การระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 กลับมาสร้างความวิตกกังวลให้คนไทยอีกครั้ง หลังเมื่อเร็วๆ นี้ได้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันที่พบหญิงไทยเจ้าของแพปลาในตลาดกลางกุ้ง มหาชัย ติดเชื้อโควิด-19 โดยไม่มีประวัติการเดินทางออกนอกประเทศ จากนั้นก็ได้พบผู้ติดเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชนไทยและแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในตลาดมหาชัยแห่งนี้จนพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกหลายร้อยราย
วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับตลาดกลางกุ้ง มหาชัย และตลาดทั่วไทยรวม 4 แห่ง ที่เรียกได้ว่าเป็น "ตลาดพม่า" ซึ่งหมายถึงตลาดที่อยู่ใกล้กับชุมชนชาวเมียนมาที่มาทำงานและอยู่อาศัยในไทย ทำให้สินค้าอาหารภายในตลาดนั้นส่วนใหญ่ทำมาขายลูกค้าชาวเมียนมา ลูกค้าที่มาจับจ่ายใช้สอยก็ล้วนเป็นชาวเมียนมาที่มาทำงานในไทย จนเมื่อมาเดินตลาดแล้วมีบรรยากาศเหมือนอยู่ในประเทศเมียนมาก็มิปาน
"ตลาดกลางกุ้ง มหาชัย"
สำหรับตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร ตั้งอยู่ริมถนนพระราม 2 (ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ) ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เป็นตลาดใหญ่แหล่งรวมกุ้งจากแพปลาต่างๆ มาขายให้ผู้ค้ารายย่อยที่จะมาเลือกซื้อกุ้งไปขายต่อยังตลาดสดต่างๆ หรือซื้อไปเป็นวัตถุดิบเข้าร้านอาหารซีฟู้ดหรือร้านปิ้งย่างต่างๆ โดยกุ้งจำนวนมากเหล่านี้จะถูกคัดแยกขนาดและขายในราคาต่างๆ กัน ในแต่ละวันก็จะมีผู้ค้ารายย่อยจากทั่วสารทิศเดินทางมาเลือกซื้อกุ้งนานาชนิดไปขายต่อ
ในตลาดกลางกุ้งนี้จะมีแรงงานชาวเมียนมามาทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก จึงขอเรียกว่าเป็น "ตลาดพม่า" อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งในช่วงที่มีการตรวจพบผู้ป่วยโควิดนั้นตลาดกลางกุ้งแห่งนี้ได้ปิดการซื้อขาย 1 วัน เพื่อทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ ส่วนแพปลาและแพกุ้งที่เป็นปัญหานั้นได้ปิดการซื้อขายเป็นเวลา 3 วัน ภายหลังเมื่อเปิดให้บริการตามปกติแล้วแต่ผู้ซื้อก็ยังบางตา
เช่นเดียวกับ "ตลาดมหาชัย" ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ตลาดมหาชัยอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ในตัวเมืองสมุทรสาคร เป็นตลาดสดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสมุทรสาคร ตลาดสดแห่งนี้เป็นแหล่งจำหน่ายอาหารทะเลนานาชนิด ทั้งผู้ค้ารายย่อย และลูกค้าที่มาหาซื้ออาหารทะเลไปประกอบอาหารที่บ้านก็นิยมมาเลือกซื้ออาหารทะเลกันที่นี่ และเช่นเดียวกันคือมีแรงงานชาวเมียนมาทำงานอยู่ในตลาดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก โดยเมื่อมีการตรวจพบผู้ป่วยโควิดที่ตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร ก็ทำให้ตลาดมหาชัยแห่งนี้ที่อยู่ไม่ไกลกันได้รับผลกระทบ ผู้คนออกมาจ่ายตลาดกันค่อนข้างบางตา
"ตลาดบางบอน"
สำหรับ "ตลาดบางบอน" หรือที่หลายคนเรียกชื่อเล่นว่า "ตลาดพม่า" นั้น ตั้งอยู่บริเวณสามแยกบางบอน บนถนนเอกชัยตัดกับถนนบางขุนเทียนชายทะเล เขตบางบอน กรุงเทพฯ ใกล้กับตลาดสุขสวัสดิ์
ในตลาดแห่งนี้บรรยากาศคล้ายตลาดนัด แต่จะเปิดขายทุกวัน ในตลาดจะพบแผงค้าเรียงรายประมาณ 20–30 แผง โดยส่วนใหญ่จะมีป้ายสินค้าและราคาเป็นภาษาเมียนมาแทบทั้งสิ้น อีกทั้งยังมีสินค้าอาหารของชาวเมียนมาอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาหารยอดฮิตอย่าง “โมฮิงก่า” หรือขนมจีนพม่า และอาหารอื่นๆ ของเมียนมาอีกสารพัดชนิด รวมไปถึงร้านขายเครื่องปรุง เครื่องเคียง ขนมต่างๆ
ส่วนของใช้ในชีวิตประจำวันที่ขาดไม่ได้อย่างทานาคาก็มีให้เห็นมากมาย และยังมีหนังสือภาษาเมียนมา หนังสือพิมพ์ แผ่นซีดีเพลงและภาพยนตร์แบบพากย์หรือซับไตเติลภาษาเมียนมา เสื้อผ้าของใช้ต่างๆ ให้ชาวเมียนมาได้เข้ามาเลือกซื้อไปใช้ ถือเป็นแหล่งพบปะของชาวเมียนมาในกรุงเทพฯ ขนาดใหญ่ทีเดียว
"ตลาดพม่า ระนอง"
ที่จังหวัดระนอง จังหวัดชายแดนไทย-เมียนมา ก็มีแรงงานพม่ามาทำงานในจังหวัดไม่น้อยเช่นกัน ในตัวอำเภอเมืองระนองก็มี "ตลาดพม่า" หรือชื่อเรียกกันแบบไม่เป็นทางการของตลาดที่อยู่ใกล้กับตลาดสดเทศบาลเมืองระนอง หรือตลาดศาลเจ้าไหหลำนั่นเอง
ตลาดพม่าที่เรียกกันนี้เป็นตลาดที่มีพ่อค้าแม่ค้าเป็นคนเมียนมา นำอาหารสดและอาหารแห้งจากเมียนมามาขาย โดยที่ระนองมีแรงงานชาวพม่าจำนวนมาก อาหารและของใช้เหล่านี้จึงเป็นที่นิยมของชาวเมียนมาในระนอง อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่มาเยือนระนองก็มักนิยมมาเดินชมและซื้อสินค้าของเมียนมาเป็นของฝากของที่ระลึกกันด้วย
"ตลาดแม่สอด"
“แม่สอด” คืออำเภอชายแดนไทย-เมียนมาของจังหวัดตากที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองการค้าที่คึกคัก มีลำน้ำเมยแบ่งเขตระหว่างเมืองแม่สอดของไทยและเมืองเมียวดีของประเทศเมียนมา โดยในย่านใจกลางเมืองแม่สอด ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสีสันและมีชีวิตชีวาไม่น้อยโดยเฉพาะในช่วงเช้า นั่นก็คือ “ตลาดนครแม่สอด” ตลาดสดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแม่สอด ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวเมียนมามาจับจ่ายซื้อของ มีทั้งประเภทของสดของแห้ง ทั้งผัก ผลไม้ ปลา เนื้อสัตว์ต่างๆ นอกจากนั้นก็ยังมีของกินของใช้ที่เป็นของชาวเมียนมาอย่างแป้งทานาคา เสื้อผ้า โสร่ง ดอกไม้สด รวมถึงขนมของกินแบบพม่า
ความคึกคักของตลาดแห่งนี้จะมีมากในช่วงเช้า ใครอยากไปชมบรรยากาศแบบนี้ก็มากันได้ที่ตลาดแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก
ทั้งนี้ ตลาดพม่าทั้ง 4 แห่งที่กล่าวมานี้ ก็ยังสามารถเข้าไปเลือกซื้อข้าวของได้ตามปกติ แต่ทั้งนี้ขอให้ผู้ที่จะไปซื้อของในตลาดต้องอย่าลืมใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกวิธีทุกครั้ง หยิบจับหรือสัมผัสสิ่งของในที่สาธารณะให้น้อยที่สุด และอย่าลืมล้างมือบ่อยๆ รวมถึงอาบน้ำให้สะอาดเมื่อกลับถึงบ้านด้วย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager