นักโบราณคดีอิตาลีค้นพบกระเบื้องโมเสกสมัยโรมันโบราณในสภาพสมบูรณ์ ถูกฝังอยู่ใต้ดินของไร่องุ่น ชานเมืองเวโรนา ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี คาดว่าอาจมีอายุกว่า 1,700 ปี
รายงานข่าวจาก BBC ระบุว่า นักโบราณคดีอิตาลีค้นพบสมบัติทางโบราณคดีในพื้นที่บริเวณเนินเขาเหนือเมืองเนกราร์ ดี วัลโปลิเชลลา (Negrar di Valpolicella) ชานเมืองเวโรนา ทางตอนเหนือของอิตาลี หลังจากที่เมื่อเกือบ 100 ปีที่แล้วมีการขุดค้นพบซากคฤหาสน์โบราณ เชื่อว่าเป็นการก่อสร้างสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 3
การพบโมเสกดังกล่าวเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญหลังจากที่เมื่อปี 1922 ทีมนักประวัติศาสตร์ค้นพบแหล่งโบราณคดีซึ่งคาดว่าเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์วิลลาหรูของขุนนางยุคโรมัน แต่ก็ไม่ได้ค้นพบหลักฐานชิ้นสำคัญใดๆ แหล่งขุดค้นดังกล่าวก็ถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลาถึง 98 ปี
จากนั้นในเดือนตุลาคม 2019 ทีมนักโบราณคดีได้กลับไปขุดค้นอีกครั้ง จนกระทั่งเกิดวิกฤตโควิด-19 จึงได้หยุดการขุดค้นไป และกลับมาขุดค้นอีกครั้งหลังรัฐบาลเริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ กระทั่งค้นพบดังพื้นโมเสกพร้อมรากฐานของวิลลาดังกล่าว
ทีมนักโบราณคดีคาดว่า พื้นโมเสกและรากฐานวิลลาโรมันที่ค้นพบนี้อาจมีอายุนับย้อนกลับไปได้ถึงช่วงศตวรรษที่ 3 หรือแม้เวลาจะผ่านมานับพันปี โดยหลังจากนี้ทีมนักสำรวจจะประสานงานไปยังเจ้าของไร่องุ่นในพื้นที่ และทางการท้องถิ่นเพื่อหาทางออกในการเข้าขยายพื้นที่ขุดค้นเพื่อหาขุมทรัพย์ทางโบราณคดีที่อาจยังคงถูกซ่อนอยู่ต่อไป ขณะนี้ช่างขุดกำลังดำเนินการขุดค้นพื้นที่โดยรอบเพิ่มเติม เพื่อสำรวจตัวคฤหาสน์โบราณทั้งหลัง โดยได้รับความร่วมมือจากทางการท้องถิ่นที่ระบุว่าจะให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นทั้งหมดในการอำนวยความสะดวกการขุดค้นดังกล่าวจนแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาอิตาลีเคยค้นพบพื้นโมเสกจากยุคโรมันแล้วเช่นกัน จากการที่ถนนด้านนอกวิหารแพนธีออนในกรุงโรมเกิดการทรุดตัว จึงทำให้พบพื้นโมเสกยุคโรมันถูกฝังอยู่ใต้ดินราว 2.5 เมตร มีอายุเก่าแก่นับย้อนไปได้ถึง 2,000 ปี
*ภาพประกอบจาก Facebook เทศบาลเมืองเนกราร์ ดี วัลโปลิเชลลา
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com หรือชมคลิปต่างๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR