Facebook :Travel @ Manager
“หมีแพนด้า หมีแพนด้า หมีแพนด้า หมีๆ แพนด้า หมีแพนด้า เขาว่าน่ารัก ผมนี้ชัก ชักอยากจะเห็น อยากสัมผัสหมีตัวเป็นๆอยากจะเห็น เห็นหมีแพนด้า”
“ตะลอนเที่ยว” ฮัมเพลงหมีแพนด้า ของศิลปินไฮโร อยู่ในใจแบบมีความสุข เมื่อเครื่องบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย พาเราบินเหินฟ้าจากเมืองไทย มุ่งหน้ามายัง “เฉิงตู” (Chengdu) เมืองเอกของมณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน (ประเทศจีน) ซึ่งที่มณฑลเสฉวนถือว่าเป็นถิ่นกำเนิดของหมีแพนด้า หมีแพนด้าถือว่าเป็นสัตว์สงวนหายากของประเทศจีน ทางประเทศจีนให้ความสำคัญกับหมีแพนด้าที่เป็นสัตว์หายาก และใกล้สูญพันธุ์แล้วตามธรรมชาติ จึงได้ก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์และศึกษาหมีแพนด้า พร้อมกับทำการแพร่พันธุ์หมีแพนด้า ซึ่งที่เฉิงตูมีศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชม
เมื่อมาถึงยังเมืองเฉิงตู เราไม่รอช้ารีบมุ่งหน้าไปชมหมีแพนด้ากันที่ “ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าตูเจียงเอี้ยน” ตั้งอยู่ที่เมืองตูเจียงเอี้ยน ต้องนั่งรถออกจากเมืองเฉิงตูมาประมาณ 1 ชม. อันที่จริงในเมืองเฉิงตูก็มีศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าให้ชมกัน แต่เรามายังศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าตูเจียงเอี้ยนแห่งนี้ เพราะที่นี่เป็นศูนย์อนุรักษ์และสถานที่ศึกษาหมีแพนด้า โดยมีสถานที่ที่เหมาะสมที่จะศึกษาระบบนิเวศน์ การอยู่อาศัย การแพร่พันธุ์ของหมีแพนด้า และเพาะพันธุ์หมีแพนด้า
เมื่อมาถึงศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าตูเจียงเอี้ยน เราก็ได้เห็นรูปปั้นหมีแพนด้าที่น่ารักมาคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว จากนั้นจะมีรถกอล์ฟพานั่งเข้าไปชมด้านใน ซึ่งภายในศูนย์ฯ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ มีความเป็นธรรมชาติอันรื่นรมย์ และมีต้นไผ่ลูกศร ที่ได้ทำการปลูกไว้เป็นอาหารที่เจ้าหมีแพนด้าชอบกินมาก
รถกอล์ฟจะพามาส่งยังจุดชมหมีแพนด้า เราสามารถเดินชมหมีแพนด้ากันเองได้แบบสบายๆ โดยจะมีเส้นทางให้เดินไปชมหมีแพนด้าที่จะอยู่ตามจุดต่างๆ ซึ่งถูกสร้างขึ้นให้เหมือนกับสวนป่าขนาดย่อม และแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน โดยหมีแพนด้า 1 ตัวจะอยู่ในพื้นที่อาณาบริเวณของตัวเอง สร้างที่อยู่เลียนแบบให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติ มีต้นไม้สูงให้หมีแพนด้าได้ปีนป่าย มีการสร้างของเล่นต่างๆ ให้หมีแพนด้าได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย
หมีแพนด้าที่นำมาจัดแสดงให้ชมนั้น เป็นหมีแพนด้าที่มีอายุประมาณ 2 – 5 ปี ด้านหน้าจะมีป้ายบอกข้อมูลของหมีแพนด้าแต่ละตัว ว่าชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ น้ำหนักเท่าไหร่ หมีแพนด้าพวกนี้จะถูกดูแลอย่างดี มีเจ้าหน้าที่ดูแลเฉพาะตัวแบบใกล้ชิด คอยมาให้อาหาร และคอยตรวจเช็กสุขภาพทุกวัน
อีกหนึ่งอย่างที่หมีแพนด้าชอบพอๆ กับการกิน ก็คือการนอน ฉะนั้นเมื่อมาชมหมีแพนด้า บางทีเราจึงได้เห็นแต่เจ้าหมีแพนด้าตัวอ้วนกลมนอนนิ่งๆ อยู่บนต้นไม้ บ้างก็ปีนป่ายต้นไม้เล่น หรือปีนขึ้นไปนอนแบบสบายใจ เป็นภาพความน่ารักที่น่าเอ็นดูมากๆ เรียกว่าแค่ได้เห็นเจ้าหมีแพนด้าน้อยเหล่านี้อยู่อย่างมีความสุข เราก็อมยิ้มและสุขใจตามไปด้วย (แต่ถ้าใครไม่ได้มีโอกาสมาชมหมีแพนด้าถึงที่เฉิงตู ก็สามารถไปชมหมีแพนด้าหลินฮุ่ยและช่วงช่วง ที่ยังอยู่ให้ชมที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ที่ทางประเทศจีนส่งมาเป็นทูตสันถวไมตรีกับประเทศไทย แต่หลินปิงถูกส่งกลับมาที่ประเทศจีนแล้ว)
เราได้เดินดูเจ้าหมีแพนด้าที่น่ารักจนเต็มอิ่มใจแล้ว ก็ได้เวลาโบกมือบ้ายบายเจ้าหมีแพนด้าที่น่ารักเหล่านั้น แต่ว่าก่อนที่จะออกจากศูนย์ฯ ยังมีจุดที่ขายสินค้าเกี่ยวกับหมีแพนด้า ไม่ว่าจะเป็น ตุ๊กตาหมีแพนด้า เสื้อผ้า กระเป๋า พวกกุญแจ และของที่ระลึกมากมายเกี่ยวกับหมีแพนด้า ให้ได้ชอปเป็นของฝากของที่ระลึกที่น่ารัก ติดไม้ติดมือกลับบ้านไป
หลังจากได้ดูหมีแพนด้าสมใจปรารถนาแล้ว เราก็นั่งรถกลับเข้ามายังเมืองเฉิงตู เพื่อตรงดิ่งมาเดินชอปปิ้งละลายทรัพย์กันที่ “ถนนคนเดินชุนซีลู่” (Chunxi Lu) หรือ Walking Street ของเสฉวน เป็นย่านชอปปิ้งทันสมัยชื่อดัง ที่นี่เป็นถนนขนาดใหญ่ และเป็นถนนปิดที่ไม่ให้รถวิ่งผ่านเข้าไปได้
ภายในถนนคนเดินชุนซีลู่ สองฝากฝั่งของถนนมีแต่ร้านค้า ร้านรวงขายสินค้ามากมาย ตั้งแต่ร้านแบรนด์เนมชื่อดัง สินค้าแบรนด์จีน มีสินค้ามากหลายให้เลือกซื้อ อาทิ เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง เครื่องดื่ม อาหารการกิน รวมถึงยังมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ชื่อดัง ให้เหล่านักชอปได้เดินเลือกซื้อสินค้าตามใจชอบกันอย่างเพลิดเพลินสำราญใจ
ได้เดินชอปปิ้งละลายทรัพย์ ได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างมากมายแล้ว เราขอไปนั่งพักขาด้วยการไปชม “การแสดงโชว์เปลี่ยนหน้ากาก” ที่ได้ชื่อว่าเป็นศิลปะการแสดงงิ้วชั้นสูงของเสฉวน ขนาดมีคำกล่าวไว้ว่า หากมาเที่ยวเมืองเฉิงตู แล้วไม่ได้มาดูโชว์การเปลี่ยนหน้ากาก ก็ถือว่ามาไม่ถึงเฉิงตู
“ตะลอนเที่ยว” ได้มาดูการโชว์เปลี่ยนหน้ากากที่ “โรงละคร Sichuan Opera” เป็นโรงละครเก่าแก่ใจกลางเมืองเฉิงตู สำหรับการแสดงโชว์เปลี่ยนหน้ากากนี้เป็นศิลปะการแสดงของคนจีนตั้งแต่สมัยโบราณ ที่สงวนและสืบทอดกันมาภายในตระกูล หลายชั่วอายุคน ไม่ถ่ายทอดให้บุคคลภายนอกทั่วไป ผู้ที่สืบทอดจะเป็นทายาทเท่านั้น และหน้ากากที่นำมาทำการแสดงนั้นทำด้วยเส้นไหมอย่างดี มีความสวยงามมาก
การแสดงโชว์ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. โดยมีการแสดงหลากหลายให้ได้ชมกัน ไม่ว่าจะเป็น การแสดงงิ้วเรื่องสามก๊ก การแสดงโชว์ร่ายรำอันงดงามอ่อนช้อย การแสดงของนักแสดงตลกที่เรียกเสียงฮาอย่างสนุกสนาน การแสดงเชิดหุ่น การแสดงกายกรรมชวนทึ่ง การแสดงยิงแสงสีเลเซอร์อันทันสมัยชวนตื่นตา
และไฮไลต์ก็คือการแสดงโชว์เปลี่ยนหน้ากากอันตระการตา และชวนอึ้ง ทึ่งไปกับความสามารถของนักแสดงที่สวมใส่หน้ากาก แล้วสามารถเปลี่ยนหน้ากากได้เพียงชั่วพริบตาเดียว บ้างก็สะบัดพัด สะบัดธง ก็สามารถเปลี่ยนหน้ากาก ที่สวมใส่ที่อยู่บนหน้าได้แบบมองตามแทบไม่ทัน
หรือแค่เพียงสะบัดหน้าเท่านั้นหน้ากากก็ถูกเปลี่ยนทันที เรียกว่ากระพริบตาดูไม่ทัน หน้ากากก็ถูกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วมากๆ และเปลี่ยนหน้ากากไปเรื่อยๆ จนหมดหน้ากากและโชว์หน้าจริงของนักแสดง เรียกเสียงฮือฮาและเสียงปรบมือดังสนั่นในความสามารถของเหล่านักแสดง ที่โชว์การเปลี่ยนหน้ากากได้อย่างตระการตา
ครั้นได้ชมโชว์เปลี่ยนหน้ากากจบแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ถ้ามาถึงเฉิงตู แล้วก็ต้องห้ามพลาด คือการลองลิ้มอาหารเสฉวน โดยหนึ่งในอาหารท้องถิ่นที่ชวนกินก็คือ “หม้อไฟเสฉวน” (Hot Pot) ซึ่งสามารถหาลิ้มลองได้จากหลากหลายร้าน ที่นำเสนอหม้อไฟเสฉวน หน้าตาก็คล้ายกับการกินสุกี้ คือมีน้ำซุปและเนื้อสัตว์กับผักต่างๆ ให้ต้มลวกกิน พร้อมกับนำจิ้มสไตล์เสฉวน
โดยจุดเด่นของหม้อไฟเสฉวน ก็อยู่ตรงที่รสชาติอันเผ็ดร้อนของน้ำซุปสีแดงจัดจ้าน ที่มีส่วนผสมของพริกสด พริกแห้ง พริก ไทย ขิง และเครื่องเทศต่างๆ ในหม้อหลากหลายชนิดที่ใส่มาแบบไม่ยั้ง โดยมีสมุนไพรที่โดดเด่นก็คือ “หมาล่า” โดยคำว่า หมา หมายถึง อาการชาที่ปลายลิ้น คำว่าล่า หมายถึง รสชาติเผ็ด ดังนั้นหมาล่า ก็คือรสชาติเผ็ดของเครื่องเทศสมุนไพรที่ให้รสชาติเผ็ดจนลิ้นชา ซึ่งส่วนประกอบที่ทำให้หมาล่ามีรสชาติเผ็ดจนลิ้นชาได้คือ เครื่องเทศที่มีชื่อว่า “ฮวาเจียว” หรือ “พริกไทยเสฉวน” มีรูปร่างคล้ายเม็ดพริกไทยดำ พริกนี้เป็นรสชาติหลักของหมาล่า ที่เมื่อเคี้ยวถูกลิ้นจะให้รสชาติที่เผ็ดร้อน และชาลิ้นนิดๆ
การกินหม้อไฟเสฉวน จะมีหม้อน้ำซุปหมาล่าสีแดงจัดจ้านด้วยพริกและเครื่องเทศ กับน้ำซุปใส แล้วก็นำผักและเนื้อสัตว์ต่างๆ ลงไปลวกในน้ำซุป คนเฉิงตูจะนิยมกินพวกเครื่องในต่างๆ กับหม้อไฟ แต่ถ้าใครไม่ชื่นชอบกินเครื่องในก็สามารถสั่งเนื้อหมู หรือซีฟู้ดต่างๆ มากินกับน้ำซุปเสฉวนอันเผ็ดร้อน รสชาติจัดจ้านถึงทรวง จี๊ดจ๊าดอร่อยได้ใจคนชอบอาหารรสจัด
การได้มาทัวร์เมืองเฉิงตูในทริปนี้ของ “ตะลอนเที่ยว” เรียกว่าได้มาสัมผัสกับของดีมากหลายของเฉิงตู ทั้งได้ดูหมีแพนด้า ชมโชว์เปลี่ยนหน้ากาก ชอปปิ้งจุใจ และลิ้มรสหม้อไฟเสฉวน ได้รับความสุข สนุกสนาน กลับเมืองไทยแบบสุขสันต์
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
การเดินทางสู่เฉิงตู มีสายการบินไทยแอร์เอเชียให้บริการ กรุงเทพ (ดอนเมือง) - เฉิงตู วันละ 1 เที่ยวบิน เวลา 21.50 - 02.00 น. และเฉิงตู - กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) วันละ 1 เที่ยวบิน เวลา 02.50 - 05.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.airasia.com โทร. 0-2515-9999
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
“หมีแพนด้า หมีแพนด้า หมีแพนด้า หมีๆ แพนด้า หมีแพนด้า เขาว่าน่ารัก ผมนี้ชัก ชักอยากจะเห็น อยากสัมผัสหมีตัวเป็นๆอยากจะเห็น เห็นหมีแพนด้า”
“ตะลอนเที่ยว” ฮัมเพลงหมีแพนด้า ของศิลปินไฮโร อยู่ในใจแบบมีความสุข เมื่อเครื่องบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย พาเราบินเหินฟ้าจากเมืองไทย มุ่งหน้ามายัง “เฉิงตู” (Chengdu) เมืองเอกของมณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน (ประเทศจีน) ซึ่งที่มณฑลเสฉวนถือว่าเป็นถิ่นกำเนิดของหมีแพนด้า หมีแพนด้าถือว่าเป็นสัตว์สงวนหายากของประเทศจีน ทางประเทศจีนให้ความสำคัญกับหมีแพนด้าที่เป็นสัตว์หายาก และใกล้สูญพันธุ์แล้วตามธรรมชาติ จึงได้ก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์และศึกษาหมีแพนด้า พร้อมกับทำการแพร่พันธุ์หมีแพนด้า ซึ่งที่เฉิงตูมีศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชม
เมื่อมาถึงยังเมืองเฉิงตู เราไม่รอช้ารีบมุ่งหน้าไปชมหมีแพนด้ากันที่ “ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าตูเจียงเอี้ยน” ตั้งอยู่ที่เมืองตูเจียงเอี้ยน ต้องนั่งรถออกจากเมืองเฉิงตูมาประมาณ 1 ชม. อันที่จริงในเมืองเฉิงตูก็มีศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าให้ชมกัน แต่เรามายังศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าตูเจียงเอี้ยนแห่งนี้ เพราะที่นี่เป็นศูนย์อนุรักษ์และสถานที่ศึกษาหมีแพนด้า โดยมีสถานที่ที่เหมาะสมที่จะศึกษาระบบนิเวศน์ การอยู่อาศัย การแพร่พันธุ์ของหมีแพนด้า และเพาะพันธุ์หมีแพนด้า
เมื่อมาถึงศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าตูเจียงเอี้ยน เราก็ได้เห็นรูปปั้นหมีแพนด้าที่น่ารักมาคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว จากนั้นจะมีรถกอล์ฟพานั่งเข้าไปชมด้านใน ซึ่งภายในศูนย์ฯ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ มีความเป็นธรรมชาติอันรื่นรมย์ และมีต้นไผ่ลูกศร ที่ได้ทำการปลูกไว้เป็นอาหารที่เจ้าหมีแพนด้าชอบกินมาก
รถกอล์ฟจะพามาส่งยังจุดชมหมีแพนด้า เราสามารถเดินชมหมีแพนด้ากันเองได้แบบสบายๆ โดยจะมีเส้นทางให้เดินไปชมหมีแพนด้าที่จะอยู่ตามจุดต่างๆ ซึ่งถูกสร้างขึ้นให้เหมือนกับสวนป่าขนาดย่อม และแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน โดยหมีแพนด้า 1 ตัวจะอยู่ในพื้นที่อาณาบริเวณของตัวเอง สร้างที่อยู่เลียนแบบให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติ มีต้นไม้สูงให้หมีแพนด้าได้ปีนป่าย มีการสร้างของเล่นต่างๆ ให้หมีแพนด้าได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย
หมีแพนด้าที่นำมาจัดแสดงให้ชมนั้น เป็นหมีแพนด้าที่มีอายุประมาณ 2 – 5 ปี ด้านหน้าจะมีป้ายบอกข้อมูลของหมีแพนด้าแต่ละตัว ว่าชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ น้ำหนักเท่าไหร่ หมีแพนด้าพวกนี้จะถูกดูแลอย่างดี มีเจ้าหน้าที่ดูแลเฉพาะตัวแบบใกล้ชิด คอยมาให้อาหาร และคอยตรวจเช็กสุขภาพทุกวัน
อีกหนึ่งอย่างที่หมีแพนด้าชอบพอๆ กับการกิน ก็คือการนอน ฉะนั้นเมื่อมาชมหมีแพนด้า บางทีเราจึงได้เห็นแต่เจ้าหมีแพนด้าตัวอ้วนกลมนอนนิ่งๆ อยู่บนต้นไม้ บ้างก็ปีนป่ายต้นไม้เล่น หรือปีนขึ้นไปนอนแบบสบายใจ เป็นภาพความน่ารักที่น่าเอ็นดูมากๆ เรียกว่าแค่ได้เห็นเจ้าหมีแพนด้าน้อยเหล่านี้อยู่อย่างมีความสุข เราก็อมยิ้มและสุขใจตามไปด้วย (แต่ถ้าใครไม่ได้มีโอกาสมาชมหมีแพนด้าถึงที่เฉิงตู ก็สามารถไปชมหมีแพนด้าหลินฮุ่ยและช่วงช่วง ที่ยังอยู่ให้ชมที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ที่ทางประเทศจีนส่งมาเป็นทูตสันถวไมตรีกับประเทศไทย แต่หลินปิงถูกส่งกลับมาที่ประเทศจีนแล้ว)
เราได้เดินดูเจ้าหมีแพนด้าที่น่ารักจนเต็มอิ่มใจแล้ว ก็ได้เวลาโบกมือบ้ายบายเจ้าหมีแพนด้าที่น่ารักเหล่านั้น แต่ว่าก่อนที่จะออกจากศูนย์ฯ ยังมีจุดที่ขายสินค้าเกี่ยวกับหมีแพนด้า ไม่ว่าจะเป็น ตุ๊กตาหมีแพนด้า เสื้อผ้า กระเป๋า พวกกุญแจ และของที่ระลึกมากมายเกี่ยวกับหมีแพนด้า ให้ได้ชอปเป็นของฝากของที่ระลึกที่น่ารัก ติดไม้ติดมือกลับบ้านไป
หลังจากได้ดูหมีแพนด้าสมใจปรารถนาแล้ว เราก็นั่งรถกลับเข้ามายังเมืองเฉิงตู เพื่อตรงดิ่งมาเดินชอปปิ้งละลายทรัพย์กันที่ “ถนนคนเดินชุนซีลู่” (Chunxi Lu) หรือ Walking Street ของเสฉวน เป็นย่านชอปปิ้งทันสมัยชื่อดัง ที่นี่เป็นถนนขนาดใหญ่ และเป็นถนนปิดที่ไม่ให้รถวิ่งผ่านเข้าไปได้
ภายในถนนคนเดินชุนซีลู่ สองฝากฝั่งของถนนมีแต่ร้านค้า ร้านรวงขายสินค้ามากมาย ตั้งแต่ร้านแบรนด์เนมชื่อดัง สินค้าแบรนด์จีน มีสินค้ามากหลายให้เลือกซื้อ อาทิ เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง เครื่องดื่ม อาหารการกิน รวมถึงยังมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ชื่อดัง ให้เหล่านักชอปได้เดินเลือกซื้อสินค้าตามใจชอบกันอย่างเพลิดเพลินสำราญใจ
ได้เดินชอปปิ้งละลายทรัพย์ ได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างมากมายแล้ว เราขอไปนั่งพักขาด้วยการไปชม “การแสดงโชว์เปลี่ยนหน้ากาก” ที่ได้ชื่อว่าเป็นศิลปะการแสดงงิ้วชั้นสูงของเสฉวน ขนาดมีคำกล่าวไว้ว่า หากมาเที่ยวเมืองเฉิงตู แล้วไม่ได้มาดูโชว์การเปลี่ยนหน้ากาก ก็ถือว่ามาไม่ถึงเฉิงตู
“ตะลอนเที่ยว” ได้มาดูการโชว์เปลี่ยนหน้ากากที่ “โรงละคร Sichuan Opera” เป็นโรงละครเก่าแก่ใจกลางเมืองเฉิงตู สำหรับการแสดงโชว์เปลี่ยนหน้ากากนี้เป็นศิลปะการแสดงของคนจีนตั้งแต่สมัยโบราณ ที่สงวนและสืบทอดกันมาภายในตระกูล หลายชั่วอายุคน ไม่ถ่ายทอดให้บุคคลภายนอกทั่วไป ผู้ที่สืบทอดจะเป็นทายาทเท่านั้น และหน้ากากที่นำมาทำการแสดงนั้นทำด้วยเส้นไหมอย่างดี มีความสวยงามมาก
การแสดงโชว์ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. โดยมีการแสดงหลากหลายให้ได้ชมกัน ไม่ว่าจะเป็น การแสดงงิ้วเรื่องสามก๊ก การแสดงโชว์ร่ายรำอันงดงามอ่อนช้อย การแสดงของนักแสดงตลกที่เรียกเสียงฮาอย่างสนุกสนาน การแสดงเชิดหุ่น การแสดงกายกรรมชวนทึ่ง การแสดงยิงแสงสีเลเซอร์อันทันสมัยชวนตื่นตา
และไฮไลต์ก็คือการแสดงโชว์เปลี่ยนหน้ากากอันตระการตา และชวนอึ้ง ทึ่งไปกับความสามารถของนักแสดงที่สวมใส่หน้ากาก แล้วสามารถเปลี่ยนหน้ากากได้เพียงชั่วพริบตาเดียว บ้างก็สะบัดพัด สะบัดธง ก็สามารถเปลี่ยนหน้ากาก ที่สวมใส่ที่อยู่บนหน้าได้แบบมองตามแทบไม่ทัน
หรือแค่เพียงสะบัดหน้าเท่านั้นหน้ากากก็ถูกเปลี่ยนทันที เรียกว่ากระพริบตาดูไม่ทัน หน้ากากก็ถูกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วมากๆ และเปลี่ยนหน้ากากไปเรื่อยๆ จนหมดหน้ากากและโชว์หน้าจริงของนักแสดง เรียกเสียงฮือฮาและเสียงปรบมือดังสนั่นในความสามารถของเหล่านักแสดง ที่โชว์การเปลี่ยนหน้ากากได้อย่างตระการตา
ครั้นได้ชมโชว์เปลี่ยนหน้ากากจบแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ถ้ามาถึงเฉิงตู แล้วก็ต้องห้ามพลาด คือการลองลิ้มอาหารเสฉวน โดยหนึ่งในอาหารท้องถิ่นที่ชวนกินก็คือ “หม้อไฟเสฉวน” (Hot Pot) ซึ่งสามารถหาลิ้มลองได้จากหลากหลายร้าน ที่นำเสนอหม้อไฟเสฉวน หน้าตาก็คล้ายกับการกินสุกี้ คือมีน้ำซุปและเนื้อสัตว์กับผักต่างๆ ให้ต้มลวกกิน พร้อมกับนำจิ้มสไตล์เสฉวน
โดยจุดเด่นของหม้อไฟเสฉวน ก็อยู่ตรงที่รสชาติอันเผ็ดร้อนของน้ำซุปสีแดงจัดจ้าน ที่มีส่วนผสมของพริกสด พริกแห้ง พริก ไทย ขิง และเครื่องเทศต่างๆ ในหม้อหลากหลายชนิดที่ใส่มาแบบไม่ยั้ง โดยมีสมุนไพรที่โดดเด่นก็คือ “หมาล่า” โดยคำว่า หมา หมายถึง อาการชาที่ปลายลิ้น คำว่าล่า หมายถึง รสชาติเผ็ด ดังนั้นหมาล่า ก็คือรสชาติเผ็ดของเครื่องเทศสมุนไพรที่ให้รสชาติเผ็ดจนลิ้นชา ซึ่งส่วนประกอบที่ทำให้หมาล่ามีรสชาติเผ็ดจนลิ้นชาได้คือ เครื่องเทศที่มีชื่อว่า “ฮวาเจียว” หรือ “พริกไทยเสฉวน” มีรูปร่างคล้ายเม็ดพริกไทยดำ พริกนี้เป็นรสชาติหลักของหมาล่า ที่เมื่อเคี้ยวถูกลิ้นจะให้รสชาติที่เผ็ดร้อน และชาลิ้นนิดๆ
การกินหม้อไฟเสฉวน จะมีหม้อน้ำซุปหมาล่าสีแดงจัดจ้านด้วยพริกและเครื่องเทศ กับน้ำซุปใส แล้วก็นำผักและเนื้อสัตว์ต่างๆ ลงไปลวกในน้ำซุป คนเฉิงตูจะนิยมกินพวกเครื่องในต่างๆ กับหม้อไฟ แต่ถ้าใครไม่ชื่นชอบกินเครื่องในก็สามารถสั่งเนื้อหมู หรือซีฟู้ดต่างๆ มากินกับน้ำซุปเสฉวนอันเผ็ดร้อน รสชาติจัดจ้านถึงทรวง จี๊ดจ๊าดอร่อยได้ใจคนชอบอาหารรสจัด
การได้มาทัวร์เมืองเฉิงตูในทริปนี้ของ “ตะลอนเที่ยว” เรียกว่าได้มาสัมผัสกับของดีมากหลายของเฉิงตู ทั้งได้ดูหมีแพนด้า ชมโชว์เปลี่ยนหน้ากาก ชอปปิ้งจุใจ และลิ้มรสหม้อไฟเสฉวน ได้รับความสุข สนุกสนาน กลับเมืองไทยแบบสุขสันต์
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
การเดินทางสู่เฉิงตู มีสายการบินไทยแอร์เอเชียให้บริการ กรุงเทพ (ดอนเมือง) - เฉิงตู วันละ 1 เที่ยวบิน เวลา 21.50 - 02.00 น. และเฉิงตู - กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) วันละ 1 เที่ยวบิน เวลา 02.50 - 05.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.airasia.com โทร. 0-2515-9999
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager