โดย : ปิ่น บุตรี(pinn109@hotmail.com)
เมื่อวสันตฤดูมาเยือน
ฟ้าชุ่มฉ่ำ ดินชุ่มน้ำ
มวลหมู่มหา“กระเจียว” ที่หลับใหลอยู่ใต้พื้นดินในบ้านเราต่างพากันแตกหน่อ แทงยอด แล้วค่อยๆทยอยกันผลิดอกแย้มบานขึ้นมาเริงร่าอวดโฉมความงาม
กระเจียว ราชินีแห่งป่าฝน
กระเจียว เป็นพืชล้มลุกสกุลเดียวกับขมิ้น อยู่ในวงขิง,ข่า,ขมิ้น กระเจียวขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ ในฤดูหนาวและฤดูร้อนพวกมันจะจำศีลหลับใหลพักตัว แต่พอถึงวสันตฤดูเมื่อฝนโปรยสายลงมาพวกมันก็จะพากันออกดอกเริงร่าเบ่งบาน
พืชตระกูลกระเจียว มีรายงานว่าทั่วโลกพบไม่ต่ำกว่า 65 ชนิด(Species ) ทั้งในทวีปออสเตรเลีย อัฟฟริกา เอเชีย ส่วนในเมืองไทยมีข้อมูลระบุว่า พบพืชสกุลกระเจียวประมาณ 30 ชนิด มีกระจายอยู่ตามภาคต่างๆทั่วประเทศไทย โดยแต่ละพื้นที่ต่างก็เรียกชื่อต่างกันออกไปตามสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น บัวสวรรค์ ปทุมมา กระเจียวบัว หรือ ทิวลิปสยาม เป็นต้น
กระเจียวมีดอกเป็นกลีบซ้อนกันหลายชั้น ดอกกระเจียวมีหลายสีสัน ทั้ง ขาว เขียว แดง ส้ม ชมพูอ่อน และที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีก็คือดอกกระเจียวที่ชัยภูมิกับสีชมพูสดอมม่วง ดอกอ่อนของกระเจียวบางชนิดสามารถกินได้
ดอกกระเจียวได้ชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งป่าฝน” เพราะเป็นหนึ่งในดอกไม้ที่มากับฝนอย่างแท้จริง
สำหรับแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวที่จัดเป็นความมหัศจรรย์ของผืนป่าในหน้าฝนซึ่งโด่งดังมากในบ้านเราก็คือ ที่ จ.ชัยภูมิ ที่มีจุดชมดอกกระเจียวสำคัญอยู่ 2 แห่งด้วยกัน คือ “อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” อ.เทพสถิต และ “อุทยานแห่งชาติไทรทอง” อ.หนองบัวระเหว
ดอกกระเจียวทั้ง 2 อุทยานฯจะมีสีชมพูอมม่วง แต่ที่ไทรทองสีจะสดกว่าและออกดอกช้ากว่าที่ป่าหินงามราวๆสองสัปดาห์ ทุกๆปีทุ่งดอกกระเจียวจะบานตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงสิงหาคม บวก-ลบ 2 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับสภาพฝนฟ้าอากาศ
ทุ่งดอกกระเจียว
ทุ่งดอกกระเจียว“อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เป็นจุดชมทุ่งดอกกระเจียวยอดนิยมอันดับหนึ่งของเมืองไทย ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน 22 เส้นทางชมดอกไม้แสนงามทั่วไทยจากโครงการ “Dream Destinations 2 กาลครั้งนั้น ความฝันผลิบาน” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)
ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงามมีเนื้อที่กว้างขวางกว่า 100 ไร่ ถือเป็นทุ่งดอกกระเจียวผืนใหญ่ผืนเดียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
สำหรับการเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียว อช.ป่าหินงาม หากต้องการหลีกหนีความพลุกพล่านจากมวลมหานักท่องเที่ยวที่นิยมมารุมเที่ยวกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ ขอแนะนำให้มาในวันธรรมดา ที่จะมีนักท่องเที่ยวน้อยกว่า พอให้ได้เดินเหินคล่องสบาย และสามารถเดินชิลล์หามุมสวยๆถ่ายรูปทุ่งดอกกระเจียวกันได้ไม่มากก็น้อย
ดอกกระเจียวที่ป่าหินงามมีสีชมพูอมม่วงอ่อน ยามที่มันออกดอกเบ่งบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่ง สีชมพูอมม่วงของมันจะตัดกับสีเขียวสดของทุ่งหญ้าเพ็ก โดยมีต้นไม้ ก้อนหินใหญ่น้อย และผืนป่าเต็งรังที่มีต้นไม้น้อยใหญ่ หลายต้นมีรูปทรงหงิกงอ ขึ้นแทรกแซมเป็นระยะดูสวยงามน่าประทับใจไม่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเช้าตรู่(ของวันอากาศเป็นใจ) ยามเมื่อมีสายหมอกขาวลอยอ้อยอิ่งเข้ามาปกคลุมแบบพองาม ไม่มากไม่น้อยเกินไป ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงามจะพากันชูช่อไสว กลีบดอกมีน้ำค้างเกาะพราว ท่ามกลางสายหมอกขาวที่ลอยห่มคลุม ดูงดงามประหนึ่งภาพฝัน อันทำให้เกิดเป็นสโลแกน “หยิบหมอก หยอกดอกกระเจียว” ซึ่งสะท้อนถึงความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงามแห่งนี้
ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงาม เป็นจุดชมทุ่งดอกกระเจียวที่สะดวกสบายมีรถรางที่ทางอุทยานฯร่วมกับชุมชนวิ่งจากหน้าที่ทำการฯรับ-ส่ง กันถึงที่ ตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทุ่งดอกกระเจียว ผาสุดแผ่นดิน และลานหินงาม เป็นต้น
ขณะที่ในพื้นที่เที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวก็มีมีเส้นทางเดินยกระดับเตี้ยๆจากพื้นดินทอดยาวไปตลอดเส้นทางรวมระยะทางประมาณ 1 กม. เพื่อกำหนดทิศทางการเดินชมและป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวลงไปสัมผัสกับดอกกระเจียว
แต่กระนั้นก็ยังไม่วายมีนักท่องเที่ยวไร้จิตสำนึกบางคนพยายามที่เดินออกนอกลู่นอกทางลงไปเหยียบย่ำในทุ่งดอกกระเจียวอยู่บ่อยครั้ง บางคนแม้เจ้าหน้าที่อุทยานฯจะเป่านกหวีดเตือนแล้วก็ยังไม่เชื่อฟัง แถมยังหันมาโวยวายจนท.อีกต่างหาก
อย่างนี้มันน่าโดนจับ ปรับ เสียให้เข็ด
ผาสุดแผ่นดิน
นอกจากทุ่งดอกกระเจียวอันสวยงามแล้ว อช.ป่าหินงามยังมี “จุดชมวิวสุดแผ่นดิน” หรือ “ผาสุดแผ่นดิน” บนระดับความสูง 846 เมตร จากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ใกล้ๆกับทุ่งดอกกระเจียว(ช่วงบน)
จุดชมวิวสุดแผ่นดินเป็นจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย เกิดจากการยกตัวของเปลือกโลก ทำให้เกิด รอยต่อระหว่างภาคอีสานกับภาคกลาง
ผาสุดแผ่นดิน เป็นชะง่อนผาชันยื่น(นิดๆ)ออกไปในแนวเหว เมื่อมองลงไปจะเห็นวิวทิวทัศน์ของผืนป่าซับลังกาในเบื้องล่างได้อย่างสวยงามกว้างไกล รวมถึงที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกชั้นดีที่ใครไปเยือนป่าหินงามไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ลานหินงาม
ที่อุทยานฯป่าหินงามยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือ “ลานหินงาม” อันเป็นที่มาของชื่อ“ป่าหินงาม”
ลานหินงาม เป็นพื้นที่ลานหินที่เต็มไปด้วยประติมากรรมหินธรรมชาติมากมาย ทั้งหินรูปร่างประหลาด แปลกตา และสวยงาม ให้เราๆท่านๆได้จินตนาการตามกัน ขณะที่หินหลายก้อนทางอุทยานฯได้ตั้งชื่อตามรูปร่างลักษณะ(ผสมจินตนาการ)เอาไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น หินปราสาท หินแม่ไก่ยักษ์ หินถ้ำมอง และ“หิน(ฐาน)เรดาห์” ที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของป่าหินงาม
นอกจากนี้ก็ยังมีหิน“มอหำตั้ง” ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานแต่ว่าด้วยชื่อที่โดน ทำให้มอหำตั้งที่มีรูปร่างสมดังชื่อมาแรงไม่เบา ถือเป็นอีกหนึ่งจุดในป่าหินงามที่คนนิยมไปถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก
หินถ้วยฟีฟ่ายักษ์
ขณะที่อีกหนึ่งก้อนหินรูปทรงประหลาดแห่งป่าหินงาม ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและกำลังอินเทรนด์กับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ในขณะนี้(หรือฟุตบอลโลกทุกๆครั้ง) ก็คือ “หินถ้วยฟีฟ่า(ยักษ์)” หรือ “หินฟีฟ่าเวิลด์คัพ” หรือ “หินถ้วยบอลโลก” ตามแต่ใครจะเรียก
หินถ้วยฟีฟ่าเมื่อมองในมุมที่ใช่ จะมีรูปร่างเหมือนถ้วยฟีฟ่าหินขนาดยักษ์ นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของป่าหินงาม ที่พอ 4 ปีเวียนบรรจบ ถึงเทศกาลแข่งขันฟุตบอลโลกทีไร หินก้อนนี้ก็จะกลับมาฮอตฮิตเรียกเสียงฮือฮาได้อยู่เสมอ
นับเป็นหินถ้วยฟีฟ่ายักษ์ที่ โรนัลโด้ เมสซี่ เนย์มาร์ ซาลาห์ ลูกากู หรือนักเตะดาวดังซุปเปอร์สตาร์ทั้งหลายยากที่จะมีโอกาสได้สัมผัส
แต่คนไทยเรานั้นโชคดีที่บ้านเรามีหินถ้วยฟีฟ่ายักษ์ให้สัมผัสกันได้ตลอด
ชีวิตนี้แม้จะไม่มีโอกาสได้เห็นทีมไทยไปบอลโลก แต่เมื่อผมมีโอกาสได้ไปสัมผัสหินถ้วยบอลโลกยักษ์ที่ป่าหินงาม มันก็ทำให้ผมจินตนาการไปไกลว่า สักวันหนึ่งทีมชาติไทยอาจจะได้ไปบอลโลกก็เป็นได้
ส่วนตอนนี้ขอดูทีมชั้นนำชาติอื่นๆเขาโม่แข้งในฟุตบอลโลกที่ดินแดนหมีขาวไปพลางๆก่อน
...............................................................................................
ในปีนี้(2561) เนื่องจากมีฝนตกชุก และมีฝนตกลงมาเร็วกว่าทุกปี ส่งผลให้ดอกกระเจียวที่จังหวัดชัยภูมิเริ่มทยอยออกดอกบานเร็วกว่าทุกๆปี ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ได้ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้(19 มิ.ย.61) ดอกกระเจียวที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงามเริ่มบานแล้วประมาณ 50% และคาดว่าจะออกดอกบานเต็มที่ในช่วงต้นเดือนต้นเดือนกรกฎาคม และจะบานไปจนถึงช่วงราวกลางเดือนกรกฎาคม ก่อนจะค่อยๆร่วงโรยไป อันเป็นการสิ้นสุดฤดูชมทุ่งดอกกระเจียวแห่งป่าหินงาม
ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวทุ่งดอกกระเจียว ที่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม โทร.0-4489-0105
นอกจากอุทยานแห่งชาติป่าหินงามแล้ว จ.ชัยภูมิ ยังมีแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวอันสวยงามขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่ง คือ “อุทยานแห่งชาติไทรทอง” อ.หนองบัวระเหว ที่มีดอกกระเจียวให้ชมกัน 4 ทุ่งใหญ่ ให้เดินเที่ยวชมท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม โดยกระเจียวที่นี่จะมีดอกสีชมพูอมม่วงที่เข้มสดกว่าที่ป่าหินงาม อีกทั้งยังมีดอกกระเจียวสีขาวให้ชมกันด้วย
นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติไทรทองยังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ตามหน้าผาต่างๆ อาทิ ผาพ่อเมือง ผาเพลินใจ ผาสวนสวรรค์ และ“ผาหำหด” ที่มีชื่อสะดุดหู กับหน้าผาสูงสุดเสียวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปนั่ง-ยืนวัดใจที่หน้าผาแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติไทรทอง โทร. โทร.08-9282-3437
และสามารถสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวทุ่งดอกกระเจียว เชื่อมโยงกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ใน จ.ชัยภูมิ รวมไปถึงที่พัก ร้านอาหาร การเดินทาง ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา(รับผิดชอบพื้นที่ นครราชสีมา ชัยภูมิ) โทร.0-4421-3030
หมายเหตุ : ภาพประกอบ จากแฟ้มภาพ
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
เมื่อวสันตฤดูมาเยือน
ฟ้าชุ่มฉ่ำ ดินชุ่มน้ำ
มวลหมู่มหา“กระเจียว” ที่หลับใหลอยู่ใต้พื้นดินในบ้านเราต่างพากันแตกหน่อ แทงยอด แล้วค่อยๆทยอยกันผลิดอกแย้มบานขึ้นมาเริงร่าอวดโฉมความงาม
กระเจียว ราชินีแห่งป่าฝน
กระเจียว เป็นพืชล้มลุกสกุลเดียวกับขมิ้น อยู่ในวงขิง,ข่า,ขมิ้น กระเจียวขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ ในฤดูหนาวและฤดูร้อนพวกมันจะจำศีลหลับใหลพักตัว แต่พอถึงวสันตฤดูเมื่อฝนโปรยสายลงมาพวกมันก็จะพากันออกดอกเริงร่าเบ่งบาน
พืชตระกูลกระเจียว มีรายงานว่าทั่วโลกพบไม่ต่ำกว่า 65 ชนิด(Species ) ทั้งในทวีปออสเตรเลีย อัฟฟริกา เอเชีย ส่วนในเมืองไทยมีข้อมูลระบุว่า พบพืชสกุลกระเจียวประมาณ 30 ชนิด มีกระจายอยู่ตามภาคต่างๆทั่วประเทศไทย โดยแต่ละพื้นที่ต่างก็เรียกชื่อต่างกันออกไปตามสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น บัวสวรรค์ ปทุมมา กระเจียวบัว หรือ ทิวลิปสยาม เป็นต้น
กระเจียวมีดอกเป็นกลีบซ้อนกันหลายชั้น ดอกกระเจียวมีหลายสีสัน ทั้ง ขาว เขียว แดง ส้ม ชมพูอ่อน และที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีก็คือดอกกระเจียวที่ชัยภูมิกับสีชมพูสดอมม่วง ดอกอ่อนของกระเจียวบางชนิดสามารถกินได้
ดอกกระเจียวได้ชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งป่าฝน” เพราะเป็นหนึ่งในดอกไม้ที่มากับฝนอย่างแท้จริง
สำหรับแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวที่จัดเป็นความมหัศจรรย์ของผืนป่าในหน้าฝนซึ่งโด่งดังมากในบ้านเราก็คือ ที่ จ.ชัยภูมิ ที่มีจุดชมดอกกระเจียวสำคัญอยู่ 2 แห่งด้วยกัน คือ “อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” อ.เทพสถิต และ “อุทยานแห่งชาติไทรทอง” อ.หนองบัวระเหว
ดอกกระเจียวทั้ง 2 อุทยานฯจะมีสีชมพูอมม่วง แต่ที่ไทรทองสีจะสดกว่าและออกดอกช้ากว่าที่ป่าหินงามราวๆสองสัปดาห์ ทุกๆปีทุ่งดอกกระเจียวจะบานตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงสิงหาคม บวก-ลบ 2 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับสภาพฝนฟ้าอากาศ
ทุ่งดอกกระเจียว
ทุ่งดอกกระเจียว“อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เป็นจุดชมทุ่งดอกกระเจียวยอดนิยมอันดับหนึ่งของเมืองไทย ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน 22 เส้นทางชมดอกไม้แสนงามทั่วไทยจากโครงการ “Dream Destinations 2 กาลครั้งนั้น ความฝันผลิบาน” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)
ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงามมีเนื้อที่กว้างขวางกว่า 100 ไร่ ถือเป็นทุ่งดอกกระเจียวผืนใหญ่ผืนเดียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
สำหรับการเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียว อช.ป่าหินงาม หากต้องการหลีกหนีความพลุกพล่านจากมวลมหานักท่องเที่ยวที่นิยมมารุมเที่ยวกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ ขอแนะนำให้มาในวันธรรมดา ที่จะมีนักท่องเที่ยวน้อยกว่า พอให้ได้เดินเหินคล่องสบาย และสามารถเดินชิลล์หามุมสวยๆถ่ายรูปทุ่งดอกกระเจียวกันได้ไม่มากก็น้อย
ดอกกระเจียวที่ป่าหินงามมีสีชมพูอมม่วงอ่อน ยามที่มันออกดอกเบ่งบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่ง สีชมพูอมม่วงของมันจะตัดกับสีเขียวสดของทุ่งหญ้าเพ็ก โดยมีต้นไม้ ก้อนหินใหญ่น้อย และผืนป่าเต็งรังที่มีต้นไม้น้อยใหญ่ หลายต้นมีรูปทรงหงิกงอ ขึ้นแทรกแซมเป็นระยะดูสวยงามน่าประทับใจไม่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเช้าตรู่(ของวันอากาศเป็นใจ) ยามเมื่อมีสายหมอกขาวลอยอ้อยอิ่งเข้ามาปกคลุมแบบพองาม ไม่มากไม่น้อยเกินไป ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงามจะพากันชูช่อไสว กลีบดอกมีน้ำค้างเกาะพราว ท่ามกลางสายหมอกขาวที่ลอยห่มคลุม ดูงดงามประหนึ่งภาพฝัน อันทำให้เกิดเป็นสโลแกน “หยิบหมอก หยอกดอกกระเจียว” ซึ่งสะท้อนถึงความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงามแห่งนี้
ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงาม เป็นจุดชมทุ่งดอกกระเจียวที่สะดวกสบายมีรถรางที่ทางอุทยานฯร่วมกับชุมชนวิ่งจากหน้าที่ทำการฯรับ-ส่ง กันถึงที่ ตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทุ่งดอกกระเจียว ผาสุดแผ่นดิน และลานหินงาม เป็นต้น
ขณะที่ในพื้นที่เที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวก็มีมีเส้นทางเดินยกระดับเตี้ยๆจากพื้นดินทอดยาวไปตลอดเส้นทางรวมระยะทางประมาณ 1 กม. เพื่อกำหนดทิศทางการเดินชมและป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวลงไปสัมผัสกับดอกกระเจียว
แต่กระนั้นก็ยังไม่วายมีนักท่องเที่ยวไร้จิตสำนึกบางคนพยายามที่เดินออกนอกลู่นอกทางลงไปเหยียบย่ำในทุ่งดอกกระเจียวอยู่บ่อยครั้ง บางคนแม้เจ้าหน้าที่อุทยานฯจะเป่านกหวีดเตือนแล้วก็ยังไม่เชื่อฟัง แถมยังหันมาโวยวายจนท.อีกต่างหาก
อย่างนี้มันน่าโดนจับ ปรับ เสียให้เข็ด
ผาสุดแผ่นดิน
นอกจากทุ่งดอกกระเจียวอันสวยงามแล้ว อช.ป่าหินงามยังมี “จุดชมวิวสุดแผ่นดิน” หรือ “ผาสุดแผ่นดิน” บนระดับความสูง 846 เมตร จากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ใกล้ๆกับทุ่งดอกกระเจียว(ช่วงบน)
จุดชมวิวสุดแผ่นดินเป็นจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย เกิดจากการยกตัวของเปลือกโลก ทำให้เกิด รอยต่อระหว่างภาคอีสานกับภาคกลาง
ผาสุดแผ่นดิน เป็นชะง่อนผาชันยื่น(นิดๆ)ออกไปในแนวเหว เมื่อมองลงไปจะเห็นวิวทิวทัศน์ของผืนป่าซับลังกาในเบื้องล่างได้อย่างสวยงามกว้างไกล รวมถึงที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกชั้นดีที่ใครไปเยือนป่าหินงามไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ลานหินงาม
ที่อุทยานฯป่าหินงามยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือ “ลานหินงาม” อันเป็นที่มาของชื่อ“ป่าหินงาม”
ลานหินงาม เป็นพื้นที่ลานหินที่เต็มไปด้วยประติมากรรมหินธรรมชาติมากมาย ทั้งหินรูปร่างประหลาด แปลกตา และสวยงาม ให้เราๆท่านๆได้จินตนาการตามกัน ขณะที่หินหลายก้อนทางอุทยานฯได้ตั้งชื่อตามรูปร่างลักษณะ(ผสมจินตนาการ)เอาไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น หินปราสาท หินแม่ไก่ยักษ์ หินถ้ำมอง และ“หิน(ฐาน)เรดาห์” ที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของป่าหินงาม
นอกจากนี้ก็ยังมีหิน“มอหำตั้ง” ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานแต่ว่าด้วยชื่อที่โดน ทำให้มอหำตั้งที่มีรูปร่างสมดังชื่อมาแรงไม่เบา ถือเป็นอีกหนึ่งจุดในป่าหินงามที่คนนิยมไปถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก
หินถ้วยฟีฟ่ายักษ์
ขณะที่อีกหนึ่งก้อนหินรูปทรงประหลาดแห่งป่าหินงาม ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและกำลังอินเทรนด์กับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ในขณะนี้(หรือฟุตบอลโลกทุกๆครั้ง) ก็คือ “หินถ้วยฟีฟ่า(ยักษ์)” หรือ “หินฟีฟ่าเวิลด์คัพ” หรือ “หินถ้วยบอลโลก” ตามแต่ใครจะเรียก
หินถ้วยฟีฟ่าเมื่อมองในมุมที่ใช่ จะมีรูปร่างเหมือนถ้วยฟีฟ่าหินขนาดยักษ์ นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของป่าหินงาม ที่พอ 4 ปีเวียนบรรจบ ถึงเทศกาลแข่งขันฟุตบอลโลกทีไร หินก้อนนี้ก็จะกลับมาฮอตฮิตเรียกเสียงฮือฮาได้อยู่เสมอ
นับเป็นหินถ้วยฟีฟ่ายักษ์ที่ โรนัลโด้ เมสซี่ เนย์มาร์ ซาลาห์ ลูกากู หรือนักเตะดาวดังซุปเปอร์สตาร์ทั้งหลายยากที่จะมีโอกาสได้สัมผัส
แต่คนไทยเรานั้นโชคดีที่บ้านเรามีหินถ้วยฟีฟ่ายักษ์ให้สัมผัสกันได้ตลอด
ชีวิตนี้แม้จะไม่มีโอกาสได้เห็นทีมไทยไปบอลโลก แต่เมื่อผมมีโอกาสได้ไปสัมผัสหินถ้วยบอลโลกยักษ์ที่ป่าหินงาม มันก็ทำให้ผมจินตนาการไปไกลว่า สักวันหนึ่งทีมชาติไทยอาจจะได้ไปบอลโลกก็เป็นได้
ส่วนตอนนี้ขอดูทีมชั้นนำชาติอื่นๆเขาโม่แข้งในฟุตบอลโลกที่ดินแดนหมีขาวไปพลางๆก่อน
...............................................................................................
ในปีนี้(2561) เนื่องจากมีฝนตกชุก และมีฝนตกลงมาเร็วกว่าทุกปี ส่งผลให้ดอกกระเจียวที่จังหวัดชัยภูมิเริ่มทยอยออกดอกบานเร็วกว่าทุกๆปี ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ได้ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้(19 มิ.ย.61) ดอกกระเจียวที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงามเริ่มบานแล้วประมาณ 50% และคาดว่าจะออกดอกบานเต็มที่ในช่วงต้นเดือนต้นเดือนกรกฎาคม และจะบานไปจนถึงช่วงราวกลางเดือนกรกฎาคม ก่อนจะค่อยๆร่วงโรยไป อันเป็นการสิ้นสุดฤดูชมทุ่งดอกกระเจียวแห่งป่าหินงาม
ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวทุ่งดอกกระเจียว ที่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม โทร.0-4489-0105
นอกจากอุทยานแห่งชาติป่าหินงามแล้ว จ.ชัยภูมิ ยังมีแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวอันสวยงามขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่ง คือ “อุทยานแห่งชาติไทรทอง” อ.หนองบัวระเหว ที่มีดอกกระเจียวให้ชมกัน 4 ทุ่งใหญ่ ให้เดินเที่ยวชมท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม โดยกระเจียวที่นี่จะมีดอกสีชมพูอมม่วงที่เข้มสดกว่าที่ป่าหินงาม อีกทั้งยังมีดอกกระเจียวสีขาวให้ชมกันด้วย
นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติไทรทองยังมีจุดชมวิวทิวทัศน์ตามหน้าผาต่างๆ อาทิ ผาพ่อเมือง ผาเพลินใจ ผาสวนสวรรค์ และ“ผาหำหด” ที่มีชื่อสะดุดหู กับหน้าผาสูงสุดเสียวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปนั่ง-ยืนวัดใจที่หน้าผาแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติไทรทอง โทร. โทร.08-9282-3437
และสามารถสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวทุ่งดอกกระเจียว เชื่อมโยงกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ใน จ.ชัยภูมิ รวมไปถึงที่พัก ร้านอาหาร การเดินทาง ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา(รับผิดชอบพื้นที่ นครราชสีมา ชัยภูมิ) โทร.0-4421-3030
หมายเหตุ : ภาพประกอบ จากแฟ้มภาพ
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager