เชื่อว่าเมนูปิ้งย่าง เป็นอาหารที่หลายๆ คนชื่นชอบและมักหาร้านอร่อยไปกินกันบ่อยๆ ซึ่งปิ้งย่างในบ้านเรานั้นก็มีหลายแบบหลายสไตล์ให้เลือกสรร ส่วนในมื้อนี้จะชวนมากินปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่ายากินิกุ กับร้านน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน “Hagu Hagu”
ร้าน “Hagu Hagu” ตั้งอยู่ในสยามสแควร์ซอย 9 เป็นร้านยากินิกุแบบพรีเมี่ยม ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นแท้ แต่ก็ยังมีความร่วมสมัย โดยนำความเป็นไทย จีน และเกาหลี มาผสมผสานเพิ่มเติมเข้าไปด้วย โดยตัวเตาเป็นเตาไฟฟ้าใช้ถ่าน มีระบบดูดควัน
เมนูหลักๆ ก็คือปิ้งย่าง ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพพรีเมียม เนื้อนำเข้าจากญี่ปุ่น หากว่าสั่งเนื้อก็จะสามารถเลือกซอสที่ราดบนเนื้อได้ 3 สูตร ได้แก่ ซอสหมักยากินิกุ ซอสหมักมิโสะ และซอสหมักหม่าล่า (แต่เนื้อพรีเมียมบางรายการจะไม่ราดซอส) แล้วก็ยังมีเมนูเนื้อหมู เนื้อไก่ และซีฟู้ด ให้นำมาปิ้งย่างกัน มีเครื่องเคียงให้เติมได้แบบไม่อั้น ทั้งถั่วงอกน้ำมันงา ผักโขมกระเทียม ไชเท้าดอง สลัดมันฝรั่ง และแตงกวาดอง
นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูอาหารจานร้อน ซูชิ ซาชิมิ ขนมหวานซิกเนเจอร์ของร้าน และยังสามารถสั่งชานมไข่มุก และขนมหวานจากร้าน “ANG BAO” ร้านขนมหวานสไตล์ไต้หวันมากินที่ร้านได้ด้วย
กลับมาที่เมนูปิ้งย่าง นอกจากจะอร่อยจากวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียมแล้ว ความโดดเด่นอีกอย่างของที่นี่ก็คือ มีน้ำจิ้มให้เลือกมากถึง 8 แบบ เอาใจคนชอบกินรสชาติที่หลากหลาย ได้แก่ ซอสยากินิกุ รสชาติหอมหวานอมเปรี้ยวนิดๆ, น้ำจิ้มโชยุปลาแห้ง ผสมผิวเลมอน, น้ำจิ้มแจ่ว แซ่บเด็ดสไตล์อีสาน, น้ำพริกปลาร้า ปลาร้าสั่งตรงจากกาฬสินธุ์ หอมกลิ่นสมุนไพร, น้ำจิ้มหัวหอมผัด ผสมมายองเนสญี่ปุ่นและมัสตาร์ด, ซอสซัมจัง ซอสถั่วเหลืองหมักเกาหลี หอมกลิ่นน้ำมันงา, น้ำจิ้มน้ำมันงาและเกลือ และ ซอสพริกโกชูจังเกาหลี
เอาใจสายเนื้อ มาลองชิม เนื้อวากิวญี่ปุ่น A3 (899 บาท++) เป็นเนื้อวากิวญี่ปุ่ระดับ A3 ที่นำเข้าจากญี่ปุ่น เสิร์ฟมาแบบไม่ราดซอส เพื่อให้ได้ลองลิ้มรสชาติแท้ๆ ของเนื้อ พนักงานของร้านจะแนะนำวิธีการย่างเนื้อให้ได้ความอร่อยมากที่สุด โดยย่างให้พอสุกทีละด้าน จะได้เนื้อนุ่มอร่อยลิ้น
หรือจะเป็น เนื้อวากิวสไลด์พรีเมียม (349 บาท++) เป็นวากิวจากญี่ปุ่นเช่นกัน สไลด์มาแบบบางๆ แต่ชิ้นใหญ่ จานนี้ราดซอสยากินิกุ ย่างเนื้อให้พอสุกทีละด้าน เนื้อจะนุ่มฉ่ำ ได้รสชาติจากซอสที่ราดมา
เปลี่ยนมาลองชิมเมนูหมูกันบ้าง หมูสามชั้นคุโรบุตะ (249 บาท++) เป็นสามชั้นคุโรบุตะจากญี่ปุ่น สไลด์ชิ้นหนาพอควร ราดด้วยซอสมิโสะ ย่างให้สุกทั้งสองด้าน แล้วค่อยตัดเป็นชิ้นพอคำ ส่วน หมูสันคอคุโรบุตะ (189 บาท++) ก็นำเข้าจากญี่ปุ่นเช่นกัน จานนี้ราดซอสหม่าล่า รสชาติเผ็ดนิดๆ กำลังดี
กินเนื้อไปแล้ว ย้ายมากินผักกันบ้าง ที่ร้านมีให้เลือกสั่งทั้ง ชุดผัก (245 บาท++) มีทั้งเห็ดต่างๆ หอมใหญ่ แครอท ต้นหอมญี่ปุ่น และกระเทียม ข้าวโพด หรือจะกินคู่กับ ผักสดรวม (75 บาท++) มีผักกาดหอมและบัตเตอร์เฮด และที่อยากให้ลองชิมคือ สับปะรดน้ำผึ้ง (95 บาท++) เป็นชิ้นสับปะรดราดด้วยน้ำผึ้ง จากนั้นนำไปย่างพอหอม กินแล้วจะได้รสชาติหวานหอมช่วยตัดเลี่ยนได้อย่างดี
มาถึงเมนูอื่นๆ ที่อยากให้ลองชิมกันบ้าง เริ่มจาก ข้าวสาหร่าย (125 บาท++) ในชามจะมีข้าวญี่ปุ่น สาหร่าย น้ำมันงา ปลาแห้งเค็ม ไข่ปลาบิน และต้นหอมซอย เสิร์ฟมาในชาม เวลากินให้คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน จะปั้นเป็นก้อนกลมหรือใช้ช้อนตักกินก็ได้ตามสะดวก
ไข่ตุ๋น (165 บาท++) เสิร์ฟมาในหม้อร้อนแบบฟูๆ น่ากินมาก ใช้ไข่ไก่ผสมซุปปลา ทำเป็นไข่ตุ๋นสูตรเกาหลี แล้วโรยหน้าด้วยน้ำมันงาให้หอมๆ ไข่ตุ๋นฟูเนื้อเนียนมาก และแนะนำให้สั่ง ข้าวโพดชีส (145 บาท++) มากินด้วยกัน เป็นข้าวโพดหวานผัดกระเทียมและเนยมิโสะ โรยหน้าด้วยมอสซาเรลลาชีสแล้วเบิร์นไฟ
จากนั้นมาซดน้ำซุปร้อนๆ ซุปหางวัว (349 บาท++) เป็นหางวัวคัดพิเศษต้มเคี่ยวกับน้ำซุปจาน 12 ชั่วโมง จนไขกระดูกร่อนกลายเป็นน้ำซุปขุ่นขาว ใส่เนื้อน่องลายลงไป โรยหน้าด้วยต้นหอมญี่ปุ่นและพริกไทยดำ รสชาติกลมกล่อมมากๆ
ต่อด้วย ราเมนเย็นมะนาว (225 บาท++) ใช้เส้นราเมนสั่งพิเศษ น้ำซุปปลาแห้งผสมโชยุ ท็อปด้วยมะนาวฝานสดๆ และพริกไทยดำ เสิร์ฟเป็นซุปแบบเย็น ก่อนกินต้องคนมะนาวให้เข้ากับน้ำซุป จะได้รสชาติที่ออกเค็มๆ หวานๆ และหอมมะนาว เส้นเหนียวนุ่ม
มาถึงเครื่องดื่มของทางร้าน คือ Yoghurt Slushies (89 บาท++) เป็นโยเกิร์ดเกล็ดหิมะ ตัวน้ำเป็นโซดาที่กินแล้วจะสดชื่นหอมหวานอร่อย หรือจะเลือกใส่เจลลี่ (เพิ่ม 15 บาท++) เพิ่มเติม มีให้เลือกคือเจลลี่องุ่นและพีช
เปลี่ยนทางมาเป็นของหวาน เมนูของหวานซิกเนเจอร์ของร้านคือ คากิโกริ โฮจิฉะ (249 บาท++) เป็นน้ำแข็งไสนมรสชาโฮจิฉะ ด้านบนเป็นถั่วแดงต้มและเชื่อมแบบหวานน้อย ได้รสชาติชาเข้มข้นมากๆ หวานน้อย ถั่วแดงเนื้อแน่นหวานกำลังดี
ส่วนเมนูเครื่องดื่มและของหวานจากร้านอั่งเปา เป็นสไตล์ไต้หวัน อย่างชาก็จะมีตัวเด่นเป็นชานมไข่มุก ที่ไข่มุกต้มเอง หรือชาเก๊กฮวยกลิ่นหอมมากๆ เครื่องดื่มสามารถเลือกระดับความหวานๆด้ และยังมีน้ำเชื่อม 0 แคลลอรี่ให้เลือกสำหรับคนที่ชอบหวานแบบสุขภาพดี นอกจากนี้ก็ยังมีเจลลี่หอมหมื่นลี้เคี้ยวเพลิน
ของหวานที่ลองชิมคือ Herbal Ice (199 บาท++) มีเฉาก๊วยที่ทางร้านสะกัดเอง แล้วต้มจนได้ที่ ใส่ทาโร่บอล มีแป้งเผือก มันม่วง มันเทศ และเผือกใบเตย ข้าวบาร์เลย์ ลำไย และรากบัวเชื่อม จากนั้นเป็น พุดดิ้งนมเก๊กฮวย (139 บาท++) เป็นนมผสมเก๊กฮวยหอมๆ พุดดิ้งชานมไต้หวัน (159 บาท++) รสชาติชานมเข้มข้นหวานน้อย ท็อปด้วยไข่มุกและบราวน์ชูการ์เจลลี่ อีกถ้วยคือ ชานมไต้หวันสโนว์ (259 บาท++) เป็นชานมเกล็ดหิมะ ด้านบนเป็นวิปครีมและน้ำตาลทรายแดง เสิร์ฟมาคู่กับเฉาก๊วย ไข่มุก บราวน์ชูการ์เจลลี่
ทั้งอิ่มท้องและอร่อยปากกับเมนูปิ้งย่าง และเมนูอื่นๆ รวมถึงของหวานที่อร่อยถูกใจ ใครชอบปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นแบบนี้ แวะมาลิ้มลองกันได้ที่ร้าน “Hagu Hagu” สยามสแควร์ซอย 9
* * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “Hagu Hagu” ตั้งอยู่ที่สยามสแควร์ซอย 9 เขตปทุมวัน กทม. ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 11.30-21.30 น. โทร. 0-2070-6959 Facebook : haguhaguth Line : @haguhagu_th
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline