จากกรณีที่ได้มีการพบลูกช้างป่าเพศเมียชื่อ “ฟ้าใส” หรือที่เรียกกันว่า “พังฟ้าใส” อายุประมาณ 2-3 เดือน เดินมาติดบ่วงดักสัตว์ของพรานป่าในพื้นที่ป่า อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านที่บังเอิญมาพบได้ติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกเขาสิบห้าชั้นให้เข้าช่วยเหลือ
โดยเมื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นพบว่าลูกช้างน้อยขาหน้าด้านขวาถูกบ่วงรัดจนเกือบขาด เคราะห์ซ้ำที่ต้นขาด้านซ้ายก็ยังพบรอยคล้ายกระสุนปืนอีกกว่า 10 นัดอีกด้วย
ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกเขาสิบห้าชั้น ได้ประสานทีมสัตว์แพทย์เข้ามาให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวไปรักษาบาดแผล ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ขช.1 (เขาหินขวาก) ก่อนที่จะมีการส่งตัวมารักษาตัวต่อที่สวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี
ตลอดเวลาที่อยู่ในขั้นตอนการรักษาตัวพังฟ้าใสได้รับกำลังใจและความเอ็นดูจากชาวเน็ตที่ติดตามอย่างล้นหลาม จนทุกคนต่างยกให้เป็นขวัญใจประจำสวนนงนุชพัทยาเลยก็ว่าได้ ซึ่งในครั้งนี้จะขอรวบรวมเรื่องน่ารู้และเรื่องราวน่ารักๆ ของ “พังฟ้าใส” มาเรียกรอยยิ้มจากทุกคนกัน
1. จากชื่อ “ขวากรัก” สู่ “ฟ้าใส”
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าก่อนที่จะได้รับชื่อว่า “ฟ้าใส” อย่างทุกวันนี้ ลูกช้างน้อยเคยมีชื่อเดิมว่า “ขวากรัก” ซึ่งตั้งตามสถานที่ที่ลูกช้างติดบ่วงที่ขา ซึ่งก็คือที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ขช.1 (เขาหินขวาก) นั่นเอง ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนชื่อมาเป็น “ฟ้าใส” เพื่อความเป็นมงคลและเหมือนเริ่มชีวิตใหม่ให้ลูกช้างตัวน้อย
2. ได้ควาญช้างมือฉมังมาดูแล
อีกหนึ่งเหตุผลที่ส่งตัวพังฟ้าใสมารักษาตัวต่อที่สวนนงนุชพัทยาก็เพราะว่า ที่นี่มีควาญช้างมือฉมังที่เคยดูแลรับมือกับลูกช้างป่วยลักษณะเดียวกันมาแล้วถึงสองตัวด้วยกัน ซึ่งก็คือ “ฟ้าแจ่ม” เมื่อปี พ.ศ. 2559 และ “ใบตอง” (ภายหลังได้ชื่อใหม่ว่าฟ้าใส) เมื่อปี พ.ศ. 2561
3. ชื่อ “ฟ้าใส” เหมือนกับลูกช้างที่เคยติดบ่วงที่ขามาก่อน
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือน ธ.ค. 61 ทางสวนนงนุชพัทยาได้รับการติดต่อให้ช่วยเหลือลูกช้างป่าเพศเมียวัย 1 เดือน ชื่อ “ใบตอง” ที่เดินติดบ่วงพรานป่าและถูกบ่วงรัดข้อเท้าจนหวิดขาด
โดยเมื่อได้เริ่มการรักษาทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งชื่อใหม่ให้พังใบตองว่า “ฟ้าใส” เพื่อความเป็นสิริมงคล แต่น่าเศร้าใจที่ลูกช้างน้อยไม่รอดชีวิตและจากทีมดูแลไปเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2562
ซึ่งความบังเอิญในครั้งนี้ก็คือได้มีการตั้งชื่อให้ลูกช้างขวัญใจสวนนงนุชพัทยาตัวใหม่นี้ว่า “พังฟ้าใส” เช่นกัน (แต่ขอภาวนาให้จุดจบอย่าเป็นเหมือนกันเลย)
4. ร่าเริง ซุกซน และกินเก่งสมวัยลูกช้างน้อย
หากใครที่ติดตามทางเฟซบุ๊กเพจสวนนงนุชพัทยา หรือเฟซบุ๊กเพจประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ก็จะได้เห็นภาพเจ้าหน้าที่ป้อนขวดนมให้พังฟ้าใสอยู่บ่อยครั้ง และคลิปวิดีโอชวนยิ้มที่ทั้งสองเพจได้อัพเดตให้แฟนคลับได้เห็นกันถึงความน่ารักของลูกช้างน้อยตัวนี้อยู่เสมอ
5. ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและพี่เลี้ยงได้ดี
พังฟ้าใสแต่เดิมเป็นช้างป่าที่หากินและอาศัยอยู่ในป่า แต่เมื่อประสบเหตุการณ์ในครั้งนี้จึงต้องมาพักรักษาตัวอยู่กับครอบครัวใหม่ที่สวนนงนุช ซึ่งพังฟ้าใสสามารถกินได้ทั้งนมผงสำหรับลูกช้างที่เจ้าหน้าที่คอยป้อนให้ได้ และยังสามารถกินนมจากช้างแม่ลูกอ่อนชื่อ “พังใบเตย” ที่เจ้าหน้าที่รีดนมมาให้กินได้อีกด้วย ประมาณวันละ 8 ลิตร
รวมถึงยังเป็นมิตรกับทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่แวะเวียนมาทักทายได้เป็นอย่างดี จนครองใจผู้ที่ได้พบเห็นทุกคน
6. ใจสู้และอดทน
แม้พังฟ้าใสจะต้องผ่านเหตุการณ์อันแสนเจ็บปวดมา แต่ลูกช้างน้อยตัวนี้ก็มีความอดดทนและใจสู้ไม่เบา โดยจะต้องทำการล้างแผลข้างที่โดนบ่วงรัดอยู่เป็นประจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดแผลและใช้โฟมที่ด้านในรองด้วยลูกบอลที่ปล่อยลมออกครึ่งหนึ่งเพื่อช่วยพยุงน้ำหนักและพันปิดแผล มองดูแล้วน่ารักคล้ายกับกำลังสวมรองเท้าคู่ใหญ่ๆ อยู่
และล่าสุดในวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมาพังฟ้าใสเพิ่งได้รับการผ่าตัดนำกระสุนที่ขาอีกข้างออกไป โดยผ่านำเศษกระสุนที่ฝังอยู่ในกล้ามเนื้อออกไปจำนวน 13 ชิ้น (ชิ้นใหญ่ 9 ชิ้นและชิ้นเล็ก 4 ชิ้น) ใช้เวลาผ่าตัดรวม 1 ชั่วโมง 40 นาที ซึ่งผลการผ่าตัดพังฟ้าใสฟื้นตัวได้ดีและเริ่มร่าเริงแล้ว
7. ดูแลต่อที่สวนนงนุชพัทยา
นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 64 ที่ทางสวนนงนุชพัทยาได้รับตัวพังฟ้าใสมาดูและ จน ณ วันนี้ ทางสวนนงนุชพัทยาก็ยังคงตั้งใจและเต็มที่กับการรักษาลูกช้างน้อยตัวนี้
โดยหลังจากที่ได้ทำการผ่าตัดนำเศษกระสุนออกเรียบร้อย และรักษาแผลข้างที่บ่วงรัดจนผิวหนังบริเวณดังกล่าวเริ่มบีบแคบเข้ามาแล้ว ก็จะรอเวลาให้แผลผ่าตัดเริ่มหายดี ก่อนให้พังฟ้าใสเริ่มทำกายภาพ โดยใช้วารีบำบัด ว่ายน้ำเพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่เสียหายไปให้หายดีและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง
หากใครอยากร่วมส่งกำลังใจและติดตามความน่ารักของลูกช้างป่าแสนใจสู้ตัวนี้ สามารถติดตามได้ที่เฟซบุ๊กเพจสวนนงนุชพัทยา หรือเฟซบุ๊กเพจประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
#################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline
