ในวันที่ 11 กันยายน 2544 หรือเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ไม่มีเหตุการณ์ไหนที่จะเป็นข่าวดังช็อคโลกไปมากกว่า “เหตุวินาศกรรม 11 กันยายน” หรือที่เรียกกันว่า “9/11” ซึ่งเห็นการก่อวินาศกรรมโดยการโจมตีพลีชีพในมหานครนิวยอร์กและวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา
โดยเฉพาะการจี้เครื่องบินพุ่งชนตึกแฝด “เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์” ที่นับว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของมหานครนิวยอร์กในขณะนั้น ซึ่งเหตุการณ์นี้กลายเป็นข่าวที่โด่งดังไปทั่วโลก และหลังจากนั้นก็ยังมีการโจมตี และการทำสงครามต่อต้านการก่อร้าย รวมถึงทั่วโลกก็การปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเดินทางด้วยเครื่องบิน
มาย้อนรำลึกถึงตึก “เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์” สถานที่สำคัญในเหตุการณ์ครั้งนั้น และภายหลังจากผ่านพ้นเหตุวินาศกรรมไป ปัจจุบัน พื้นที่บริเวณนั้นถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
“เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์” ตึกคู่แฝดแห่งนิวยอร์ก
“เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์” เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2509 โดยเป็นกลุ่มอาคารที่ประกอบด้วย 7 อาคาร ได้แก่ เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1 (อาคารเหนือ) มี 110 ชั้น เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 2 (อาคารใต้) มี 110 ชั้น เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 3 (โรงแรมมาร์ริออทท์) มี 22 ชั้น เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 4 (อาคาพลาซ่าเหนือ) มี 9 ชั้น เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 5 (อาคารพลาซ่าใต้) มี 9 ชั้น เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 6 (U.S. Customs House) มี 8 ชั้น และ เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 7 มี 47 ชั้น
สำหรับอาคารที่โด่งดังอย่างมากก็คือ อาคารคู่แฝด (อาคารหมายเลข 1-2) เป็นอาคารที่สูงที่สุด โดยอาคารเหนือมีความสูง 530 เมตร (รวมเสาอากาศ) และอาคารใต้มีความสูง 417 เมตร เคยเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก โครงสร้างอาคารทั้งคู่เป็นแบบโครงเหล็กกล้า ผนังกระจกคล้ายกำแพงม่านแก้ว
นอกจากจะเป็นพื้นที่อาคารสำนักงานต่างๆ แล้ว ก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของนครนิวยอร์ก ด้วยความสูงของอาคารจึงทำให้เป็นจุดชมวิวมุมสูงที่สวยที่สุดอีกแห่ง โดยคนทั่วไปสามารถเข้าไปชมวิวจากบนตึกได้ที่ส่วนของภัตตาคารบนยอดอาคาร คือ Windows on the World (อาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1) และ Top of the World (อาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 2)
เหตุวินาศกรรม 11 กันยายน
ในช่วงเช้าของวันที่ 11 กันยายน 2544 ผู้ก่อการร้ายจึ้เครื่องบิน 4 ลำที่กำลังบินอยู่ในฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกาพร้อมๆ กัน บังคับให้มุ่งหน้าชนอาคารสำคัญในนิวยอร์กและวอชิงตัน ดี.ซี. โดยมีเครื่องบินสองลำที่พุ่งชนตึกเวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์ (ลำที่สามพุ่งชนอาคารเพนตากอน ที่ทำการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ และลำที่สี่ตกลงในทุ่งที่รัฐเพนซิลเวเนีย)
ลำแรกพุ่งชนอาคารหนึ่ง บริเวณชั้นที่ 90-95 เมื่อเวลา 08.46 น. ลำที่สองพุ่งชนอาคารสอง (บริเวณชั้น 75-90) ในเวลา 09.03 น. ส่งผลให้เกิดไฟไหม้และอาคารถล่มลงมา โดยอาคารสองถล่มลงมาก่อน และอาคารที่หนึ่งถล่มลงมาหลังจากนั้น การถล่มของทั้งสองอาคารสร้างความเสียให้ให้กับกลุ่มอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์อาคารอื่นๆ โดยเฉพาะอาคาร 7 ทำให้รากฐานไม่มั่นคง เปิดไฟไหม้ และถล่มตามลงมา ส่วนอาคารที่เหลือก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน
เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก มีความเสียหายอย่างรุนแรงในพื้นที่เกิดเหตุ และยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากเหตุการณ์นี้ โดยรัฐบาลสหรัฐได้กำหนดให้วันที่ 11 กันยายน ของทุกปี เป็นวันรำลึกเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน แห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นไป
“วันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์” กำเนิดใหม่ของตึกที่สูงที่สุดในซีกโลกตะวันตก
หลังจากผ่านเหตุวินาศกรรมครั้งสำคัญ เกิดความเสียหายในพื้นที่เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เป็นอย่างมาก ซากปรักหักพังต่างๆ บริเวณจุดเกิดเหตุนั้นต้องใช้เวลากว่า 8 เดือนในการจัดการ โดยพื้นที่นี้เรียกกันว่า “กราวน์ ซีโร่” (Ground Zero)
มีการประชุมหาข้อสรุปการสร้างเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์หลังใหม่ในปี 2546 รวมทั้งมีการออกแบบการก่อสร้างและปรับปรุงหลายรอบ และได้เริ่มก่อสร้างโครงการใหม่นี้ปี 2549 หรือประมาณ 5 ปี ภายหลังเกิดเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งโครงการก่อสร้างเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ใหม่นี้ประกอบด้วย 7 อาคาร และ อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ 9/11
โดยอาคารสำคัญที่เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่คือ “วันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์” หรืออาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1 มีชื่อเดิมว่า Freedom Tower เป็นอาคารที่สูงที่สุดในซีกโลกตะวันตก มีความสูง 1,776 ฟุต (ราว 541 เมตร) เมื่อวัดจากฐานถึงยอดเสาอากาศ เปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน 2557
ตัวอาคารมี 104 ชั้น แต่ใช้งานจริง 94 ชั้น และเป็นชั้นใต้ดิน 5 ชั้น ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 40 ไร่ และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในมหานครนิวยอร์ก สามารถขึ้นไปชมวิวในจุดชมวิวหลักที่ชั้น 100 สามารถชมวิวเมืองนิวยอร์กได้แบบ 360 องศา
อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ 9/11
นอกจากกลุ่มอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แล้ว ก็ยังมี “อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ 11 กันยายน” ที่สร้างขึ้นในบริเวณกราวน์ ซีโร่ เช่นเดียวกัน
การสร้างอนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ 9/11 ใช้การเจาะช่องฐานเดิมของตึก World Trade Center สร้างให้มีน้ำตกไหลลงไปยังเบื้องล่าง และมีรายชื่อของผู้เสียชีวิตที่สลักบนแท่นด้านบนของน้ำตก ส่วนพิพิธภัณฑ์จะอยู่ด้านล่างน้ำตก ใช้ชื่อว่า “9/11 Memorial & Museum”
ในส่วนของตัวพิพิธภัณฑ์เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 ภายในเก็บรวบรวมวัตถุจัดแสดงที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์วินาศกรรม 9/11 ทั้งรูป วัตถุสิ่งของ และเรื่องราวของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดถูกรวบรวมไว้กว่า 35,000 ชิ้น โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนจัดแสดงคือ วันก่อนเกิดเหตุ วันเกิดเหตุ และวันหลังเกิดเหตุ 9/11 ทั้งเรื่องราวของตึกเวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์ อาคารเพนตากอน และเที่ยวบินที่ 93 ประวัติศาสตร์สงครามระหว่างโซเวียตและอัฟกานิสถาน การถือกำเนิดของกลุ่มอัลกออิดะห์ รวมถึงการเก็บกวาดพื้นที่หลังอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ถล่ม และโครงการก่อสร้างอาคารหลังใหม่แทนที่อาคารเดิมสิ่งของทั้งหมดที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นสิ่งของของผู้รอดชีวิต และผู้เสียชีวิต รวมถึงบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น นักดับเพลิง
ในส่วนของอนุสรณ์สถานจะเปิดให้ชมทุกวัน เวลา 10.00-17.00 น. ส่วนพิพิธภัณฑ์ เปิดวันพฤหัสบดี-จันทร์ (หยุดวันอังคาร-พุธ) เวลา 10.00-17.00 น. และในวันที่ 11 กันยายน ของทุกๆ ปี ที่นี่จะมีการจัดงานรำลึก โดยเชิญครอบครัวผู้เสียชีวิตมาอ่านรายชื่อสมาชิกที่สูญเสียไปในเหตุการณ์นี้ มีช่วงเวลายืนสงบนิ่ง และช่วงค่ำจะมีการส่องแสงไฟขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อรำลึกวันครบรอบเหตุการณ์วินาศกรรม
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline