กรมอุทยานฯ ชู “โมโกจูน้อย” เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ใน อช.แม่วงก์ ที่เป็นทั้งจุดชมวิวงาม จุดชมชีวิตสัตว์ป่า และบ้านเสือโคร่ง พร้อมยกเป็น “โยเซมิตีเมืองไทย” เนื่องจากเห็นว่ามีบริบทบางใกล้เคียงกับ อช.แม่วงก์ ขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนติงว่า ชื่อไทยไม่ดีตรงไหน?
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดตัวแลนด์มาร์กแห่งใหม่ “โมโกจูน้อย” แห่ง “อุทยานแห่งชาติแม่วงก์” ที่ตั้งอยู่ใน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร บนถนนลอยฟ้าระหว่างทางไป “ช่องเย็น”
โมโกจูน้อย ตั้งชื่อตามยอดเขา “โมโกจู” สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของ อช.แม่วงก์ ที่มี “หินเรือใบ”เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินป่าระยะไกลยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย
โมโกจูน้อย มีลักษณะเป็นเนินเขาลูกเล็ก ๆ บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวทิวเขาอันสวยงาม มองเห็นแนวเทือกเขาสลับซับซ้อน สามารถชมวิวธรรมชาติได้โดยรอบ 360 องศา และชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก แถมบางมุมมีบรรยากาศดูคล้ายกับต่างประเทศอีกต่างหาก
โมโกจูน้อย สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งหากใครไปในช่วงนี้อุณหภูมิข้างบนจะมีอากาศเย็นสบายอยู่ที่ประมาณ 14-15 องศา
นอกจากนี้พื้นที่ราบหุบเขาช่วงบริเวณโมโกจูน้อยยังเป็นแหล่งอาหารสำคัญของสัตว์ป่า ด้วยเหตุนี้ทางกรมอุทยานฯ Thailand Tiger Project และหน่วยงานพันธมิตร จึงร่วมมือกันวางแผนให้บริเวณนี้เป็นแหล่งฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งที่สำคัญของบ้านเรา
โดยจะมีการวางแผนดำเนินการให้พื้นที่ราบบริเวณโมโกจูน้อยเป็นแหล่งอาหารของสัตว์กีบ เช่น วัวแดง กระทิง และกวางป่า อย่างจริงจังและต่อเนื่อง เมื่อสัตว์กีบเหล่านี้มีแหล่งอาหารก็จะเพิ่มปริมาณมากขึ้น ทำให้สัตว์ผู้ล่าอย่างเสือโคร่งมีอาหารเพียงพอ ซึ่งส่งผลต่อการฟื้นฟูของประชากรเสือโคร่งอย่างชัดเจน
ด้วยเหตุนี้ทางกรมอุทยานฯ จึงชูให้โมโกจูน้อยเป็นแลนด์มาร์กสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ใน อช.แม่วงก์ ซึ่งที่นี่นอกจากจะได้ชมวิวทิวทัศน์ของแนวขุนเขาสลับซับซ้อนอันสวยงามแล้ว ในอนาคตยังจะได้ชมภาพความเป็นอยู่ของสัตว์ป่าที่ออกมาหากินในแหล่งอาหาร และบ้านของเสือโคร่งในบริเวณนี้อีกด้วย
พร้อมกันนี้ทางกรมอุทยานฯ ยังได้ยกให้โมโกจูน้อย เป็นดัง “โยเซมิตีเมืองไทย” ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติชื่อดังของสหรัฐอเมริกา
อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite National Park) ในสหรัฐอเมริกา มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขา และเป็นที่ตั้งของน้ำตกที่สูงที่สุดแห่งอเมริกาเหนือ อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยหุบเขาที่เกิดจากการถูกตัดผ่านด้วยธารน้ำแข็งในอดีต ทำให้เกิดเป็นทิวทัศน์เทือกเขาหินที่งดงาม มีหน้าผาสูงเรียงลายสลับกันไปมา
ทั้งนี้ทางกรมอุทยานฯ ได้อธิบายถึงการยกโมโกจูน้อยให้เป็นดัง “โยเซมิตีเมืองไทย” ว่า เนื่องจากอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี มีบริบทใกล้เคียงกับอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อาทิ มีสภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนเรียงรายกันอยู่ตามเทือกเขาถนนธงชัย ลดหลั่นลงมาจนถึงพื้นราบ ประมาณ 40-50 ลูก เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ต้นกำเนิดของลำน้ำแม่วงก์
นอกจากนี้ในบางมุมมองของการถ่ายภาพน้ำตก เช่น น้ำตกแม่รีวา ก็มีความคล้ายคลึงกันมากกับ Lower Yosemite Fall ดังนั้นแนวทางการพัฒนาอุทยานแห่งชาติแม่วงก์สู่มาตรฐานสากล จึงสามารถประยุกต์แนวทางที่เป็นแบบอย่างที่ดี (Good Practice) จากอุทยานแห่งชาติโยเซมิตีได้ โดยทางกรมอุทยานได้นำภาพมุมมองบางส่วนที่คล้ายกันของ อช.แม่วงก์ มาเปรียบกับ อช.โยเซมิตี เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดีได้มีชาวเน็ตบางส่วน ไม่เห็นด้วยกับการเปรียบโมโกจูน้อยเป็น“โยเซมิตีเมืองไทย” พร้อมกับท้วงติงว่าชื่อไทยไม่ดีตรงไหน? สถานที่ท่องเที่ยวในบ้านเราควรมีชื่อเป็นเอกลักษณ์ของเมืองไทย ไม่ควรไปตั้งชื่อเลียนแบบต่างชาติ ขณะที่ชาวเน็ตบางคนก็ได้เข้ามาชื่นชมโมโกจูน้อยว่ามีบรรยากาศความสวยงามของดูคล้ายกับต่างประเทศ
