เวลาไปเที่ยวในหลากหลายสถานที่ในประเทศไทย ลองสังเกตดูก็มักจะพบว่ามีชุมชนหนึ่งหรือในพื้นที่ใกล้เคียง ก็มักจะมีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ หลายความเชื่อ ที่มาอาศัยอยู่ร่วมกัน อาจจะมีทั้งในพื้นที่เดียวกันหรือในพื้นที่ใกล้เคียง
สิ่งที่เห็นได้อย่างเด่นชัดก็คือ การมีศาสนสถาน หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของคนแต่ละกลุ่มที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน อย่างเมื่อครั้งที่ไปเยือนในละแวก “คู้บอน-คลองสามวา” ก็เห็นว่ามีวัดและศาสนสถานหลายแห่งที่อยู่ใกล้ๆ กัน แต่ละแห่งมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ ล้วนน่าเชิญชวนให้ไปชมเป็นอย่างยิ่ง
วิหารเสด็จพ่อพระศิวะ
“วิหารเสด็จพ่อพระศิวะ” ตั้งอยู่ในซอยคู้บอน 27 แยก 27 เป็นสถานที่ประดิษฐานเทวรูปองค์พระมหาศิวะเทพองค์ใหญ่สีทองอร่ามที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล
เมื่อมาถึงแล้วก็ขึ้นไปสักการะ “พระมหาศิวะเทพ” ที่อยู่บนชั้นสองของวิหาร องค์พระศิวะขนาดใหญ่สีเหลืองทอง ยิ่งมีแสดงแดดส่องลงมาก็ยิ่งมลังเมลือง ขนาดหน้าตักกว่า 9.99 เมตร มีความสูง 16 เมตร มีทางเชื่อมไปยังวิหารด้านข้าง ภายในประดิษฐานองค์พระศิวะ พระแม่อุมา และพระพิฆเนศ รวมถึงพระโพธิสัตว์กวนอิม
ส่วนที่ชั้นล่างของวิหารประดิษฐานเทพหลายๆ องค์ อาทิ องค์พระศิวะ พระพิฆเนศ พระแม่กาลี พระราม พระลักษมณ์ เทพทันใจ เป็นต้น และใกล้ๆ กันยังมี “สระน้ำศักดิ์สิทธิ์” ที่ดูงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแปลกตา มีรูปปั้นช้างใหญ่พร้อมองค์เทพ ภายในสระน้ำได้รวบรวมเอาน้ำจากแหล่งกำเนิด 3 ที่ ได้แก่ คือ น้ำจากเขาไกรลาศ จากสุวรรณวิหาร เมืองอมฤตสา และจากแม่น้ำคงคา เมืองพาราณสี มาไว้ที่นี่
วัดพระยาสุเรนทร์
“วัดพระยาสุเรนทร์” ตั้งอยู่ที่ถนนพระยาสุเรนทร์ เป็นวัดเก่าแก่กว่าร้อยปีที่อยู่ริมคลองพระยาสุเรนทร์ ภายในวัดนั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญคือ พระธาตุ 5 ประเทศที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา อินเดีย เนปาล พม่า ไทย
ส่วนทางเข้าพระอุโบสถมีศาลาตา-ยาย หรือศาลาพระยาสุเรนทร์ และท่านหญิงบุญมี เมื่อเดินเข้ามาด้านในจะพบกับพระอุโบสถเก่าแก่ที่มีอายุกว่าร้อยปี ทางวัดได้บูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่ มีการดีดโบสถ์ให้สูงขึ้นมามากกว่าเดิม สร้างศาลาล้อมรอบเป็นระเบียงคด ที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบ
ด้านในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธาน ส่วนด้านข้างพระอุโบสถมีทางเดินเล็กๆ ให้ลงไปลอดใต้โบสถ์ ภายใต้โบสถ์มีถ้ำพญานาค สามารถเดินลอดใต้โบสถ์ผ่านขึ้นมาด้านบนอีกข้างได้ เดินออกจากบริเวณพระอุโบสถไปอีกนิดจะมองเห็น “หลวงปู่ทวด” องค์ใหญ่ สามารถไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลได้
วัดโฝวกวงซัน
“วัดโฝวกวงซัน” หรือ “สถาบันพุทธศาสนา เถรวาท-มหายาน” ตั้งอยู่ถนนคู้บอน เป็นวัดสาขาจากไต้หวัน สถานที่แห่งนี้ได้ถูกออกแบบตามสถาปัตยกรรมของไต้หวัน เมื่อใครไปเยือนที่วัดนี้แล้วจะรู้สึกราวกับว่าเดินทางมายังไต้หวันกันทีเดียว
ภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเทพหลายองค์ให้ไปกราบไหว้ขอพร เมื่อเดินเข้าไปบริเวณวัดจะเห็นประตูวัดขนาดใหญ่ นักท่องเที่ยวที่มายังแห่งนี้จะต้องไม่พลาดถ่ายรูปกับประตูสูงเด่น ด้านข้างมีพระศากยมุนีหยกขาวให้กราบไหว้ก่อนเดินเข้าไปด้านใน
หลังจากเดินเข้าไปภายในวัด จะเห็นบรรยากาศโดยรอบดูกว้างขวางและงดงาม เพราะที่นี่ได้ออกแบบพุทธวิหารทั้งหมดเป็นศิลปะแบบจีน ประกอบไปด้วย วิหารกลาง วิหารพระอวโลกิเตศวร ห้องวิปัสสนา หอฉัน ห้องเรียนพุทธศาสนา ห้องประชุม เรือนรับรอง (ห้องพักของสาธุชน) หอพระไตรปิฎก (ห้องสมุด) เป็นต้น ทุกรายละเอียดของวัดถูกประดับตกแต่งได้อย่างสวยงาม
จากโถงรับรองเดินผ่านลานกว้างเพื่อมุ่งสู่วิหารกลาง ตั้งอยู่โดดเด่นเป็นศูนย์กลางของทุกสายตาของผู้มาเยือน ด้านหน้าของวิหารกลางแกะสลักเป็นรูปมังกรสีขาวอ่อนช้อยวิจิตรงดงาม ระหว่างเดินขึ้นไปยังด้านในจะมองเห็นเจ้าแม่กวนอิมสีทองอร่ามองค์ใหญ่อยู่ใกล้กับวิหารกลาง
ด้านในของ “วิหารกลาง” จะมีองค์พระ 3 องค์ เปรียบเสมือนเป็นองค์พระประธานของวิหารนี้ ริมผนังโดยรอบจะมีช่องขนาดต่างๆ วางองค์พระหลากหลายขนาดประดับอยู่ ส่วนริมผนังด้านนอกตกแต่งด้วยแผ่นกระเบื้อง ฐานวิหารเป็นเป็นหินแกะสลักรูปดอกไม้สวยงาม เมื่อเดินชมรอบวิหารจะพบกับวิหารพระกษิติครรภ์และวิหารพระศากยมุนีตั้งอยู่บริเวณด้านหลัง
นอกจากนี้ยังมีหอระฆัง (คัณฑฆระ) ซึ่งอารามที่มีขนาดใหญ่บางแห่งในจีน จะมีการหล่อสร้างระฆังให้มีขนาดใหญ่ และมีปริมาณน้ำหนักมาก โดยจะสร้างอาคารเพื่อสำหรับการแขวนระฆังขนาดใหญ่โดยเฉพาะ เรียกว่า หอระฆัง (คัณฑฆระ) โดยจะตั้งอยู่ทางด้านขวาของ “มหาวีระรัตนอุโบสถวิหาร” หากวัดหันหน้าไปทางทิศเหนือหรือทิศใต้ หอระฆังจะอยู่ทางทิศตะวันออก ส่วนหอกลองจะตั้งอยู่ทิศตะวันตก ซึ่งระฆังและกลองจึงถือเป็นเครื่องอุปกรณ์ดุริยางคธรรม ที่ใช้เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและเพื่อบอกกล่าวเวลา ตามช่วงขณะในกิจวัตรต่างๆ ของพระสงฆ์ในอาราม และบางครั้งเมื่อมีพระอาคันตุกเถระได้ธรรมยาตรามาเยือน ก็จะต้องมีการเคาะระฆังตีกลอง เพื่อความเป็นสิริมงคลถวายการต้อนรับที่ธรรมยาตรามาเยือน เป็นต้น
อีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ “วิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์” หรือบริเวณองค์เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่สีทองตั้งสูงสง่างาม รวมถึงมีรูปปั้นเทพจีนประดับอยู่รอบๆ ภายในเป็นห้องแอร์ มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมประดิษฐานอยู่ตรงกลางวิหาร ทั้ง 4 ปาง ได้แก่ ปรางค์ประธานบุตร ปางประทานพร ปางประทานทรัพย์ และปางประธานโชคลาภ
มาเยี่ยมยลย่านคู้บอน-คลองสามวา เดินเที่ยวกันทั้งวัน ได้ชมความงามของแต่ละสถานที่ เก็บภาพสวยๆ กลับบ้าน และยังได้ทำบุญทำทานจนอิ่มเอมใจไปด้วย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่Youtube :Travel MGR