ชวนตามรอยเจ้าชายน้อย ในเส้นทาง “ตามรอยเสด็จเจ้าฟ้า” ซึ่งในหลวง ร.๑๐ เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ได้เคยเสด็จประพาสน้ำตก และศึกษาธรรมชาติ ที่ “อช.น้ำตกสามหลั่น” จ.สระบุรี
“...สมเด็จเจ้าฟ้าชาย และเจ้าฟ้าหญิงทั้ง 2 พระองค์ได้เคยทรงเสด็จเดินทางไกล ตามเส้นทางวิบากนี้มาแล้ว ทรงพิสูจน์ให้เห็นว่าทั้ง 3 พระองค์ทรงมีความสนพระทัยในธรรมชาติ ทรงมีพระพลานามัยความอดทน และทรงมีน้ำพระทัยเป็นนักกีฬาแบบนักนิยมไพรมาแล้วอย่างแท้จริง นิยมไพรสมาคมถึงใคร่เชิญชวนเยาวชนของชาติทุกๆคน ให้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทของเจ้าฟ้าทั้ง 3 พระองค์ พากันไปท่องเที่ยวล่องไพร เพื่อเป็นการออกกำลังกายและเพื่อหาความเพลิดเพลินและความรู้กับธรรมชาติของป่า นิยมไพรสมาคมหวังว่าโรงเรียนทุกโรงเรียนและกองลูกเสือทุกกองคงจะสนใจจัดทริปพานักเรียนและลูกเสือไปเดินทางไกลที่โตนรากไทรและสามหลั่น ในระหว่างเดือนกันยายนและตุลาคมโดยทั่วกัน...”
ข้อความจาก “สารนิยมไพรสมาคม” (ฉบับเยาวชน) เดือน กรกฎาคม 2514 ฉบับหน้าปก “เที่ยวโตนรากไทรสามหลั่น” ที่เขียนบรรยายถึง การเสด็จพระราชดำเนินศึกษาธรรมชาติของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐, สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี และ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เมื่อครั้งทั้ง 3 พระองค์ยังทรงพระเยาว์ ซึ่งได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงศึกษาธรรมชาติ ทอดพระเนตรน้ำตกในพื้นที่ที่ปัจจุบันคือ “อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น” จ.สระบุรี
การเสด็จครั้งนั้นมี “นายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล” (ปัจจุบันถึงแก่กรรมแล้ว) นายกนิยมไพรสมาคม นำเสด็จและเป็นวิทยากร
สำหรับเนื้อหาในบทความดังกล่าว เป็นการแนะนำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ จากน้ำตกสามหลั่น ไปน้ำตกหินดาด (ปัจจุบันคือน้ำตกโพธิ์หินดาด) แล้วเดินไปน้ำตกรอยเกือกม้า ก่อนจะวนกลับมาที่น้ำตกโตนรากไทรอีกครั้งหนึ่งเป็นวงรอบ โดยมีภาพเสด็จตามเส้นทางและมีบรรยายภาพสั้น ๆ (แต่ในบทความไม่ได้ระบุ วัน-เวลา ของการเสด็จฯ ในครั้งนี้)
นอกจากนี้ในบทความยังมีการเขียนบอกเล่าเนื้อหาที่กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงตรัสถามนายแพทย์บุญส่ง ทำให้บรรยากาศดูสนุกสนาน อย่างเช่น
“...ทูลกระหม่อมน้อยทรงเอาเถาบอระเพ็ดที่ทรงเก็บมาระหว่างทางถาม นพ.บุญส่ง ซึ่งเป็นวิทยากรว่า ...เถาบอะเพ็ดนี้เขาเอาไว้ทำอะไร.... วิทยากรทูลตอบว่า...เขาเอาไว้ให้เด็กอมแก้ดื้อพะยะคะ...ทรงรู้ทันทีว่าเด็กดื้อนั้นหมายถึงใคร ก็ทรงพระสรวลแล้วย้อนตรัสว่า...งั้นหมออมให้ฉันดูก่อนได้ไหม...”
สำหรับเส้นทางเสด็จฯ สายนี้ ปัจจุบันทาง อช.น้ำตกเขาสามหลั่น ได้พัฒนาเป็น “เส้นทางศึกษาธรรมชาติตามรอยเสด็จเจ้าฟ้า” มีระยะทางประมาณ 5.35 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่โดดเด่นเป็นไฮไลท์ 3 จุด คือ น้ำตกโตนรากไทร น้ำตกรอยเกือกม้า และ น้ำตกโพธิ์หินดาด โดยมีพืชพันธุ์ไม้ของป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้งให้ศึกษาเรียนรู้ไปตลอดเส้นทาง
อย่างไรก็ดีเนื่องจาก น้ำตกรอยเกือกม้าตั้งอยู่ไกลสุดและการเข้าถึงค่อนข้างลำบาก ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจึงนิยมเที่ยวแค่ น้ำตกโตนรากไทร และน้ำตกโพธิ์หินดาด เชื่อมโยงกับ น้ำตกเขาสามหลั่นที่เป็นพระเอกของอุทยานฯแหงนี้
เที่ยว อช.น้ำตกสามหลั่น
อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น มีพื้นที่ประมาณ 44.57 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมอำเภอแก่งคอย หนองแค วิหารแดง และอำเภอเมือง ในจังหวัดสระบุรี โดยมีที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 1 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี
อช.น้ำตกสามหลั่นมีสภาพธรรมชาติของป่าเขาสามหลั่นที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วย ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ทุ่งหญ้า ทิวเขาสูง และที่ราบระหว่างหุบเขา โดยมี “ยอดเขาครก” ที่มีความสูงประมาณ 329 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นจุดสูงสุดของอุทยานฯแห่งนี้
นอกจากนี้ก็ยังมีการพบพืชหายาก คือ “ก้ามกุ้งสยาม” พืชวงศ์โคลงเคลงที่ป่าภายของอุทยานแห่งนี้ด้วย
อช.น้ำตกสามหลั่น มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ นำโดย “น้ำตกสามหลั่น” ไฮไลท์สำคัญของอุทยานฯ เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยงามที่สุดของอุทยานฯ แห่งนี้
น้ำตกสามหลั่น เกิดจากสายน้ำของอ่างเก็บน้ำสามหลั่นที่อยู่เหนือขึ้นไปประมาณ 300 เมตร ไหลลดหลั่นกันมาเป็น 3 ชั้นดังชื่อสามหลั่น ดูสวยงามน่ายล เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ และพักผ่อนหย่อนใจ
นอกจากนี้น้ำตกสามหลั่นยังมีลักษณะพิเศษ คือ เป็นน้ำตกหินภูเขาไฟที่หาได้ยากในเมืองไทย เป็นหินภูเขาไฟชนิดไรโอไลต์และหินทิฟฟ์เนื้อไรโอไลต์ยุคเพอร์เมียน-ไทรแอสซิก อายุประมาณ 260-220 ล้านปี แทรกสลับกันในแนวเกือบระนาบ (ข้อมูลจาก อีบุ๊ก “น้ำตกในอุทยานแห่งชาติ” สำนักอุทยานฯ กรมอุทยานฯ)
นอกจากน้ำตกสามหลั่นแล้ว อช.แห่งนี้ยังมีอีก 2 น้ำตกงาม ได้แก่
-“น้ำตกโตนรากไทร” เป็นน้ำตกจากหน้าผาหินที่ไหลต่อเนื่องลงมาเป็น 2 ชั้น ชั้นบนสูงราว 2.5 เมตร ส่วนชั้นล่างที่เป็นไฮไลท์สูงประมาณ 6 เมตร ที่หน้าผาช่วงหนึ่งของน้ำตกมีต้นไทร มีรากเกาะเกี่ยวยึดไว้จึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตก
-“น้ำตกโพธิ์หินดาด” เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ไหลเป็นชั้นเล็ก ๆ ต่อเนื่องกัน 3 ชั้น มีความสูงโดยรวมประมาณ 4 เมตร แต่ว่ามีลำธารบนลานหินที่ยาวถึงร่วม 100 เมตร ซึ่งเป็นจุดเด่นของน้ำตกแห่งนี้
นอกจากนี้ อช.เขาสามหลั่น ยังมีน้ำตกรอยเกือกม้า น้ำตกแผงม้า น้ำตกนางโจน น้ำตกโกรกอีเว่อ และน้ำตกเขาแดง แต่เนื่องจากการเข้าถึงค่อนข้างลำบาก จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว
นอกจากน้ำตกแล้ว อช.เขาสามหลั่น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อาทิ อ่างเก็บน้ำซับปลากั้ง อ่างเก็บน้ำเขารวก และ เส้นทางศึกษาธรรมชาติตามรอยเสด็จเจ้าฟ้า เป็นต้น
ด้วยความที่ อช.น้ำตกสามหลั่น เป็นป่าใหญ่อันอุดมสมบูรณ์ใกล้กรุงเทพฯ การเดินทางเข้าถึงสะดวก ที่ผ่านมา (ช่วงก่อนโควิด-19) จึงมีนักท่องเที่ยวนิยมไปกางเต็นท์ แคมป์ปิ้งดื่มด่ำธรรมชาติที่อุทยานฯแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก โดยทางอุทยานฯ ได้จัดทำลานการเต็นท์ไว้บริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขารวก ซึ่งนอกจากจะมีบรรยากาศร่มรื่นสวยงามแล้ว ยังมีความโรแมนติก (ถ้าคนไปไม่มาก) ของทิวทัศน์อ่างเก็บน้ำ และบรรยากาศใต้แสงเดือนดาวยามราตรี ที่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดกางเต็นท์ใกล้กรุงที่น่าสนใจไม่น้อยเลย