หากเดินทางจาก จ.ฉะเชิงเทรา เข้าสู่ กทม. โดยใช้เส้นทางถนนสุวินทวงศ์ ช่วงซอยสุวินทวงศ์ 110 ก็จะเห็นอาคารที่สร้างจากไม้รูปลักษณ์สวยแปลกตา ด้วยความสงสัย “ตระเวนกิน” เลยแวะเข้าไปดูว่าที่นี่คืออาคารอะไร ปรากฎว่าเป็นร้านอาหารแห่งใหม่ที่บรรยากาศชวนนั่งเหลือเกิน
ร้านนี้มีชื่อว่า “แบมบูใหญ่” และเหตุที่ใช้ชื่อนี้ก็เนื่องจากอาคารหลังนี้มีโครงสร้างจากไม้ไผ่ทั้งหมด ส่วนหลังคาอาคารให้ความรู้สึกเคลื่อนไหวเหมือนมีชีวิต เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและแปลกตา ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โดยตั้งใจให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ มาเที่ยว มาถ่ายรูป มาพักผ่อน พร้อมกับมาชิมอาหารอร่อยๆ ได้ที่นี่
ที่นั่งในร้านก็มีทั้งโซนที่เป็นห้องแอร์ และโซนรับลมธรรมชาติ ระหว่างนั่งรออาหารก็ชมโครงสร้างเสาที่สานจากหวายเป็นเกลียวสูงขึ้นไป และด้านบนยังมีหวายสานเป็นรูปปลากัดและดอกบัวที่ละเอียดละออสวยงามมากๆ นอกจากนี้ก็ยังมีซุ้มที่สานขึ้นจากไม้ไผ่ให้เลือกนั่งเพื่อความเป็นส่วนตัว
ทางด้านอาหารของที่นี่ก็จะเน้นเป็นอาหารไทย 4 ภาค รวมถึงมีอาหารนานาชาติ เครื่องดื่ม และของหวานให้ลองชิม แล้วก็ยังมีเมนูอื่นๆ จากวัตถุดิบตามฤดูกาลหมุนเวียนมาให้ลิ้มลองด้วย
มานั่งที่ร้านแล้วเริ่มมื้ออร่อยด้วยเมนูเบาๆ Morning Farm Salad (150 บาท) เป็นสลัดผัก ที่เลือกใช้ผักออร์แกนิก 100% จากฟาร์มของทางร้านที่อยู่ด้านหลังร้าน เสิร์ฟมาพร้อมกับไก่สับ กุ้ง ถั่วลิสง มะพร้าวคั่ว และพริก คลุกเคล้าของกับน้ำสลัดที่ปรุงแบบน้ำยำไทยๆ ได้รสเปรี้ยวหวานเค็ม
เมนูถัดมาก็อร่อยได้ประโยชน์ ปลากะพงทอดสมุนไพร (380 บาท) ทางร้านเลือกใช้ปลากะพงสด สั่งมาวันต่อวัน นำไปแล่เป็นชิ้นๆ แล้วทอดให้กรอบนอกนุ่มใน ด้านบนเป็นสมุนไพรทอดกรอบ มีตะไคร้ หอมแดง กระเทียม กระชาย และพริกไทยอ่อน เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด เนื้อปลาทอดกรอบนอกนุ่มใน เนื้อแน่นสดดี หอมกลิ่นสมุนไพรที่ทอดมากรอบๆ ให้เคี้ยวด้วยเพลินๆ
ใครชอบความแซ่บจัดจ้าน แนะนำให้ลองชิม เย็นตาโฟหม้อไฟ (350 บาท) ที่จัดเต็มมาแน่นหม้อไฟ มีลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา หมึก กุ้ง หมึกกรอบ ฮือก้วย เลือดหมู และผักบุ้ง ซอสเย็นตาโฟทางร้านทำเองเน้นความเข้มข้นไม่ต้องปรุงเพิ่ม ซดร้อนๆ ได้ความหอม รสเปรี้ยวหวานเค็มของซอสเย็นตาโฟ ใครชอบเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ ทางร้านก็มีน้ำส้มพริกตำเสิร์ฟมาให้ด้วย พร้อมกับเกี๊ยวกรอบและเต้าหู้ทอดกรอบ
ส่วนจานนี้เป็นเมนูอาหารใต้ สะตอผัดกะปิกุ้ง (280 บาท) เลือกสะตอจากไร่ของทางร้านที่ภูเก็ต เป็นสะตอข้าว เม็ดไม่ใหญ่ มีความหอม มัน และเนื้อแน่น ผัดรวมกับกะปิแท้ๆ ใส่หมูสับ และกุ้งขาวไซส์ใหญ่ ปรุงรสจัดจ้าน ชิมแล้วได้ความเข้มข้นและหอมกะปิ สะตอเคี้ยวมันอร่อย แนะนำให้สั่งข้าวสวยร้อนๆ มากินคู่กันด้วยเพื่อความฟิน
ย้ายมาชิมเมนูอาหารเหนือกันบ้าง ลาบเหนือ (180 บาท) ของที่ร้านเป็นแบบลาบคั่วแห้งสูตรจากทางเหนือ เครื่องพริกลาบทางร้านทำเอง เลือกเลือดหมูสดๆ หมูเนื้อแดงทางร้านนำมาสับเอง ผัดคั่วปรุงรสให้ได้แบบต้นตำรับ และยังใส่สามชั้นที่นำไปทำเป็นหมูกรอบลงไปคั่วด้วย ชิมแล้วหอมเครื่องพริกลาบมากๆ กินเคียงกับผักสดก็เข้ากันดี
และเมนูอีสานจานที่ชวนชิม ซี่โครงหมูใต้น้ำ (240 บาท) เครื่องแกงมีสมุนไพรหลากหลายชนิด หอมแดง ข่า ตะไคร้ กระเทียม พริกแห้ง กะปิ ปรุงรสและคลุกเคล้ากับซี่โครงหมู จากนั้นนำใส่หม้อ นำน้ำเปล่าใส่กะละมังแล้ววางปิดบนฝาหม้อ ตั้งไฟ รอจนสุก ออกมาได้ซี่โครงหมูเนื้อนุ่มกำลังดี หอมเครื่องสมุนไพรมากๆ
อีกจานคือ สปาเก็ตตี้ต้มยำทะเล (220 บาท) ที่เป็นส่วนผสมระหว่างรสชาติไทยๆ และตะวันตกอย่างละครึ่ง ใช้เส้นแองเจิลแฮร์ลวกจนเกือบสุก นำไปผัดในครีมรสต้มยำ ที่ใส่เครื่องต้มยำ กุ้ง หมึก หอยแมลงภู่ และเห็ด ชิมแล้วได้ความหอมมันจากครีม และความจัดจ้านนิดๆ ของต้มยำ เป็นการผสมผสานที่อร่อยเข้ากันมากๆ
นอกจากเมนูที่ชิมกันไปแล้ว ยังมีอาหารจานเด็ดชวนกินอีกไม่น้อย เช่น ปอเปี๊ยะกุ้ง (180 บาท) กุ้งผัดผงกะหรี่ (350 บาท) หมึกผัดไข่เค็ม (250 บาท) ต้มข่าทะเล (180 บาท) เป็นต้น
ชิมอาหารอิ่มอร่อยกันแล้ว อย่าลืมเดินเล่นถ่ายรูปสวยๆ ตามมุมต่างๆ ในร้าน ยิ่งในช่วงแดดร่มลมตก อากาศเย็นสบาย ก็ยิ่งน่ามานั่งชิลๆ ที่ร้านเป็นอย่างยิ่ง
* * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “แบมบูใหญ่” ตั้งอยู่ที่ซอยสุวินทวงศ์ 110 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น. โทร. 09-7182-7641 Facebook : แบมบูใหญ่
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่Youtube :Travel MGR