อากาศเริ่มร้อนอบอ้าวมากขึ้นทุกที เป็นสัญญาณที่จะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งในช่วงปลายร้อนต้นฝนแบบนี้ เป็นช่วงเหมาะที่สุดที่จะมาชม “ผีเสื้อ” โดยหากพูดถึงแหล่งชมผีเสื้อในประเทศไทย ชื่อของ “อุทยานแห่งชาติปางสีดา” ต้องมาเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน
อุทยานแห่งชาติปางสีดา ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าแยก อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว เดิมบริเวณน้ำตกปางสีดาเป็นหน่วยงานหนึ่งในโครงการพัฒนาพื้นที่ราบเชิงเขา จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำปางปะกง มีสภาพป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ กรมป่าไม้ในขณะนั้นจึงจัดตั้งเป็น "วนอุทยานปางสีดา" เมื่อปี พ.ศ.2521 และได้รับการประกาศเป็น "อุทยานแห่งชาติปางสีดา" เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2525
โดยเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 41 ของประเทศไทย เป็นหนึ่งในผืนป่าดงพญาเย็นที่ใด้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผืนป่ามรดกโลก ในนาม "ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่" ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทับลาน ปางสีดา ตาพระยาและเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าดงใหญ่เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 2 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2548 จากองค์การยูเนสโกจนถึงปัจจุบัน
ภายในอช. ปางสีดา นั้นมีสภาพป่าเป็นภูเขาซับซ้อน ทั้งป่าดิบชื้นและทุ่งหญ้า เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหายาก เช่น กระทิง ช้าง เก้ง กวาง อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ "น้ำตกปางสีดา" ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำที่นี่
นอกจากนั้นอช.ปางสีดา แห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็น “เมืองผีเสื้อของผืนป่าตะวันออก” ซึ่งเสน่ห์อันน่าหลงใหลของผีเสื้อที่นี่ก็คือ “พบง่าย มากมาย หลากหลาย” โดยเมื่อเข้าสู่ช่วงปลายฤดูร้อนต้นฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม) ที่เริ่มมีฝนตกชุ่มชื้นมากขึ้น ฝูงผีเสื้อจำนวนมากจะออกมากรีดปีกสวยให้ได้เชยชมกัน ซึ่งผีเสื้อนั้นถือเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่อยู่ในอุทยานเเห่งชาติปางสีดาเลยก็ว่าได้
การดูผีเสื้อสามารถดูได้ตลอดทั้งวันแต่ละพันธุ์มีช่วงเวลาออกหากินแตกต่างกัน แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ 09.00-11.00 น. และ 14.00-17.00 น. หรือในวันที่ฟ้าเปิดและมีแสงแดดนั่นเอง โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะสามารถพบผีเสื้อเกาะนิ่งๆ ผึ่งปีกบนใบไม้ ทำให้สามารถเข้าใกล้ได้ง่ายๆ
โดยจากการสำรวจเพียงบางจุดที่เข้าถึงได้ในพื้นที่ของทางอุทยาน ของนายสินธุยศ จันทรสาขา ผู้จุดประกายผีเสื้อปางสีดาร่วมกับสมาคมรักษ์ปางสีดา ตั้งแต่ปี 2545-2559 พบผีเสื้อกลางวันถึง 500 ชนิด เช่น ผีเสื้อเหลืองหนามใหญ่โคนปีกดำ, ผีเสื้อหนอนใบกุ่มธรรมดา, ผีเสื้อหน้าเข็มปีกมนแถบขาว, ผีเสื้อจรกาดำขาว, ผีเสื้อหางติ่งนางละเวง, ผีเสื้อหนอนคูน, ผีเสื้อหางดาบลายจุด, ผีเสื้อหนอนจำปี และผีเสื้อสะพายฟ้า เป็นต้น ซึ่ง “ผีเสื้อซิกแซก” ถือเป็นผีเสื้อเด่นประจำปางสีดาเลยก็ว่าได้
หลายคนอาจเข้าใจว่าผีเสื้อนั้นตอมดอกไม้และคงชอบอะไรที่หอมๆ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมากทางเจ้าหน้าที่อุทยานได้กล่าวให้ฟังว่า ผีเสื้อจะชอบกลิ่นเหม็นและมีรสชาติเค็มๆ เช่นน้ำปลา ซึ่งทางอุทยานจะมีจุดที่นำน้ำปลาไปราดเป็นจุดๆ ที่จะทำให้ผีเสื้อมารวมตัวให้นักท่องเที่ยวได้ชม
อีกทั้งในการมาชมผีเสื้อนั้นไม่ควรใส่เสื้อสีสดเด็ดขาด เพราะจะทำให้เด่นจนทำให้ผีเสื้อตกใจและบินจากไป เสื้อสีทึบจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า และที่สำคัญก็ต้องใจเย็นมากอีกด้วยในการรอชมและรอให้เหล่าผีเสื้อตัวน้อยๆ ได้มาบินมาอยู่ใกล้ๆ ตัวเราเองโดยที่เราไม่ต้องเดินเข้าไปหาเลย
สำหรับจุดชมผีเสื้อภายในอช.ปางสีดานั้นมีมากถึง 12 จุดด้วยกัน ได้แก่ บริเวณข้างถนนหลังด่าน, ลาน ฮ.,โป่งฝายน้ำล้น, ทุ่งหญ้าแปลงปลูกป่า, หน้าศูนย์เก่า-ลานกางเต็นท์, ลานจอดรถทางลงน้ำตก, ต้นไม้หน้าลานน้ำตก, จุดดูผีเสื้อ, เส้นทางศึกษาธรรมชาติบุตาปอด, ลานหินดาด, ด้านหน้า-หลังหน่วย ปด.5 และเส้นทางเดินป่าจุดชมวิว (บางเส้นทางต้องมีเจ้าหน้าที่ไปด้วย)
ซึ่งจุดที่เป็นไฮไลท์ในการชมที่นักท่องเที่ยวนิยมไปก็คือที่ “ลานจอดรถและต้นไม้หน้าลานน้ำตกปางสีดา” อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 800 เมตร บริเวณนี้จะมีลานหินกว้าง ทำให้มีเหล่าผีเสื้อมาบินอวดโฉมให้ดู
จุดต่อมาคือ “จุดดูผีเสื้อ” จุดนี้สามารถขับรถขึ้นไปได้ โดยจะห่างจากน้ำตกปางสีดาประมาณ
200 เมตร จุดดูผีเสื้อนี้จะมีโป่งผีเสื้อที่เป็นเหมือนจุดรวมตัวให้ผีเสื้อนานาพันธุ์มารวมตัวรอต้อนรับนักท่องเที่ยว
ไฮไลท์สุดท้ายคือที่ “ลานหินดาด” ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานไป 25 กิโลเมตร โดยเส้นทางนี้ค่อนข้างเดินเข้าไปลำบากจะต้องมีเจ้าหน้าที่เข้าไปด้วย ลักษณะบริเวณนี้จะเป็นลานหินกว้างขนาดใหญ่ที่เป็นจุดรวมเเร่ธาตุต่างๆ เอาไว้ ทำให้เป็นจุดที่มีผีเสื้ออยู่เป็นจำนวนมาก
ชมผีเสื้อเสร็จแล้วยังสามารถเดินทางต่อไปที่ “จุดชมวิว กม.25” ซึ่งเป็นจุดชมวิวยอดนิยมของ
อุทยานเเห่งชาติปางสีดาที่เพิ่งปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่เสร็จไปไม่นาน จากจุดนี้สามารถมองเห็นวิวด้านหน้าเป็นหุบขนาดใหญ่ที่มีรูปเหมือนกระทะ โดยบริเวณนั้นจะเป็นเเหล่งหากินของสัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์
และในยามเย็นนักท่องเที่ยวสามารถมาชมพระอาทิตย์ตกดินบริเวณจุดชมวิว กม.25 นี้ได้ หรือใครอยากจะมาชมดวงดาวในยามค่ำคืนก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อมาดูดาวกันได้ด้วยเช่นกัน
อุทยานแห่งชาติปางสีกำลังจะเปิดการท่องเที่ยวอีกครั้งในวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 นี้ ใครอยากจะมาชมความสวยงามของฝูงผีเสื้อและธรรมชาติอันสมบูรณ์ของที่นี่ สามารถติดตามรายละเอียดได้ทางหน้าเฟซบุ๊กเพจอุทยานปางสีดา หรือโทร. 08-1862-1511
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline