Youtube :Travel MGR
ตรุษจีนปีหนูทองปีนี้ ตรงกับวันที่ 25 มกราคม 2563
ทุก ๆ ปีพอถึงเทศกาลตรุษจีน ที่ “เยาวราช” ย่านไชนย่าทาวน์เมืองไทยในกรุงเทพมหานคร จะคึกคักไปด้วยบรรยากาศสีสันของวันปีใหม่จีน ผู้คนสวมชุดแดงออกจับจ่ายซื้อของเพื่อนำมาใช้เซ่นไหว้บรรพบุรุษ และเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลตรุษจีน รวมถึงทำกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับตรุษจีนอย่างคึกคัก
นอกจากนี้ที่เยาวราชยังมีการจัด “งานตรุษจีนเยาวราช” อย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี โดยปีนี้ตรุษจีนเยาวราชมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 25-26 ม.ค. 63
ภายในงานมีกิจกรรมน่าสนใจ อาทิ ร่วมรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธาน, การแสดงทางวัฒนธรรมจากสาธารณรัฐประชาชนจีน, การแจกเหรียญที่ระลึกในงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช จำนวน 9,999 เหรียญต่อวัน, การออกร้านจำหน่ายสินค้าและอาหารมงคล, ขบวนแห่มังกร การเชิดสิงโต อันยิ่งใหญ่ตระการตา และกิจกรรมความบันเทิงตลอดการจัดงาน
นอกจากงานตรุษจีนและบรรยากาศตรุษจีนอันสุดคึกคักแล้ว ที่เยาวราชยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมน่าสนใจ ซึ่งผู้คนนิยมทำกันในช่วงตรุษจีน นั่นก็คือ “การไหว้พระ-ไหว้เทพเจ้า” เสริมสิริมงคลรับขวัญวันปีใหม่จีน ให้เฮง เฮง เฮง โชคดีมีชัยตลอดปี
โดยส่วนใหญ่จะนิยมไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เด่น ๆ 8 แห่ง หรือที่นิยมเรียกกันว่า “8 มงคลสถาน” ในย่านเยาวราช ตามความเชื่อของชาวจีนที่ถือว่า “เลข 8” เป็นเลขมงคล
สำหรับ 8 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในกิจกรรมไหว้พระ-ไหว้เทพเจ้า เสริมสิริมงคลที่เยาวราชมีดังนี้
1.”วัดมังกรกมลาวาส” หรือ “วัดเล่งเน่ยยี่” เป็นวัดจีนที่มีชื่อเสียงที่สุดในเยาวราช ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ตรงกันข้ามกับตลาดเยาวราช
วัดวัดเล่งเน่ยยี่ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2414 โดยพระอาจารย์จีนวังสมาธิวัตร (สกเห็ง) เพื่อเผยแพร่ศาสนาพุทธลัทธิมหายาน และต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเปลี่ยนชื่อให้เป็นวัดมังกรกมลาวาสในภายหลัง
ภายในวัดเล่งเน่ยยี่ มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปสีทองแบบจีน มีวิหารอยู่ด้านหน้า ประดิษฐานรูปท้าวจตุโลกบาลเป็นรูปหล่อเขียนสี แต่งกายแบบนักรบจีน และยังมีรูปปั้นของเทพเจ้าตามความเชื่อในลัทธิเต๋าและเทพเจ้าพื้นเมืองอื่น ๆ ของจีน
นอกจากนี้ก็ยังมีวิหารอีก 3 หลัง คือวิหารอวโลกิเตศวร ประดิษฐานรูปเจ้าแม่กวนอิม วิหารปฐมบูรพาจารย์ ประดิษฐานรูปเหมือนของพระอาจารย์จีนวังสมาธิวัตร และวิหารสังฆปรินายก ประดิษฐานเซียนหลักโจ้ว ซึ่งเป็นหมู่เทพซึ่งเชื่อกันว่าจะให้ความคุ้มครอง ช่วยในเรื่องสุขภาพ การค้า และความรักได้ด้วย
นอกจากนี้คนที่เกิดในปีชงก็สามารถมาสะเดาะเคราะห์ที่วัดมังกรฯ แห่งนี้ได้ โดยกระบวนการไหว้พระ-ไหว้เทพเจ้าที่วัดนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะไหว้ไม่เป็นหรือทำตามขั้นตอนไม่ถูก เพราะเขามีคำแนะนำเขียนบอกไว้อย่างละเอียด
2.“ศาลเจ้าเล่งบ้วยเอี้ย” ศาลเจ้าที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งในเยาวราช ตั้งอยู่ที่ตรอกอิสรานุภาพ
ศาลเจ้าแห่งนี้ มีหลักฐานว่า สร้างขึ้นก่อน พ.ศ.2201 หรือตรงกับสมัยอยุธยาตอนกลาง ที่ศาลเจ้าแห่งนี้มีเทพเจ้าเล่งบ้วยเอี้ย เป็นที่เคารพสักการะของชาวจีนทั้งหลาย
ที่ศาลเจ้าเล่งบ้วยเอี้ยมีคนนิยมนำผ้าแดงมาผูกไว้บริเวณขาของโต๊ะบูชาไว้จนเต็มไปหมด โดยจะเขียนชื่อ-นามสกุล หรือสิ่งที่ต้องการขอไว้ที่ผ้าแดง แล้วนำไปผูกไว้เพื่อเป็นการฝากตัวเองหรือญาติมิตรไว้ให้เทพเจ้าเล่งบ้วยเอี้ยคุ้มครองดูแล เป็นการฝากเนื้อฝากตัวกับท่านเทพเจ้า
3.“ศาลเจ้าพ่อกวนอูและเทพเจ้าม้า” ตั้งอยู่ที่ตลาดเก่าเยาวราช ศาลแห่งนี้มี 2 เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์สำคัญตามชื่อศาลคือ เทพเจ้ากวนอูและเทพเจ้าม้า
สำหรับเทพเจ้ากวนอู คนไทยคงรู้จักท่านจากเรื่องสามก๊ก เทพเจ้ากวนอูนั้นเป็นสัญลักษณ์ของคุณธรรม ปัญญา และสัจจะ
ส่วนเทพเจ้าม้านั้นก็มีคนนิยมมาไหว้เพื่อขอให้ท่านช่วยในเรื่องของหน้าที่ การงาน เชื่อว่าจะได้เป็นเจ้าคนนายคนและมีลูกน้องบริวารที่ดี หากมีลูกลูกก็จะเลี้ยงง่าย ไม่ดื้อ และคนที่มาไหว้เทพเจ้าม้านี้ก็จะไหว้ผักสด เช่น ผักกาดหรือผักบุ้ง
4.“วัดบำเพ็ญจีนพรต” (ย่ง ฮก ยี่) ตั้งอยู่ในตรอกเต๊า เป็นวัดที่เล็กที่สุดที่อยู่ในเยาวราช มีพื้นที่พอ ๆ กับตึกแถวเพียงห้องเดียว
วัดบำเพ็ญจีนพรต ในอดีตเคยเป็นศาลเจ้าร้างมาก่อน ต่อมาได้มีพระจากเวียดนามมาบูรณะจนกลายเป็นวัดบำเพ็ญจีนพรต และได้รับป้ายนามพระราชทานจากรัชกาลที่ 5 ด้วย
วัดแห่งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่พระพุทธรูป และพระอรหันต์สิบแปดองค์ที่ทำจากกระดาษ หรือที่เรียกว่า เปเปอร์มาเช่ แต่ดูสวยงามไม่แพ้พระพุทธรูปหล่อ หรือปูนปั้นเลย ปัจจุบันวัดบำเพ็ญจีนพรตมีพระภิกษุจำพรรษาอยู่ 9 รูปด้วยกัน
5.“มูลนิธิเทียนฟ้า” ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ
มูลนิธิแห่งนี้เป็นมูลนิธิแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงมอบทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ พร้อมตู้เก็บพระไตรปิฎก บทสวดมนต์ 2 ตู้ให้กับมูลนิธิแห่งนี้ และปัจจุบันตู้ก็ยังคงตั้งอยู่ 2 ข้างขององค์เจ้าแม่กวนอิมปางประทานพร องค์ประธานของศาลเจ้าแห่งนี้อยู่
สำหรับเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้แกะสลักจากไม้เนื้อหอมแล้วลงรักปิดทอง รูปร่างกำยำล่ำสัน ซึ่งมีประวัติเล่าว่า จริงๆ แล้วท่านเป็นผู้ชาย แต่ไม่สามารถช่วยเหลือสตรีได้ จึงเนรมิตกายเป็นผู้หญิง ผู้ที่มาไหว้มักขอพรให้มีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียน
6.”ศาลเจ้าเล่าปุนเถ่ากง” ตั้งอยู่บนถนนทรงวาด เป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีนแต้จิ๋วที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี
ที่เยาวราชเมื่อมีงานเทศกาลหรืองานสารท ก็จะมีผู้คนจากทั่วสารทิศมากราบไหว้ท่าน เชื่อว่าหากได้สักการะแล้วจะเหมือนมีผู้คอยดูแลทุกข์สุขให้ โดยในอดีตนั้นเรือสำเภาที่มาจากเมืองจีนก่อนจะมาขึ้นที่ท่าเรือตรงนี้ จะต้องจุดประทัดบูชาเทพเจ้าเสียก่อน
7.“ศาลเจ้าโจวซือกง” ตั้งอยู่ที่ย่านตลาดน้อย
โจวซือกง เป็นเทพเจ้าองค์สำคัญของชาวจีนฮกเกี้ยนและเป็นเทพแห่งหมอยาด้วย
รูปปั้นของเทพเจ้าองค์นี้มีลักษณะที่ผิดแปลกจากรูปปั้นอื่น เพราะมีลักษณะสีดำทั้งองค์ ผู้คนนิยมมาไหว้ท่านเพราะมีความเชื่อกันว่าถ้าได้มาไหว้เทพองค์นี้แล้วจะหายจากโรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน เพราะการไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ
8.”ศาลเจ้าไต้ฮงกง” ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับสถานีตำรวจพลับพลาชัย
ศาลเจ้าไต้ฮงกงหรือที่รู้จักกันดีในนามของ “มูลนิธิปอเต็กตึ้ง” เป็นอีกที่ที่มีผู้คนมาทำบุญสะเดาะเคราะห์และต่อดวงชะตาด้วยการบริจาคซื้อโลงศพกันมาก โดยก่อนที่จะไปทำบุญก็ต้องมากราบไหว้เจ้าไต้ฮงกงกันก่อน ซึ่งตามประวัติท่านเป็นนักบวชที่กลายเป็นเทพเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ คอยช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก
และนี่ก็คือ 8 มงคลสถาน อันโดดเด่นในย่านเยาวราช ซึ่งในย่านไชน่าทาวน์เมืองไทยแห่งนี้ยังมีศาลเจ้าต่าง ๆ อีกมากว่า 20 แห่ง ให้ผู้สนใจได้สักกาะบูชา เสริมสิริมงคลรับขวัญวันตรุษจีน
อย่างไรก็ดีสำหรับ 8 มงคลสถาน หรือศาลเจ้าอื่น ๆ ในย่านเยาวราช นอกจากช่วงเทศกาลตรุษจีน ในวันปกติก็สามารถเดินทางมาไหว้พระ-ไหว้เทพเจ้าที่ศาลเจ้าเหล่านี้กันได้
สำหรับผู้ที่มาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตั้งจิตอธิษฐานขอพรแล้ว แล้ว หากอยากให้ประสบผลดังพรที่หวังก็ต้องคิดดี ทำดี และปฏิบัติตามสิ่งที่ขอพรไปอย่างมุ่งมั่น แล้วนั่นพรที่ขอก็อาจจะประสบผลสำเร็จได้สมหวังดังที่ขอ
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
ตรุษจีนปีหนูทองปีนี้ ตรงกับวันที่ 25 มกราคม 2563
ทุก ๆ ปีพอถึงเทศกาลตรุษจีน ที่ “เยาวราช” ย่านไชนย่าทาวน์เมืองไทยในกรุงเทพมหานคร จะคึกคักไปด้วยบรรยากาศสีสันของวันปีใหม่จีน ผู้คนสวมชุดแดงออกจับจ่ายซื้อของเพื่อนำมาใช้เซ่นไหว้บรรพบุรุษ และเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลตรุษจีน รวมถึงทำกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับตรุษจีนอย่างคึกคัก
นอกจากนี้ที่เยาวราชยังมีการจัด “งานตรุษจีนเยาวราช” อย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี โดยปีนี้ตรุษจีนเยาวราชมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 25-26 ม.ค. 63
ภายในงานมีกิจกรรมน่าสนใจ อาทิ ร่วมรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธาน, การแสดงทางวัฒนธรรมจากสาธารณรัฐประชาชนจีน, การแจกเหรียญที่ระลึกในงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช จำนวน 9,999 เหรียญต่อวัน, การออกร้านจำหน่ายสินค้าและอาหารมงคล, ขบวนแห่มังกร การเชิดสิงโต อันยิ่งใหญ่ตระการตา และกิจกรรมความบันเทิงตลอดการจัดงาน
นอกจากงานตรุษจีนและบรรยากาศตรุษจีนอันสุดคึกคักแล้ว ที่เยาวราชยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมน่าสนใจ ซึ่งผู้คนนิยมทำกันในช่วงตรุษจีน นั่นก็คือ “การไหว้พระ-ไหว้เทพเจ้า” เสริมสิริมงคลรับขวัญวันปีใหม่จีน ให้เฮง เฮง เฮง โชคดีมีชัยตลอดปี
โดยส่วนใหญ่จะนิยมไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เด่น ๆ 8 แห่ง หรือที่นิยมเรียกกันว่า “8 มงคลสถาน” ในย่านเยาวราช ตามความเชื่อของชาวจีนที่ถือว่า “เลข 8” เป็นเลขมงคล
สำหรับ 8 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในกิจกรรมไหว้พระ-ไหว้เทพเจ้า เสริมสิริมงคลที่เยาวราชมีดังนี้
1.”วัดมังกรกมลาวาส” หรือ “วัดเล่งเน่ยยี่” เป็นวัดจีนที่มีชื่อเสียงที่สุดในเยาวราช ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ตรงกันข้ามกับตลาดเยาวราช
วัดวัดเล่งเน่ยยี่ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2414 โดยพระอาจารย์จีนวังสมาธิวัตร (สกเห็ง) เพื่อเผยแพร่ศาสนาพุทธลัทธิมหายาน และต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเปลี่ยนชื่อให้เป็นวัดมังกรกมลาวาสในภายหลัง
ภายในวัดเล่งเน่ยยี่ มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปสีทองแบบจีน มีวิหารอยู่ด้านหน้า ประดิษฐานรูปท้าวจตุโลกบาลเป็นรูปหล่อเขียนสี แต่งกายแบบนักรบจีน และยังมีรูปปั้นของเทพเจ้าตามความเชื่อในลัทธิเต๋าและเทพเจ้าพื้นเมืองอื่น ๆ ของจีน
นอกจากนี้ก็ยังมีวิหารอีก 3 หลัง คือวิหารอวโลกิเตศวร ประดิษฐานรูปเจ้าแม่กวนอิม วิหารปฐมบูรพาจารย์ ประดิษฐานรูปเหมือนของพระอาจารย์จีนวังสมาธิวัตร และวิหารสังฆปรินายก ประดิษฐานเซียนหลักโจ้ว ซึ่งเป็นหมู่เทพซึ่งเชื่อกันว่าจะให้ความคุ้มครอง ช่วยในเรื่องสุขภาพ การค้า และความรักได้ด้วย
นอกจากนี้คนที่เกิดในปีชงก็สามารถมาสะเดาะเคราะห์ที่วัดมังกรฯ แห่งนี้ได้ โดยกระบวนการไหว้พระ-ไหว้เทพเจ้าที่วัดนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะไหว้ไม่เป็นหรือทำตามขั้นตอนไม่ถูก เพราะเขามีคำแนะนำเขียนบอกไว้อย่างละเอียด
2.“ศาลเจ้าเล่งบ้วยเอี้ย” ศาลเจ้าที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งในเยาวราช ตั้งอยู่ที่ตรอกอิสรานุภาพ
ศาลเจ้าแห่งนี้ มีหลักฐานว่า สร้างขึ้นก่อน พ.ศ.2201 หรือตรงกับสมัยอยุธยาตอนกลาง ที่ศาลเจ้าแห่งนี้มีเทพเจ้าเล่งบ้วยเอี้ย เป็นที่เคารพสักการะของชาวจีนทั้งหลาย
ที่ศาลเจ้าเล่งบ้วยเอี้ยมีคนนิยมนำผ้าแดงมาผูกไว้บริเวณขาของโต๊ะบูชาไว้จนเต็มไปหมด โดยจะเขียนชื่อ-นามสกุล หรือสิ่งที่ต้องการขอไว้ที่ผ้าแดง แล้วนำไปผูกไว้เพื่อเป็นการฝากตัวเองหรือญาติมิตรไว้ให้เทพเจ้าเล่งบ้วยเอี้ยคุ้มครองดูแล เป็นการฝากเนื้อฝากตัวกับท่านเทพเจ้า
3.“ศาลเจ้าพ่อกวนอูและเทพเจ้าม้า” ตั้งอยู่ที่ตลาดเก่าเยาวราช ศาลแห่งนี้มี 2 เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์สำคัญตามชื่อศาลคือ เทพเจ้ากวนอูและเทพเจ้าม้า
สำหรับเทพเจ้ากวนอู คนไทยคงรู้จักท่านจากเรื่องสามก๊ก เทพเจ้ากวนอูนั้นเป็นสัญลักษณ์ของคุณธรรม ปัญญา และสัจจะ
ส่วนเทพเจ้าม้านั้นก็มีคนนิยมมาไหว้เพื่อขอให้ท่านช่วยในเรื่องของหน้าที่ การงาน เชื่อว่าจะได้เป็นเจ้าคนนายคนและมีลูกน้องบริวารที่ดี หากมีลูกลูกก็จะเลี้ยงง่าย ไม่ดื้อ และคนที่มาไหว้เทพเจ้าม้านี้ก็จะไหว้ผักสด เช่น ผักกาดหรือผักบุ้ง
4.“วัดบำเพ็ญจีนพรต” (ย่ง ฮก ยี่) ตั้งอยู่ในตรอกเต๊า เป็นวัดที่เล็กที่สุดที่อยู่ในเยาวราช มีพื้นที่พอ ๆ กับตึกแถวเพียงห้องเดียว
วัดบำเพ็ญจีนพรต ในอดีตเคยเป็นศาลเจ้าร้างมาก่อน ต่อมาได้มีพระจากเวียดนามมาบูรณะจนกลายเป็นวัดบำเพ็ญจีนพรต และได้รับป้ายนามพระราชทานจากรัชกาลที่ 5 ด้วย
วัดแห่งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่พระพุทธรูป และพระอรหันต์สิบแปดองค์ที่ทำจากกระดาษ หรือที่เรียกว่า เปเปอร์มาเช่ แต่ดูสวยงามไม่แพ้พระพุทธรูปหล่อ หรือปูนปั้นเลย ปัจจุบันวัดบำเพ็ญจีนพรตมีพระภิกษุจำพรรษาอยู่ 9 รูปด้วยกัน
5.“มูลนิธิเทียนฟ้า” ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ
มูลนิธิแห่งนี้เป็นมูลนิธิแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงมอบทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ พร้อมตู้เก็บพระไตรปิฎก บทสวดมนต์ 2 ตู้ให้กับมูลนิธิแห่งนี้ และปัจจุบันตู้ก็ยังคงตั้งอยู่ 2 ข้างขององค์เจ้าแม่กวนอิมปางประทานพร องค์ประธานของศาลเจ้าแห่งนี้อยู่
สำหรับเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้แกะสลักจากไม้เนื้อหอมแล้วลงรักปิดทอง รูปร่างกำยำล่ำสัน ซึ่งมีประวัติเล่าว่า จริงๆ แล้วท่านเป็นผู้ชาย แต่ไม่สามารถช่วยเหลือสตรีได้ จึงเนรมิตกายเป็นผู้หญิง ผู้ที่มาไหว้มักขอพรให้มีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียน
6.”ศาลเจ้าเล่าปุนเถ่ากง” ตั้งอยู่บนถนนทรงวาด เป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีนแต้จิ๋วที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี
ที่เยาวราชเมื่อมีงานเทศกาลหรืองานสารท ก็จะมีผู้คนจากทั่วสารทิศมากราบไหว้ท่าน เชื่อว่าหากได้สักการะแล้วจะเหมือนมีผู้คอยดูแลทุกข์สุขให้ โดยในอดีตนั้นเรือสำเภาที่มาจากเมืองจีนก่อนจะมาขึ้นที่ท่าเรือตรงนี้ จะต้องจุดประทัดบูชาเทพเจ้าเสียก่อน
7.“ศาลเจ้าโจวซือกง” ตั้งอยู่ที่ย่านตลาดน้อย
โจวซือกง เป็นเทพเจ้าองค์สำคัญของชาวจีนฮกเกี้ยนและเป็นเทพแห่งหมอยาด้วย
รูปปั้นของเทพเจ้าองค์นี้มีลักษณะที่ผิดแปลกจากรูปปั้นอื่น เพราะมีลักษณะสีดำทั้งองค์ ผู้คนนิยมมาไหว้ท่านเพราะมีความเชื่อกันว่าถ้าได้มาไหว้เทพองค์นี้แล้วจะหายจากโรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน เพราะการไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ
8.”ศาลเจ้าไต้ฮงกง” ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับสถานีตำรวจพลับพลาชัย
ศาลเจ้าไต้ฮงกงหรือที่รู้จักกันดีในนามของ “มูลนิธิปอเต็กตึ้ง” เป็นอีกที่ที่มีผู้คนมาทำบุญสะเดาะเคราะห์และต่อดวงชะตาด้วยการบริจาคซื้อโลงศพกันมาก โดยก่อนที่จะไปทำบุญก็ต้องมากราบไหว้เจ้าไต้ฮงกงกันก่อน ซึ่งตามประวัติท่านเป็นนักบวชที่กลายเป็นเทพเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ คอยช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก
และนี่ก็คือ 8 มงคลสถาน อันโดดเด่นในย่านเยาวราช ซึ่งในย่านไชน่าทาวน์เมืองไทยแห่งนี้ยังมีศาลเจ้าต่าง ๆ อีกมากว่า 20 แห่ง ให้ผู้สนใจได้สักกาะบูชา เสริมสิริมงคลรับขวัญวันตรุษจีน
อย่างไรก็ดีสำหรับ 8 มงคลสถาน หรือศาลเจ้าอื่น ๆ ในย่านเยาวราช นอกจากช่วงเทศกาลตรุษจีน ในวันปกติก็สามารถเดินทางมาไหว้พระ-ไหว้เทพเจ้าที่ศาลเจ้าเหล่านี้กันได้
สำหรับผู้ที่มาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตั้งจิตอธิษฐานขอพรแล้ว แล้ว หากอยากให้ประสบผลดังพรที่หวังก็ต้องคิดดี ทำดี และปฏิบัติตามสิ่งที่ขอพรไปอย่างมุ่งมั่น แล้วนั่นพรที่ขอก็อาจจะประสบผลสำเร็จได้สมหวังดังที่ขอ
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR