ในช่วงที่โรคโควิด-19 กำลังระบาด พี่น้องชาวไทยที่ได้รับความเดือดร้อน ขาดอาชีพ ขาดรายได้ ขาดสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต ก็มีหน่วยงานหลายๆ ฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นวัดที่จัดตั้งโรงทาน หรือประชาชนด้วยกันเองที่ช่วยกันเป็นจิตอาสาแจกอาหารและของใช้จำเป็น รวมถึงบริจาคเงินสนับสนุนการช่วยเหลือต่างๆ
ไม่เพียงช่วยเหลือคนไทยกันเองเท่านั้น น้ำใจเหล่านั้นยังเผื่อแผ่ไปถึงชาวต่างชาติต่างภาษา ซึ่งเป็นคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการความช่วยเหลือ เนื่องจากยังต้องตกค้างอยู่ในเมืองไทย ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นชาวต่างชาติที่มาเที่ยวช่วงที่เริ่มเกิดวิกฤตโรคระบาดแล้วไม่สามารถหาเที่ยวบินเพื่อเดินทางกลับประเทศตนเองได้ ต้องอยู่ในสถานที่ที่ไม่รู้จัก ไม่มีคนคุ้นเคย แถมเงินที่เตรียมมาเที่ยวก็ร่อยหรอ คนไทยใจเมตตาจึงไม่รีรอที่จะให้ความช่วยเหลือกับคนเหล่านี้
เช่นที่ จ.กระบี่ มีชาวต่างชาติที่ติดอยู่ที่เกาะพีพีนานกว่า 2 เดือน ได้เห็นและได้รับความช่วยเหลือจากคนไทยเป็นอย่างดี น้ำใจจากคนไทยสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จนกลายมาเป็นเสียงชื่นชมยกย่องว่าการดูแลคนประชาชนและนักท่องเที่ยวของประเทศไทยในช่วงวิกฤตโรคระบาดนั้นเทียบเท่าประเทศที่พัฒนาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแจกหน้ากากอนามัยฟรี และน้ำยาล้างมือฟรี รักษาพยาบาลโรคโควิดฟรี อาหารฟรี วัดไข้ฟรี ยกเว้นวีซ่าเข้าเมืองฟรีจนสิ้นเดือนมิถุนายน
ส่วนที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่ตกค้างจากพิษโควิด ได้มาพึ่งใบบุญของวัดใหม่พัฒนาราม นักท่องเที่ยวรายนี้ไปท่องเที่ยวที่เกาะสมุยและข้ามฝั่งมาสุราษฎร์ธานีเพื่อจะกลับรัสเซีย แต่เป็นช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาดและเที่ยวบินต่างประเทศหยุดบินพอดี จะไปต่อวีซ่าที่ จ.สงขลา ปรากฏว่าด่านปิด จึงมาขอพักอาศัยที่วัดใหม่พัฒนาราม โดยท่านเจ้าอาวาสและดูแลและจัดให้พักในกุฏิที่พักสงฆ์ โดยกินข้าวหลังพระฉันเพลเสร็จทุกวัน
“อีวาน” นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียคนดังกล่าวเล่าว่า มาขออาศัยอยู่ที่วัดตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน และได้ช่วยเหลือวัดทำงานทุกอย่าง ช่วงที่วัดมีการแจกอาหารก็ออกมาช่วยหลวงพี่แจกอาหารทุกวัน และขอขอบคุณคนไทยที่ตลอดเวลาที่ตนอยู่ที่วัดจะคอยห่วงใยคอยถาม นำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือมาให้ใช้ และยังให้การช่วยเหลือตนมาโดยตลอด ขอบคุณคนไทยใจดีทุกๆ คน
ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก มีเรื่องราวจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “กิตติคุณ บุญธรักษ์วรกุล” ที่เจ้าตัวได้โพสต์เล่าเรื่องราวว่า เห็นชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งมานั่งเก้าอี้ที่หน้าร้าน ถือแก้วน้ำเปล่าๆ จึงตัดสินใจเดินเข้าไปถามว่าหิวข้าวไหม พวกเขาตอบว่าหิวมากๆ ไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เช้า ตนจึงทอดไข่เจียวให้ 1 กล่อง และเห็นชาวต่างชาติกินเหมือนคนหิวข้าวมากๆ จึงถามว่าอิ่มไหม เขาตอบว่ายังไม่อิ่ม ตนจึงบอกว่าจะทำให้อีก เขาขอให้เพื่อนอีก 2 คน มาทานด้วยได้ไหม ตนจึงตอบไปว่าได้
"...คนไทยว่าแย่แล้ว แต่ชาวต่างชาติที่ติดค้างอยู่ที่นี่ ลองนึกดูสิ ว่าถ้าเป็นเรา บ้านก็ไม่ใช่ ญาติพี่น้องก็ไม่มี เงินก็ไม่มี เราจะไปเอาข้าวที่ไหนกิน..." คือข้อความในเฟซบุ๊กของ “กิตติคุณ บุญธรักษ์วรกุล”
และอีกหนึ่งกรณีที่ จ.ภูเก็ต เช่นกัน นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 3 คนที่กลับประเทศไม่ได้จึงมาอาศัยศาลาตั้งศพหลังเก่าข้างเมรุวัดไม้ขาว อ.ถลาง เพื่ออยู่อาศัย ใช้มุ้งสนามเป็นที่นอน ตอนแรกที่ชาวบ้านพบเห็นนึกว่าผีหลอกจึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบ จึงได้มีผู้เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้งสาม ทั้งพระที่วัดเองก็นำอาหารที่บิณฑบาตมาให้ รวมถึงชาวบ้านใกล้เคียงก็แบ่งอาหารให้เช่นกัน
นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียทั้งสามเล่าว่าเมื่อไม่มีเที่ยวบินกลับบ้านจึงเดินทางออกจากสนามบินภูเก็ตมาอาศัยอยู่ที่วัด และต่อมาก็ได้รับการช่วยเหลือจากพระและชาวบ้านหลายคนที่เข้ามามอบอาหารและเครื่องดื่มให้ทุกวัน ขอชื่นชมในน้ำใจคนไทย ชื่นชอบประเทศไทย และชื่นชอบจังหวัดภูเก็ต หากได้กลับประเทศรัสเซียและเหตุการณ์คลี่คลายจากโรคโควิด- 19 แล้วจะเดินทางกลับมาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทยอีก และจะชวนเพื่อนๆ มาเที่ยวด้วย
ด้าน จ.เชียงใหม่ เมื่อสาวชาวอังกฤษที่ทำงานผ่านระบบออนไลน์ แต่ช่วงวิกฤตโควิดนายจ้างยังไม่โอนเงินค่าจ้างมาให้ ทำให้ไม่มีเงินเหลือติดตัวจึงมารอที่อยู่สนามบิน หากนายจ้างโอนเงินมาให้ก็จะเดินทางต่อ และได้ขออาศัยพักรออยู่ในสนามบินเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันดูแลทั้งเรื่องอาหาร น้ำดื่ม
และต่อมาก็มีเจ้าของกิจการเกสต์เฮาส์แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ได้แสดงน้ำใจที่จะให้ที่พักและดูแลนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวไว้ที่เกสต์เฮาส์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย จนกระทั่งสามารถเดินทางกลับประเทศได้ นับเป็นน้ำใจที่หยิบยื่นให้แก่ผู้ที่เดือดร้อนในต่างบ้านต่างเมืองที่น่าชื่นชมยิ่งนัก
ปิดท้ายเรื่องราวของน้ำใจที่คนไทยมีให้แก่ชาวต่างชาติที่กรุงเทพมหานคร ก็มีเรื่องราวดีๆ ของการช่วยเหลือกันและกันจากเพจ “สุรัตนธรรม สถาน คลินิกเวชกรรมสุรัตน์หนึ่งบาท รักษาฟรี” หรือคลินิกเวชกรรมสุรัตน์ รักษาฟรี ในย่านบางลำพู โดยได้โพสต์เรื่องราวว่า
ตนเองได้แวะไปที่ย่านข้าวสาร ฝรั่งเดินมาดูที่ท้ายรถและถามว่า คุณคือเจ้าของคลินิกฟรีใช่ไหม? เมื่อตอบว่าใช่ เขาควักถุงยาคลินิกเวชกรรมสุรัตน์ออกมาและพูดว่า ผมรักษาที่คลินิกคุณ ผมจำตราคลินิกได้ ช่วยผมหน่อยผมไม่มีเงินกินข้าว ผมเป็นชาวเยอรมันอายุ 66 เมื่อเช้าผมไปสถานทูตเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่สถานทูตปิดมาหลายวันแล้ว ผมมีเงินติดตัวอยู่ 20 บาท ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน และควักเงิน 20 ออกมาให้เห็น และบอกว่าตอนนี้อาศัยอยู่ที่เกสเฮ้าส์ จะบินกลับวันจันทร์แต่ไม่แน่ใจจะกลับได้หรือเปล่าเพราะไม่มีเครื่ิองบินลง
เจ้าของโพสต์จึงมอบเงินให้ไป 1,000 บาท และบอกว่า “...ท่านทั้งหลายหากเราติดอยู่เมืองนอกเงินไม่มีจะซื้อข้าวกิน กลับบ้านก็ไม่ได้ไม่มีเครื่องจะอยู่อย่างไรครับ? เฮ่อ!!น่าสงสารจังเลย..เศร้า...?!”
เชื่อว่าน้ำใจที่คนไทยมอบให้นั้น จะทำให้ชาวต่างชาติรักเมืองไทย และคนไทยมากยิ่งขึ้น และเมื่อวิกฤตโรคระบาดนี้หมดไป เมืองไทยจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเหล่านั้นอีกครั้ง
...........................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR