“เกาะพระทอง” อันซีนพังงา ตื่นตาทุ่งหญ้าสะวันนากลางทะเล

พังงาชวนเที่ยว “เกาะพระทอง” อันซีนไทยแลนด์หลังโควิด-19 คลี่คลาย ตื่นตาพระอาทิตย์ขึ้นเหนือทุ่งหญ้าสะวันนากลางทะเลหนึ่งเดียวในไทย ชมกวางม้า-ฝูงปูไก่-กองทัพปูเสฉวนยักษ์ในยามราตรี

เกาะพระทอง ตั้งอยู่ในอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา มีพื้นที่ 102 ตร.กม. เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพังงา มีชุมชน 3 หมู่บ้าน คือ บ้านปากจก บ้านทุ่งดาบ และบ้านแป๊ะโย้ย

เกาะพระทองเกิดจากซากปะการังทับถมกันมาอย่างยาวนานล้านปี จนกระทั่งกลายเป็นเกาะที่มีสภาพภูมิประเทศที่แปลกตาแบบนี้ คือจะมีลักษณะค่อนข้างแบนราบ ถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเกาะแห่งนี้ ทิศตะวันออกจะเป็นแนวป่าโกงกาง ทิศตะวันตกเป็นหาดทราย


ส่วนบริเวณกลางเกาะเป็นทุ่งหญ้าสะวันนาขนาดใหญ่ที่มีต้นเสม็ดแคระ ขึ้นกระจายอย่างสวยงามมาก ซึ่งถือเป็นป่าทุ่งหญ้าสะวันนากลางทะเลขนาดใหญ่หนึ่งเดียวในเมืองไทย

ด้วยลักษณะพิเศษอันโดดเด่นทำให้ เกาะพระทอง ได้รับการคัดเลือกจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เป็น “Unseen Thailand” ในปี พ.ศ. 2546

สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะพระทอง ที่นี่จะดำเนินกิจกรรมการท่องเที่ยวทุกอย่างโดยชาวบ้านในพื้นที่ ถือเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศการท่องเที่ยวที่น่าสนใจและแตกต่างไม่น้อย


โดยกิจกรรมไฮไลท์บนเกาะพระทองก็คือการนั่งรถเที่ยวทุ่งหญ้าสะวันนาขนาดใหญ่ที่มีป่าเสม็ดแคระขึ้นแทรกแซม ที่เรียกขานกันว่า “ทุ่งสะวันนาเกาะพระทอง” หรือบางคนก็เรียกว่า “ทุ่งหญ้าซาฟารี” หรือ “อัฟริกาเมืองไทย” ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นอันซีนไทยแลนด์

ช่วงเวลาที่เหมาะต่อการเที่ยวชมทุ่งหญ้าสะวันนาก็คือช่วงเย็น ช่วงเช้า ที่แสงแดดไม่ร้อนแรงเกินไป เมื่อแสงแดดอ่อน ๆ ส่องอาบไล้ ทุ่งหญ้าเหล่านี้จะกลายเป็นทุ่งหญ้าสีทองเหลืองอร่าม สร้างความน่าหลงใหลตื่นตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็นไม่น้อยเลย


นอกจากนี้ก็ยังมีช่วงไฮไลท์ในการชมคือช่วงเช้ามืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้มาเฝ้ารอชมพระอาทิตย์ขึ้นผ่านกลางทุ่งหญ้าสะวันนาอย่างสวยงาม ท่ามกลางมุมมองอันกว้างไกล

โดยเมื่อมองไปทางทิศตะวันออกก็จะเห็นพระอาทิตย์เริ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ตามแนวภูเขาบนแผ่นดินใหญ่ที่อยู่ห่างออกไป เมื่อพระอาทิตย์โผล่พ้นแนวภูเขาขึ้นมา ก็ส่องแสงสาดลงมาที่ทุ่งหญ้าสีทอง พร้อมกับดวงอาทิตย์ลูกกลมโต ที่เป็นองค์ประกอบฝนการชมพระอาทิตย์ขึ้นที่แปลกแตกต่างและมีเอกลักษณ์ไม่น้อยเลย


สำหรับการมาเที่ยวชมทุ่งหญ้าสะวันนาในหน้าฝนจะเป็นสีเขียวขจี ส่วนหน้าแล้งโดยเฉพาะช่วง พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ทุ่งหญ้าจะมีสีทองดูสวยงามไม่น้อย

ขณะที่อีกหนึ่งจุดเด่นบนเกาะพระทองก็คือ การเที่ยวชมพระอาทิตย์ตกบนชายหาดฝั่งตะวันตกที่มีหลายจุดให้เลือกชม ไม่ว่าจะเป็น หาดทรายบริเวณที่เรียกว่า “สุดขอบฟ้า” ที่ตั้งชื่อตามรีสอร์ทดั้งเดิมของที่นี่


หรือบริเวณ “อ่าวตาแดง” หรือ ที่หลายคนเรียกว่า“อ่าวตาฉุย”เพราะเรียกชื่อตามรีสอร์ท “ทับตาฉุย” ที่ตั้งอยู่หลังแนวหาดนี้

บริเวณอ่าวตาฉุยเมื่อมองออกไปในทะเลจะเห็นเกาะปลิงใหญ่ ปลิงเล็ก ทอดตัวอยู่คู่กันในท้องทะเล นอกจากนี้ยังมีแนวโขดหิน “พ่อตาหินกอง” ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ โดยมีการตั้งศาลไว้คู่กับต้นสนหนึ่งเดียวอันโดดเด่นตระหง่าน


พ่อตาหินกองนับเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่หาไม่ได้ง่ายๆในเมืองไทย เพราะมีทั้งความงดงามและความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว

บนเกาะพระทองยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมไม่ควรพลาดนั่นก็คือ การส่องสัตว์ในยามค่ำคืนที่จะมีโอกาสได้พบฝูง “กวางม้า” ที่เป็นฝูงกวางบนเกาะออกหากินกลางทุ่งหญ้า ซึ่งเป็นสัตว์ประจำถิ่นของที่นี่

รวมถึงกิจกรรมชมปูไก่ที่ทางชุมชนและรีสอร์บนเกาะร่วมกันอนุรักษ์เอาไว้


ปูไก่ หรือปูขน หรือปูภูเขา เป็นปูหายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์ พวกมันจะนอนซ่อนตัวในรูและจะออกมาหากินยามค่ำคืน

ปุไก่มีลักษณะที่แปลกแตกต่างกับปูทะเลอื่น ๆ คือ รอบ ๆ กระดองไม่มีรอยหยัก ตาเป่ง ปากมีขน ขาเป็นขาแบบเดิน มีเสียงร้องจิ๊บ จิ๊บ คล้ายเสียงลูกไก่ ซึ่งเป็นเสียงจากใช้ก้ามคู่หน้าสีกัน จึงเป็นที่มาของชื่อ “ปูไก่”

ปูไก่เป็นสัตว์ที่พบไม่กี่แห่งในเมืองไทย อาทิ เกาะสิมิลัน เกาะตาชัย อ่าวมาหยา รวมไปถึงบนเกาะพระทองแห่งนี้ ซึ่งปูไก่ที่นี่มีขนาดตัวใหญ่สมบูรณ์ทั้งนั้น เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ๆ มันก็จะรีบคลานหนีไปซ่อนตัวทันที


นอกจากปูไก่แล้วบนเกาะพระทองยังมี “ปูเสฉวน” จำนวนมาก ซึ่งมีทั้งปูเสฉวนตัวเล็กตามปกติ และปูเสฉวนขนาดใหญ่ หรือ “ปูเสฉวนยักษ์” ที่มีทั้งออกหากินเดี่ยว และออกหากินกันเป็นฝูง โดยระหว่างออกหากินปูหลายตัวได้มีการแลกเปลี่ยนบ้าน (เปลือกหอย) ตามความเจริญเติบโตของร่างกายมัน ซึ่งได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก


สำหรับผู้มาเที่ยวเกาะพระทอง “เดอะมอแกน อีโค่ วิลเลจ เกาะพระทอง” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่พักน่าสนใจบนเกาะ ซึ่งนอกจากจะเป็นรีสอร์ทที่มีบรรยากาศดีแวะล้อมไปด้วยธรรมชาติแล้ว ยังเป็นรีสอร์ทที่มุ่งเน้นด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงเป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ มาใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ เรียบง่าย สัมผัสกับธรรมชาติ ท้องทะเล เพื่อเติมพลังทั้งกายและจให้กับชีวิต


ปาจรีย์ ศรีฟ้า ผู้บริหาร เดอะมอแกน อีโค่ วิลเลจ เกาะพระทอง เปิดเผยว่า รีสอร์ท เดอะมอแกนฯ เน้นด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติ รักษาสิ่งแวดล้อม ลดใช้พลังงานโดยใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และให้ความสำคัญกับชุมชน

“ผู้ที่เข้าพักที่เดอะมอแกน ฯ จะมีส่วนร่วมช่วยเหลือชุมชน โดยทางรีสอร์ทจะแบ่งรายได้ร้อยละ 2 ของทุกการจองเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้แก่เด็กๆบนเกาะพระทอง แถมยังมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือโลกใบนี้ด้วยการใช้ชีวิตแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย” ปาจรีย์กล่าวทิ้งท้าย

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline