“อาหารไทย” ถือว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่เชิดหน้าชูตาประเทศไทย ที่ไม่ว่านักกินชาติใดก็ตามหากได้ลองลิ้มอาหารไทย ที่มีรสชาติถึงรสถึงเครื่องแบบครบครัน คือมีทั้งรสหวานเปรี้ยว เค็ม เผ็ด มัน เป็นต้องติดใจในรสชาติอาหารที่ถูกปากกันแทบทุกราย อย่าง “ตระเวนกิน” เอง เมื่อใดก็ตามที่ได้กินอาหารไทยจะเจริญอาหารมากเป็นพิเศษ
ว่าแล้วในมื้อนี้เราก็ได้พาตัวเองมาเจริญอาหาร กับการอิ่มอร่อยกับอาหารไทยรสเลิศกันที่ร้าน “ทองหล่อ” ตั้งอยู่ที่โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) ที่นี่เป็นร้านอาหารไทยที่ตกแต่งร้านอย่างสวยงาม มีความเป็นไทยร่วมสมัยดูโมเดิร์น โปร่งโล่งสบายตา แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นชวนนั่งสบายๆ
ส่วนอาหารไทยของที่นี่มีเชฟโธมัส วรพล อิทธิคเณศร ผู้มากไปด้วยประสบการณ์และฝีมือในการปรุงอาหารไทย โดยเชฟได้คิดรังสรรค์อาหารไทยพื้นบ้านแบบร่วมสมัยขึ้นมาเป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะ เป็นอาหารไทยโบราณที่หากินได้ยาก ซึ่งเชฟได้ใช้ความเชี่ยวชาญด้านการเลือกใช้วัตถุดิบพื้นบ้าน ตลอดจนคัดสรรตำรับอาหารไทยโบราณที่หากินได้ยาก นำมารังสรรค์ความอร่อยพร้อมวัตถุดิบออร์แกนิกที่ดี มีความสดสะอาด เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ เพื่อนำมาสร้างสรรค์เป็นอาหารไทยตามตำรับชาววังที่ถูกลืมเลือนไปแล้ว ให้เกิดเป็นเมนูความอร่อยที่มีคุณค่า อีกทั้งยังเสิร์ฟอาหารที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์สร้างความน่าสนใจชวนชิม
เมื่อมาถึงร้านแล้วเลือกหาที่นั่งในมุมสบายตามชอบใจได้แล้ว ขอเมนูมาเปิดดูจะเห็นว่ามีอาหารไทยร่วมสมัยที่ชวนลิ้มลองมากหลาย แล้วเพื่อเป็นการกล่าวต้อนรับลูกค้าที่มากินอาหาร ก่อนที่อาหารที่สั่งไว้จะมาเสิร์ฟให้ได้ลิ้มรสกัน ทางร้านจะมีขนมหวานแบบไทยๆ หลากชนิดเสิร์ฟมาให้กินฟรี โดยขนมไทยมีหลากหลายชนิดหมุนเวียนกันไป อาทิ กลีบลำดวน เสน่ห์จันทร์ คุกกี้สิงคโปร์
สำหรับอาหารไทยจานเด็ดของที่นี่มีหลายเมนูที่ชวนกินด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น กรวยกะหรี่ (190 บาท) เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย แกงกะหรี่ไทยแบบโบราณมีส่วนผสมของไก่ มันฝรั่ง ทางร้านเลือกใช้ไก่ออร์แกนิกจากสิรินทร์ฟาร์ม ใช้ไก่สาว มารังสรรค์ความอร่อย เอาส่วนสะโพกและหน้าอก มาผัดเครื่องแกงกะหรี่โขลกเองให้ความหอม และเครื่องแกงตำสดหอมขมิ้นสด และตัวกรวยทำจากแป้งข้าวจ้าวผสมน้ำปูนใสนวดรวมกัน นำไปทอด เป็นเมนูตั้งแต่สมัยร.5 หากินยาก วิธีกินให้ตักแกงกะหรี่ใส่กรวยแล้วค่อยๆ กิน จะสัมผัสได้ถึงกรวยแป้งที่กรอบนุ่ม ละมุนเข้ากันกับไส้ไก่แกงกะหรี่
ทองพลุไส้ไก่ (250 บาท) เป็นอีกหนึ่งอาหารว่างเรียกน้ำย่อยแบบโบราณที่กินเป็นได้ทั้งอาหารคาวหรือหวาน เชฟทำแป้งเองโดยใช้แป้งข้าวเจ้านวดกับน้ำมัน เนยและไข่ไก่ผสมรวมกัน แล้วนำไปทอดให้แตกออกมา สอดไส้ด้วยไส้กะหรี่ไก่ผัดแห้ง กินแล้วถูกปากตรงที่แป้งกรอบนอกนุ่มใน ได้รสชาติไส้กะหรี่ไก่รสชาติดี
เมนูต่อมา คือ น้ำพริกมะขามสด (265 บาท) เป็นน้ำพริกมะขามสดเสิร์ฟพร้อมกุ้งแก้วจากภาคใต้ น้ำพริกมะขามปรุงแบบโบราณ เอามะขามอ่อนสดนำไปผัดกับปลาแห้งและกะปิใส่หมูสับเล็กน้อย ผัดเครื่องเคี่ยวรวมกันจนแห้ง กินน้ำพริกถูกปากโดนใจรสชาติเข้มข้น มาพร้อมผักสดและผักรวกให้กินแกล้มกัน แล้วก็ยังมีปลาสลิดทอดให้กินแนมเข้ากันดีจริง
ถัดมาลิ้มรส ผักปรังผัดน้ำมันหอย (185 บาท) ผักปรังเป็นผักพื้นบ้านมีรสชาติหวานอร่อย วัตถุดิบทางร้านเลือกใช้ผักที่ปลอดสารพิษซื้อตรงจากเกษตรกร นำผักปรังมาผัดไฟแรงปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ใส่พริกแดงผัดกับน้ำมันหมูที่เจียวเองได้ความหอมมากขึ้น และโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว กินผักปรังอร่อยถูกปากโดนใจ
แล้วมาลองลิ้ม ปลาห่อใบยอ (260 บาท) เชฟคัดสรรปลากะพงขาวออร์แกนิกที่เลือกมาอย่างดีจากบางปะกง นำปลากะพงมาคลุกเคล้าพริกแกงและมะพร้าวทึนทึก จากนั้นห่อด้วยใบยอ และห่อด้วยใบตองอ่อนอีกชั้น เพื่อให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น นำไปย่างจนสุก ชิมแล้วถูกปากดีปลากะพงเนื้อนุ่ม ได้รสถึงเครื่องพริกแกง มีใบบัวบกและใบยอซอยให้กินเคียงกัน
มัสมั่นเนื้อเสือร้องไห้ (250 บาท) ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับโรตีที่เชฟทำเองเรียกว่าลุดตี่ คล้ายโรตีโบราณ เชฟใช้เนื้อส่วนเสือร้องไห้ที่มีความนุ่ม นำมาแกงกับเครื่องแกงมัสมั่นที่โขลกเอง ใส่มันฝรั่งกับมันหวานต้มตุ๋นนาน 4 ชม. พักไว้ 1 คืนแล้วจึงนำมาขายได้ กินมัสมั่นเนื้อเข้มข้นถึงเครื่องแกง เนื้อนุ่มเคี้ยวหนึบปาก กินกับลุดตี่นุ่มนิ่มเข้ากันดีแท้
ต้มข่าปลาสลิดใส่ลูกกล้วย (245 บาท) เป็นเมนูไทยโบราณ ลูกกล้วยคือกล้วยน้ำว้าที่ห่ามนำไปต้ม ต้มกับน้ำธรรมดาแล้วจึงนำมาแกงกับต้มข่าใส่กะทิ ใส่ข่า ตะไคร้ใบมะกรูด ใส่ปลาสลิดทอดกรอบ ได้ความอร่อยที่กลมกล่อมถูกลิ้น
จากนั้นมากินขนมหวานล้างปาก กล้วยไข่บวชชีมะพร้าวกะทิ (98 บาท) เชฟใช้กล้วยไข่บวชแบบโบราณ คือเชื่อมกล้วยก่อน แล้วนำไปบวชกับน้ำกะทิและน้ำมะพร้าวอ่อน แล้วใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนเพิ่มความหอมหวาน ลิ้มรสแล้วหอมหวานน้ำกะทิกล้วยไข่เชื่อมนุ่มนิ่มกำลังดี
นอกจากอาหรไทยพื้นบ้านร่วมสมัยที่ชวนกินมากมายเหล่านี้แล้ว ทางร้านก็ยังมีเครื่องดื่มที่ชวนสั่งมาดื่มคู่กับอาหาร โดยมีม็อกเทลหลายแก้วที่ชวนดื่ม อย่างเช่น บ้านนามาร์ตินี่ (220 บาท) มีส่วนผสมของเครื่องต้มยำไทยครบเครื่อง ตะไคร้ ใบมะกรูด น้ำมะนาว พริก ใส่บลูกุราโซ่ให้ความสดชื่นแฝงด้วยกลิ่นส้มและสีฟ้าให้ความสดใส ดื่มแล้วสดชื่นใจ
แม่ริม (250 บาท) แก้วนี้มีส่วนผสมของน้ำมะนาว น้ำเสาวรส น้ำตาลทรายแดง โหระพาและตะไคร้ ดื่มแล้วชุ่มชื่นคอให้ความหอมสดชื่นของน้ำเสาวรส และได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของโหระพากับตะไคร้
บางกอกซันไรท์ (250 บาท) สีสันสดใส มีส่วนผสมของน้ำส้มคั้นสดผสมกับกรีนาดีน น้ำมะนาว เชครวมกันได้ความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ดื่มแล้วสร้างความสดชื่นได้เป็นอย่างดี
แก้วสุดท้ายแนะนำ แอปเปิ้ลมาร์ตินี่ (220 บาท) มีส่วนผสมของน้ำตะไคร้ น้ำแอปเปิ้ล น้ำมะนาว เชครวมกัน ดื่มแล้วชื่นใจได้ความหอมหวานและความสดชื่นของแอปเปิ้ล
แล้วในเมนูก็ยังมีอาหารไทยจานเด็ดอื่นๆ ที่ชวนลิ้มลองอีกมากมาย อาทิ ปลากะพงต้มสุมาลี (250 บาท) ไข่พะโล้หมูนอนตอง (185 บาท) แกงส้มไหลบัวใส่สับปะรด (250 บาท) ข้าวตังหน้าปู (225 บาท) เป็นต้น แล้วในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 นี้ ทางร้านมีมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น จัดโต๊ะนั่งห่างกัน 1-1.5 เมตร มีการสแกนอุณหภูมิก่อนเข้าร้าน ให้ลงทะเบียนสแกนคิวอาร์โค้ดไทยชนะ มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้บริการ พนักงานสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือ และรักษาทำความสะอาดร้านอย่างดี เพื่อให้ทุกคนได้มาอิ่มอร่อยกับอาหารไทยกันอย่างอิ่มหนำสำราญใจ เมื่อพากันมายังร้าน “ทองหล่อ”
ร้านอาหาร “ทองหล่อ” ตั้งอยู่ที่โรงแรมสเตย์บริดจ์สวีท แบงค็อก ทองหล่อ 101 ถนนทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร10110 เปิดทุกวัน เวลา 10.30 น. –21.30 น. โทร. 0-2000-4701, 09-2966-2563 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thong-lor.com/delivery, www.facebook.com/thonglorcuisine, www.instagram.com/thonglorcuisine, www.thong-lor.com/line
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR