจจุบัน
วัดบ้านไร่
บนถนนมิตรภาพก่อนเข้าตัวเมืองโคราช จะมีถนนให้เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปยัง อ.ด่านขุนทด ให้เราได้แวะไปที่ “วัดบ้านไร่” ไปสักการะพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ท่านคือหนึ่งในเกจิชื่อดังของเมืองไทย เป็นพระผู้ใหญ่ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย มีผู้คนให้เคารพนับถือมากมายเต็มบ้านเต็มเมือง ซึ่งถึงแม้ท่านจะละสังขารไปแล้วท่ามกลางความโศกเศร้าของคนไทย แต่หลักธรรมคำสอนของท่านยังดำรงคงอยู่เป็นมรดกตกทอดให้อนุชนคนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้และนำไปปฏิบัติ
หลวงพ่อทวดเขาใหญ่ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
อีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจเมื่อไปเยือนเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ก็คือ “พุทธอุทยานอาณาจักรหลวงพ่อทวด เขาใหญ่” ใครไปท่องเที่ยวที่เขาใหญ่จะต้องสะดุดตากับ “หลวงปู่ทวด” หรือ “หลวงพ่อทวด” องค์สีเหลืองทองขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 35 ไร่ งดงามอลังการจนต้องเลี้ยวรถแวะเข้าไปกราบสักการะเพื่อเป็นความสิริมงคลกัน
อุบลราชธานี
วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว
หนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสุดอัศจรรย์ของอุบลราชธานี “วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว” เมื่องานพุทธศิลป์รูปต้นไม้ที่ผนังด้านหลังโบสถ์จะค่อยๆ เปล่งประกาย เกิดเป็นรูปต้นไม้เรืองแสงอันโดดเด่นท่ามกลางความมืด จนผู้คนขนานนามวัดแห่งนี้ว่า “วัดเรืองแสง”
วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง โดยจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศ บริเวณบนยอดเขาจะมองเห็นพระอุโบสถสีปัดทอง จุดเด่นของวัดคือ การได้มาชมภาพเรืองแสงเป็นสีเขียวของของต้นกัลปพฤกษ์ที่เป็นจิตรกรรมอยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถ ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาชมและถ่ายภาพต้นกัลปพฤกษ์ คือตั้งแต่เวลา 18.00 -20.00 น. จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะได้มองเห็นต้นไม้เรืองแสง
โขงเจียม
“โขงเจียม” อำเภอสุดท้ายของไทยที่สายน้ำโขงไหลผ่าน หากมีโอกาสได้มาพักที่นี่ แนะนำให้ตื่นแต่เช้า มารอชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมวิวสวยๆ ของลำน้ำโขงกันที่ “วัดถ้ำคูหาสวรรค์”
ภายในวัดมีจุดชมวิวแม่น้ำโขง และจุดชมวิวแม่น้ำสองสี (จุดที่แม่น้ำโขงและแม่น้ำมูลไหลมารวมกัน) ที่ต้องเดินขึ้นไปด้านบน ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบๆ ได้ในมุมสูง โดยจะมองเห็นทั้งบ้านเรือนในตัวเมืองโขงเจียม ทิวทัศน์ฝั่ง สปป.ลาว และแม่น้ำโขงที่แบ่งเขตแดนระหว่างสองประเทศ
เก้าพันโบก
บริเวณโขงเจียมแห่งนี้ ยังทำให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ อีกแห่ง ที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ นั่นคือ “เก้าพันโบก” เกาะแก่งหินกลางแม่น้ำโขง มีลักษณะเป็นแอ่งหรือหลุมขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ที่จะต้องนั่งเรือล่องลำน้ำโขงไปชม
“เก้าพันโบก” มีลานหินและโบกขนาดใหญ่น้อยกว้างขวางสุดสายตา เป็นประติมากรรมจากธรรมชาติที่สร้างสรรค์ความงามอันน่าทึ่ง รูปร่างของโบกแต่ละจุดนั้นมีความแตกต่างกันไป บางจุดก็มีรูปร่างชัดเจน แต่บางจุดก็ต้องอาศัยจินตนาการของแต่ละคนว่าจะมองเห็นเป็นรูปอะไร
Nature Walkway
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา “Nature Walkway” ซึ่งตั้งอยู่ที่ “เขื่อนสิรินธร” (อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี)
สำหรับเขื่อนสิรินธรนั้น เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่มีความสำคัญยิ่งแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเขื่อนประเภทหินถมแกนดินเหนียวสร้างปิดกั้นแม่น้ำลำโดมน้อยอันเป็นสาขาของแม่น้ำมูล นอกจากจะให้ประโยชน์ด้านการผลิตพลังงานไฟฟ้า การชลประทาน และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนแล้ว ยังเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างมาก
โดย “Nature Walkway” เป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ล่าสุดของเขื่อนสิรินธรที่เพิ่งเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ไม่นาน แต่ก็มีผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จากทัศนียภาพที่งดงาม สามารถเดินชมวิวสวยๆ บนเส้นทางเดินชมธรรมชาติในมุมสูง ความยาวกว่า 415 เมตร ซึ่งขณะนี้เปิดให้ชมในเฟสแรก ความยาวกว่า 200 เมตร
อุดรธานี
คำชะโนด
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์เด็ดของอุดรธานี ที่ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมายังเมืองนี้กันเป็นจำนวนมากก็คือ “คำชะโนด” หรือ “วังนาคินทร์” แห่ง “วัดศิริสุทโธ” ต.วังทอง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี มีลักษณะเป็นเกาะน้ำจืด ที่เต็มไปด้วย “ต้นชะโนด” ซึ่งเชื่อกันว่าสถานที่แห่งนี้เป็นทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับเมืองบาดาลของพญานาค
บนเกาะคำชะโนดมีไฮไลต์สำคัญ คือ “ศาลของเจ้าปู่ศรีสุทโธและเจ้าย่าศรีปทุมมา” (พ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา) สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของที่นี่ ซึ่ง แต่ละวันจะมีคนเดินทางมากราบไหว้เจ้าปู่และเจ้าย่ากันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ก็ยังมี “ต้นมะเดื่อยักษ์” อายุนับ 100 ปี ที่เชื่อกันว่าเป็นขุมทรัพย์ของเจ้าปู่-เจ้าย่า และ “บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์” หรือ “บ่อคำชะโนด” ที่เชื่อกันว่าเป็นทางเข้า-ออก ระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์ของเหล่าพญานาค
ทะเลบัวแดง
“ทะเลบัวแดง” แห่งหนองหาน อ.กุมภวาปี บึงน้ำจืดขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 22,500 ไร่ ซึ่งทุก ๆ ปี ในช่วงฤดูหนาวราวเดือน ธ.ค.-ก.พ. ดอก “บัวสาย” หรือ “บัวแดง” ไม้น้ำประจำถิ่นของที่นี่ จะพร้อมใจกันผลิดอกเบ่งบานเป็นสีชมพูสะพรั่งเต็มผืนน้ำ จนกลายเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ทะเลบัวแดง” ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือไปชมดอกบัวได้อย่างใกล้ชิด
แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง
“แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง” อ.หนองหาน มีความสำคัญระดับโลก เพราะเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์กว่า 5,000 ปีมาแล้วที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยูเนสโกจึงยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 2535
มรดกโลกบ้านเชียง มีไฮไลต์สำคัญคือ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง” ที่จัดแสดงเรื่องราวการดำรงชีวิตของมนุษย์ยุคโบราณ การขุดค้นทางโบราณคดีในบ้านเชียง และการจัดแสดง “เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง” ที่มีลวดลายเชือกทาบสีแดงเป็นเอกลักษณ์
วัดป่าภูก้อน
ที่ “วัดป่าภูก้อน” (อ.นายูง) อีกหนึ่งวัดงามและวัดดังของอุดรฯ ที่สร้างอยู่บนเขาอันร่มรื่น บนนั้นเป็นจุดชมวิวชั้นดี มีอาคารประธานคือ “วิหารสังฆบิดร” อันสวยงามอลังการ ภายในประดิษฐาน “พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี” พระพุทธรูปนอนปางปรินิพพานขนาดใหญ่ ยาว 20 เมตร แกะสลักอย่างประณีตสวยงามจากหินอ่อน ให้สาธุชนได้เคารพสักการะกัน
ขอนแก่น
ศาลหลักเมืองขอนแก่น
หากว่าใครมีโอกาสเดินทางมาถึงจังหวัด “ขอนแก่น” แดนอีสาน มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองขอนแก่นกันก่อน นั่นคือการมาไหว้ “ศาลหลักเมืองขอนแก่น” หรือ “ศาลเทพารักษ์หลักเมือง” หรือที่เรียกสั้นๆ กันว่า “อินทร์ตา” ซึ่งศาลหลักเมืองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากการรวมเอาวัฒนธรรมจีนและไทยมารวมกัน โดยคนจีนเรียกว่า “ศาลหลักเมืองกง” ส่วนคนไทยเรียกว่า “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” ศาลเทพารักษ์หลักเมือง ประดิษฐานอยู่ในศาลาสุขใจ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนเมืองขอนแก่น เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เปิดให้ผู้คนทั่วไปได้มาสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตนเองและครอบครัว
วัดหนองแวง
ไหว้ศาลหลักเมืองขอนแก่นกันแล้ว เดินทางไปอิ่มบุญกันต่อที่ “วัดหนองแวง” เป็นพระอารามหลวงที่ถ้าใครมาถึงขอนแก่นก็ต้องห้ามพลาดที่จะมานมัสการ “พระมหาธาตุแก่นนคร” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาว ขอนแก่นให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง โดยพระมหาธาตุมีสีทองอร่ามตา ถูกจัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี และมหามังคลานุสรณ์ 200 ปี เมืองขอนแก่น
พระธาตุขามแก่น
พระธาตุขามแก่น เป็นปูชนียสถานสำคัญของจังหวัดขอนแก่น และเป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดขอนแก่น ตั้งอยู่ในบริเวณ วัดเจติภูมิ บ้านขาม ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง ถือเป็นเจดีย์ที่สำคัญและเก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์เมืองขอนแก่น ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เป็นที่เคารพบูชาของชาวจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ลักษณะเป็นเจดีย์ยอดฉัตรทองคำสูง 19 เมตร มีลักษณะประกอบด้วยฐานบัวคว่ำสองชั้น ลักษณะโค้งขึ้นไปเป็นบัลลังค์ต่อด้วยเรือนธาตุและยอดธาตุ ซึ่งย่อมุมกลีบมะเฟือง จากนั้นจึงเป็นสวนปลียอดและฉัตร
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline
