กระแสตอบรับดี “เซ็นทรัล” ขยายเวลาจัด“ตลาดผลไม้รวมใจ” ช่วยเกษตรกร

เซ็นทรัลพัฒนา ขยายเวลาจัด “ตลาดผลไม้รวมใจ คนไทยช่วยชาติ” หลังได้รับกระแสตอบรับดี อีกทั้งยังเพิ่มสาขา และเพิ่มกลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูปเกรดส่งออก ตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤษภาคม 63 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ 14 สาขา

เซ็นทรัลพัฒนา ร่วมกับ กรมการค้าภายใน และกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ขยายเวลา “ตลาดผลไม้รวมใจ คนไทยช่วยชาติ” สนับสนุนพื้นที่ฟรี ช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้าเกษตรแปรรูปที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิดได้มีช่องทางจำหน่ายสินค้า ช่วยเยียวยาปัญหาผลไม้ล้นตลาด สร้างรายได้ให้เกษตรกรไทย ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมทั้งจากกลุ่มเกษตรกรและลูกค้า จึงขยายระยะเวลาจัดงานถึง 15 พฤษภาคม 63 พร้อมเพิ่มสาขา ขยายความช่วยเหลือยังผู้ประกอบการสินค้าส่งออกกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้น


ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เผยว่า “หลังจากที่เราได้จัดงาน “ตลาดผลไม้รวมใจ คนไทยช่วยชาติ” และได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจากทั้งกลุ่มเกษตรกรผู้ขาย และลูกค้าที่มาซื้อผลไม้ เพราะเราได้ช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้มีช่องทางระบายผลไม้ มีรายได้ ส่วนลูกค้าก็ได้เลือกซื้อผลไม้เกรดพรีเมี่ยม สด อร่อย ในราคาเหมือนไปซื้อถึงหน้าสวน เมื่อได้รับฟีดแบคที่ดี เราจึงขยายระยะเวลาในการจัดงาน พร้อมเพิ่มสาขาที่จัด รวมทั้งขยายความช่วยเหลือไปยังกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าเกษตรแปรรูปสำหรับส่งออกเพิ่มอีกด้วย

“ครั้งนี้มีทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการกลุ่มเดิม ภายใต้กรมการค้าภายใน และกลุ่มใหม่ภายใต้กรมการค้าต่างประเทศ สำหรับสินค้าไฮไลท์ของงานครั้งนี้ มีทั้งทุเรียนหมอนทองลับแล ฝรั่งหงเปาสือ ฝรั่งไส้แดง มะละกอฮอลแลนด์ ชมพู่ทับทิมจันทร์ มังคุดระยอง สับปะรดศรีราชา ส้มสายน้ำผึ้ง และมะม่วงหลากสายพันธุ์ ทั้งมะม่วงอาร์ทูอีทู มะม่วงมันศาลายา มะม่วงยู่เหวิน และมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง นอกจากนี้ ยังมีสินค้าเกษตรแปรรูปที่น่าสนใจ อาทิ ผลไม้อบกรอบ แยมมัลเบอร์รี่ และ นมแมคคาเดเมีย และสินค้าเพื่อสุขภาพ ได้แก่ น้ำมัลเบอร์รี่ น้ำนมข้าวยาคู ออร์แกนิค กาแฟพริกสกัด พริกอบกรอบเคลือบงา ขนมผักกรอบแปรรูป เป็นต้น” ดร. ณัฐกิตติ์ กล่าว


ตลาดผลไม้รวมใจ คนไทยช่วยชาติ จัดจำหน่าย ตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤษภาคม 63 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ 14 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ และเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, ปิ่นเกล้า, บางนา, เวสต์เกต, แจ้งวัฒนะ, รัตนาธิเบศร์, ศาลายา, พระราม 2, พระราม 3, เชียงใหม่แอร์พอร์ต, เชียงราย และนครศรีธรรมราช โดยลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ทั้งแบบ Take away หรือ Drive thru มารับสินค้าโดยไม่ต้องลงจากรถ โดยการสั่งซื้อผ่านบริการ ONE CALL x ONE CLICK ผ่านเบอร์ Call Center : 02-021-9999 หรือ Line @CentralLife เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าอย่างเต็มที่


อย่างไรก็ดีทางศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ ได้คุมเข้มมาตรการความสะอาดและสุขอนามัยอย่างเข้มงวดใน 5 แกนหลัก ได้แก่ (1) การคัดกรองอย่างเข้มงวด ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ ทั้งพนักงานของศูนย์ และร้านค้า พนักงาน delivery และลูกค้าทุกคน , (2) มาตรฐาน Social Distancing กำหนดระยะห่างทุกจุด, (3) การติดตามเพื่อความปลอดภัย ด้วยการ Tracking ข้อมูลสุขภาพ และการเดินทางของพนักงานในศูนย์และร้านค้า, (4) การใส่ใจในความสะอาดทุกจุดสัมผัส เช็ดทำความสะอาดจุดที่มีการสัมผัสทุก 30 นาที และฆ่าเชื้อหลังปิดศูนย์ฯ พร้อมทำ Big Cleaning ทุกสัปดาห์ (5) แนวทางลดการสัมผัส (Touchless) โดยจัดพนักงานเปิดปิดประตูศูนย์การค้า และกดลิฟท์ให้ลูกค้าเพื่อลดการสัมผัส เพื่อความปลอดภัยของทุกคน และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า

ขณะที่ “เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์” ยังเปิดให้บริการตามเวลาที่กำหนดในแต่ละสาขา รวมถึงร้านอาหารแบบเดลิเวอรี่และซื้อกลับบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการซื้อสินค้าที่จำเป็น