xs
xsm
sm
md
lg

แลนด์มาร์กแห่งใหม่อีสานใต้! เร่งผุดสกายวอล์ก “ผาพญากูปรี” 30 ล้าน จุดชมวิวชายแดนไทย-กัมพูชา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศรีสะเกษ- มูลนิธิหลวงปู่สรวง ร่วมหน่วยที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าเร่งผุด “สกายวอล์ก” แห่งแรกอีสานใต้ บริเวณหน้าผาพญากูปรี ให้นักท่องเที่ยวเดินชมวิวทิวทัศน์ชายแดนไทย - กัมพูชา อันสวยงาม ดันเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่อีสานใต้ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของศรีสะเกษ เผย เป็นแบบครึ่งวงกลมยื่นห่างจากหน้าผา 30 เมตร กว้าง 6 เมตร ใช้งบ 30 ล้าน




วันนี้ (4 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณจุดชมวิวหน้าผาพญากูปรี ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือ หลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง และเจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ ฝ่ายธรรมยุต พร้อมด้วย พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รอง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจที่ 3 นายสุปัญญ์ เทียนดำ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 สาขาอุบลราชธานี นายพิศฐ์ศักดิ์ รัตนวรรณี โยธาธิการและผังเมืองและผังเมือง จ.ศรีสะเกษ นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ นายสุรชัย สินประกอบ พลังงาน จ.ศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จ.ศรีสะเกษและคณะ ได้เดินทางไปตรวจสภาพพื้นที่บริเวณหน้าผาพญากูปรี เพื่อเตรียมทำการก่อสร้างสกายวอล์ก ที่จะสร้างยื่นห่างออกจากบริเวณหน้าผาออกไปยาวประมาณ 30 เมตร กว้าง 6 เมตร

ทั้งนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านยอดไม้เข้าไปชมวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาพนมดงรัก และอ่างเก็บน้ำห้วยสำราญ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของลำห้วยสำราญที่สวยงามได้อย่างสะดวก พร้อมทั้งสามารถมองเห็นวิวใต้หน้าผาพญากูปรีได้อีกด้วย โดยคณะที่มาสำรวจได้ทำการร่างแบบสกายวอล์กที่จะดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งได้มอบให้โยธาธิการและผังเมือง จ.ศรีสะเกษ ดำเนินการออกแบบสกายวอล์ค เพื่อเร่งทำการก่อสร้างในเร็วๆ นี้


พระครูโกศลสิกขกิจ หรือ หลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง และเจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ ฝ่ายธรรมยุต กล่าวว่า มูลนิธิหลวงปู่สรวงได้ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กองทัพน้อยที่ 2 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 สาขาอุบลราชธานี และทุกส่วนราชการของ จ.ศรีสะเกษ จะได้ทำการก่อสร้างสกายวอล์กขึ้นที่บริเวณหน้าผาพญากูปรี

ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ ที่อยู่ติดกับแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ด้าน อ.ภูสิงห์ โดยจะทำการก่อสร้างอย่างยิ่งใหญ่และสวยงาม เพื่อให้เป็นหน้าเป็นตาของ จ.ศรีสะเกษ ได้รองรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศที่จะเข้ามากราบไหว้ขอพรจากหลวงปู่สรวงที่วัดไพรพัฒนา จากนั้นจะได้มาเที่ยวชมบริเวณผาพญากูปรีและเดินเข้าไปเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ที่บริเวณสกายวอล์ก

โดยสกายวอล์กที่จะจัดสร้างขึ้นมานี้จะเป็นแห่งแรกของอีสานใต้ เป็นการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ จะช่วยให้เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของ จ.ศรีสะเกษ ดีขึ้น ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิหลวงปู่สรวง ที่ต้องการส่งเสริมชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

นายสุปัญญ์ เทียนดำ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 สาขาอุบลราชธานี กล่าวว่า การดำเนินการจัดสร้างสกายวอล์กที่บริเวณหน้าผาพญากูปรีนี้ เป็นการดำเนินการตามนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ต้องการให้มีป่าในเมือง เพื่อให้ประชาชนทุกจังหวัดใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยป่าบริเวณนี้เป็นป่าถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา

ขั้นตอนในดำเนินการขออนุญาตนั้น สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 สาขาอุบลราชธานี จะเป็นเจ้าของเรื่องดำเนินการเสนอเรื่องไปยังกรมป่าไม้ เพื่อเสนอให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณาอนุญาตให้ใช้สถานที่บริเวณนี้ทำการก่อสร้างได้ต่อไป ขอฝากถึงประชาชนชาวศรีสะเกษ ว่า ให้ช่วยกันรักษาป่าและในช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝนขอให้ช่วยกันปลูกป่าเพื่อจะได้ทำให้ผืนแผ่นดินไทยมีความชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

นายพิศฐ์ศักดิ์ รัตนวรรณี โยธาธิการและผังเมือง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนและคณะจะทำการออกแบบก่อสร้างสกายวอล์ก โดยจะออกแบบให้มีความแข็งแรงทนทานและสวยงาม เป็นแบบครึ่งวงกลมยื่นห่างจากหน้าผาออกไปประมาณ 30 เมตร กว้างประมาณ 6 เมตร สามารถให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมได้ครั้งละประมาณ 200 คน คาดว่า จะใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 30 ล้านบาท

ทางด้าน ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า สกายวอล์ก (Sky Walk) บริเวณผาพญากูปรี จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของอีสานใต้ ที่หลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เตรียมการพัฒนาพื้นที่ร่วมกับ พล.ท.ธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ท.สนธยา ศรีเจริญ แม่ทัพน้อยภาคที่ 2 และทหารของกองกำลังสุรนารี เพื่อสร้างความสุขให้ประชาชนทั้งประเทศไทยและประเทศกัมพูชาที่ใช้เส้นทางนี้ในการเดินทาง จะเป็นจุดชมวิวที่ทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพแบบพาโนรามาของทิวทัศน์ เห็นต้นน้ำห้วยสำราญ และหน้าผาที่สวยงามบนเทือกเขาพนมดงรัก โดยเฉพาะช่วงตะวันตกดิน และช่วงมีหมอกยามเช้าสวยมาก

ที่สำคัญคือ บริเวณจุดชมวิวผาพญากูปรีที่ได้เปิดเป็นจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวชมได้ไม่นานนัก มีผู้เชี่ยวชาญการดูฮวงจุ้ย บอกว่า ได้เดินทางมาชมบริเวณนี้แล้ว สัมผัสได้ว่า มีจุดมหัศจรรย์คล้ายดินแดนพิศวง ถ้าสามารถเดินจากหน้าผาไปถึงจุดนั้น จะได้รับพลังของแสงอาทิตย์ที่สาดมาจากสองแผ่นดิน ซึ่งตรงกับจุดกึ่งกลางวงเสี้ยวพระจันทร์สกายวอล์ก (Sky Walk) ที่หลวงพ่อพุฒเตรียมจะสร้าง จึงรอคอยให้การก่อสร้างนี้สำเร็จในเร็ววัน เพื่อจะได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่สำคัญ ให้นักท่องเที่ยวได้ไปสูดบรรยากาศและดื่มด่ำรับพลังจากธรรมชาติเสริมพลังชีวิตต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น