Facebook :Travel @ Manager

เมืองจีนแผ่นดินใหญ่ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมีความหลากหลาย ทั้งทางศิลปวัฒนธรรม หรือธรรมชาติอันงดงาม อย่างที่เมือง “ไท่โจว” มณฑลเจียงซู มีเขตอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและป่าชายเลนทะเลสาบฉิน มีสภาพแวดล้อมที่สะอาด ทำให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความน่าสนใจและนักท่องเที่ยวจะต้องไม่พลาด

“ทะเลสาบฉินหู” เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำฝั่งตะวันออกของมณฑลเจียงซู มีเนื้อที่ 1,600 ไร่ มีความลึกสูงสุดประมาณ 5 เมตร เป็นแหล่งรวมน้ำขนาดใหญ่ที่ไหลมาจากแม่น้ำฉางเจียง เนื่องจากเวลาที่เกิดเหตุอุทกภัยขึ้น ทะเลสาบแห่งนี้จะเป็นที่กักเก็บน้ำเอาไว้ และเมื่อถึงหน้าแล้งก็จะปล่อยน้ำออกไปให้ชาวบ้านได้ใช้เพาะปลูกพืชผลตามฤดูกาล เพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ต่ำ (เท่ากับระดับน้ำทะเล 0) ทำให้มีพื้นที่ทำการเพาะปลูกน้อยไม่เพียงพอ จึงได้มีการขุดดินขึ้นมาทำเป็นเกาะ เพื่อให้ชาวบ้านได้มีพื้นที่ทำการเพาะปลูกการเกษตร

นักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมจะได้นั่งเรือเข้าไปภายใน ระหว่างนั่งเรือจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพของสายน้ำและวิวทิวทัศน์โดยรอบ เมื่อมองออกไปจะเห็นรูปปั้นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ไกด์ประจำเรืออธิบายว่า เป็นองค์พระที่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพตามความเชื่อของคนท้องถิ่นตั้งอยู่ภายในเจดีย์สูง ถ้าใครไปเที่ยวที่นี่ก็จะสะดุดตากับความยิ่งใหญ่ของเจดีย์แห่งนี้เพราะตั้งอยู่ตรงใจกลางทะเลสาบฉินหู

ในช่วงเทศกาลเชงเม้งของชาวจีน จะมีการแข่งขันพายเรือในบริเวณทะเลสาบแห่งนี้ โดยมีเรือหลากหลายชนิดมาแข่งกัน สำหรับปีนี้เพิ่งจัดไปไม่นานมีเรือมาแสดงและร่วมแข่งกว่า 100 ลำ และการแข่งเรือนี้ถือเป็นเทศกาลที่สำคัญ ทำให้บรรยากาศแห่งสายน้ำนี้เต็มไปด้วยเรือและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานกันอย่างคึกคัก

หลังจานั่งเรือเข้าไปด้านในแล้ว จะมีพิพิธภัณฑ์ขนาดกลางชั้นเดียว ภายในบอกเล่าเรือราวความเป็นมาของทะเลสาบฉินหูมาให้เข้าใจกันอย่างง่ายๆ รวมถึงมีการสตาร์ฟสัตว์และแมลงหลากชนิด ที่ค้นพบว่ามีการอาศัยอยู่ภายในพื้นที่นี้มาให้นักท่องเที่ยวได้รู้จัก จากนั้นเดินผ่านสะพานไม้เพื่อข้ามไปชมสัตว์แปลกที่หาชมได้เฉพาะเมืองจีนเท่านั้น สัตว์แปลกที่ว่านี้คนท้องถิ่นเรือกกันว่า “มี่ลู่”

“มี่ลู่” เป็นสัตว์สงวนของจีน โดยถือว่าเป็นสัตว์แปลกชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีลักษณะหน้าเหมือนวัว ขาเหมือนม้า เขาเหมือนกวาง กีบเหมือนควาย ในอดีตนั้นได้มีการเลี้ยงดูอยู่ภายในบริเวณพระราชวัง จากนั้นในช่วงปีค.ศ. 1900 เกิดสงครามขึ้นมี 8 ประเทศที่เข้ามารุกรานจีน และมีชาวฝรั่งเศสมาขอซื้อไปสองตัวเพื่อนำไปเลี้ยงอยู่ที่นั่น ด้วยความที่เป็นสัตว์แปลกและหาดูได้ยาก จึงทำให้ชาวฝรั่งเศสเกิดความตื่นเต้น และหลังจากสงครามทำให้มี่ลู่ถูกนำไปเลี้ยงที่อังกฤษ จนกระทั่งในปีค.ศ.1986 ได้ส่งคืนมี่ลู่กลับมาให้จีนจำนวน 22 ตัว โดยเลี้ยงไว้ที่เมืองปักกิ่ง และหลังจากนั้นก็ส่งกลับมาอีกครั้งจำนวน 39 ตัวมาไว้ที่เมืองไท่โจว

หลังจากชมสัตว์แปลกที่ทะเลสาบฉินหูแล้ว ก็ออกเดินทางไปยังท่าเรือแกะสลัก (กว่ออันเตียวฮัวโหลว) เป็นท่าเรือที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยเฉียนหลงฮ่องเต้ (ปีค.ศ. 1739) ซึ่งในอดีตเคยเป็นท่าเรือมาก่อน ตัวอาคารบ้านเรือนไม้ส่วนใหญ่ถูกแกะสลักได้อย่างงดงาม ปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติการเรียนรู้วัฒนธรรมอีกแห่งหนึ่ง


ที่บริเวณท่าเรือแกะสลักจะมีพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม อย่างพิพิธภัณฑ์บ้านหวงหยางซื่อด้านในมีห้องรับแขก ภาพเขียนสมัยราชวงศ์ชง เก้าอี้ทำจากหินอ่อน แต่ละภาพจะไม่เหมือนกัน ประตูทางเหนือจะมีการแกะสลักรูปค้างคาวคาบเงินคาบทอง ข้างๆมีกิเลน ถือว่าเป็นประตูมงคล มีความหมายว่า มีความสุข เงินทองไหลมาเทมา ตรงกลางบ้านเรียกว่าเทียนจิ่ง มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมเหมือนบ่อน้ำกลางบ้าน แต่ไม่ใช่บ่อน้ำ รองรับน้ำจากฟ้า โดยคนจีนมีความเชื่อว่าเวลาน้ำตกจากฟ้าสู่พื้น เหมือนเงินทองตกลงมา


และมีพิพิธภัณฑ์บ้านโบราณของจอหงวนท่านหนึ่ง มีอายุหลายร้อยปี สภาพบ้านเรือนที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ภายในมีการจำลองการเรียนรู้เรื่องการต่อสู้ ยิงธนู รวมถึงอุปกรณ์การต่อสู้ที่ตั้งไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน

จากนั้นเดินทางเข้าสู่เมืองนานกิงเพื่อชมสถานที่สำคัณทางประวัติศาสตร์ อย่าง “สุสานดร.ซุนยัดเซ็น” มหาบุรุษผู้นำพาชาวจีนก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่มีมาอย่างยาวนานนับพันปีสู่ความเสมอภาค จนถูกให้เป็นบิดาแห่งจีนยุคใหม่ สุสานดร.ซุนยัดเซ็น ถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีนทุกคนครอบคลุมอาณาเขตราว 80,000 ตารางเมตร


“สุสานดร.ซุนยัดเซ็น” เป็นสถานที่ฝังศพของประธานาธิบดีซุนยัดเซ็น โดยศพของประธานาธิบดีซุนยัดเซ็น ถูกย้ายจากปักกิ่งมาตั้งไว้ ณ สุสานแห่งนี้เมื่อปี ค.ศ.1929 ส่วนสาเหตุที่สร้างสุสานมาไว้ที่บริเวณนี้เนื่องจากดร.ซุนยัดเซ็น เคยเดินทางมาที่นี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีทัศนียภาพที่งดงาม และชัยภูมิที่ดี จึงกล่าวเล่นๆ กับผู้ติดตามว่า ที่นี่เหมาะกับการสร้างสุสานของตนเอง


ปัจจุบันสุสานดร.ซุนยัดเซ็น ถูกออกแบบและสร้างให้เป็นทางเดินหินลาดขึ้นไปตามเนินเขา ส่วนที่เก็บศพเป็นหลุมลึกลงไป ใส่หีบหินอ่อนทำรูป ดร.ซุนยัดเซ็นนอนอยู่ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่สามารถขึ้นมาชมและเคารพกันได้ ด้วยที่สุสานตั้งอยู่บนพื้นที่สูง จะต้องเดินขึ้นบันไดนับพันขั้น ถึงจะขึ้นไปยังด้านบนเพื่อคารวะมหาบุรุษผู้นำชาวจีน หลังจากทำความเคารพเสร็จแล้วก็สามารถเดินชมบรรยากาศมุมสูงได้โดยรอบ

เมื่อเที่ยวนานกิงแล้วนักท่องเที่ยวจะต้องไม่พลาดมาชอปปิ้ง จับจ่ายเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก ที่มีทั้งของกิน ของใช้ เสื้อผ้า กันที่ "ตลาดฟูจื่อเมี่ยว" นอกจากเป็นแหล่งชอปปิ้งแล้ว ที่นี่ยังมีบริการล่องเรือ เพื่อชมความงามของแม่น้ำ "ฉิงขวายเห๋อ" แม่น้ำที่พาดผ่านตัวเมืองนานกิง


สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
เมืองจีนแผ่นดินใหญ่ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมีความหลากหลาย ทั้งทางศิลปวัฒนธรรม หรือธรรมชาติอันงดงาม อย่างที่เมือง “ไท่โจว” มณฑลเจียงซู มีเขตอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและป่าชายเลนทะเลสาบฉิน มีสภาพแวดล้อมที่สะอาด ทำให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความน่าสนใจและนักท่องเที่ยวจะต้องไม่พลาด
“ทะเลสาบฉินหู” เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำฝั่งตะวันออกของมณฑลเจียงซู มีเนื้อที่ 1,600 ไร่ มีความลึกสูงสุดประมาณ 5 เมตร เป็นแหล่งรวมน้ำขนาดใหญ่ที่ไหลมาจากแม่น้ำฉางเจียง เนื่องจากเวลาที่เกิดเหตุอุทกภัยขึ้น ทะเลสาบแห่งนี้จะเป็นที่กักเก็บน้ำเอาไว้ และเมื่อถึงหน้าแล้งก็จะปล่อยน้ำออกไปให้ชาวบ้านได้ใช้เพาะปลูกพืชผลตามฤดูกาล เพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ต่ำ (เท่ากับระดับน้ำทะเล 0) ทำให้มีพื้นที่ทำการเพาะปลูกน้อยไม่เพียงพอ จึงได้มีการขุดดินขึ้นมาทำเป็นเกาะ เพื่อให้ชาวบ้านได้มีพื้นที่ทำการเพาะปลูกการเกษตร
นักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมจะได้นั่งเรือเข้าไปภายใน ระหว่างนั่งเรือจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพของสายน้ำและวิวทิวทัศน์โดยรอบ เมื่อมองออกไปจะเห็นรูปปั้นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ไกด์ประจำเรืออธิบายว่า เป็นองค์พระที่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพตามความเชื่อของคนท้องถิ่นตั้งอยู่ภายในเจดีย์สูง ถ้าใครไปเที่ยวที่นี่ก็จะสะดุดตากับความยิ่งใหญ่ของเจดีย์แห่งนี้เพราะตั้งอยู่ตรงใจกลางทะเลสาบฉินหู
ในช่วงเทศกาลเชงเม้งของชาวจีน จะมีการแข่งขันพายเรือในบริเวณทะเลสาบแห่งนี้ โดยมีเรือหลากหลายชนิดมาแข่งกัน สำหรับปีนี้เพิ่งจัดไปไม่นานมีเรือมาแสดงและร่วมแข่งกว่า 100 ลำ และการแข่งเรือนี้ถือเป็นเทศกาลที่สำคัญ ทำให้บรรยากาศแห่งสายน้ำนี้เต็มไปด้วยเรือและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานกันอย่างคึกคัก
หลังจานั่งเรือเข้าไปด้านในแล้ว จะมีพิพิธภัณฑ์ขนาดกลางชั้นเดียว ภายในบอกเล่าเรือราวความเป็นมาของทะเลสาบฉินหูมาให้เข้าใจกันอย่างง่ายๆ รวมถึงมีการสตาร์ฟสัตว์และแมลงหลากชนิด ที่ค้นพบว่ามีการอาศัยอยู่ภายในพื้นที่นี้มาให้นักท่องเที่ยวได้รู้จัก จากนั้นเดินผ่านสะพานไม้เพื่อข้ามไปชมสัตว์แปลกที่หาชมได้เฉพาะเมืองจีนเท่านั้น สัตว์แปลกที่ว่านี้คนท้องถิ่นเรือกกันว่า “มี่ลู่”
“มี่ลู่” เป็นสัตว์สงวนของจีน โดยถือว่าเป็นสัตว์แปลกชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีลักษณะหน้าเหมือนวัว ขาเหมือนม้า เขาเหมือนกวาง กีบเหมือนควาย ในอดีตนั้นได้มีการเลี้ยงดูอยู่ภายในบริเวณพระราชวัง จากนั้นในช่วงปีค.ศ. 1900 เกิดสงครามขึ้นมี 8 ประเทศที่เข้ามารุกรานจีน และมีชาวฝรั่งเศสมาขอซื้อไปสองตัวเพื่อนำไปเลี้ยงอยู่ที่นั่น ด้วยความที่เป็นสัตว์แปลกและหาดูได้ยาก จึงทำให้ชาวฝรั่งเศสเกิดความตื่นเต้น และหลังจากสงครามทำให้มี่ลู่ถูกนำไปเลี้ยงที่อังกฤษ จนกระทั่งในปีค.ศ.1986 ได้ส่งคืนมี่ลู่กลับมาให้จีนจำนวน 22 ตัว โดยเลี้ยงไว้ที่เมืองปักกิ่ง และหลังจากนั้นก็ส่งกลับมาอีกครั้งจำนวน 39 ตัวมาไว้ที่เมืองไท่โจว
หลังจากชมสัตว์แปลกที่ทะเลสาบฉินหูแล้ว ก็ออกเดินทางไปยังท่าเรือแกะสลัก (กว่ออันเตียวฮัวโหลว) เป็นท่าเรือที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยเฉียนหลงฮ่องเต้ (ปีค.ศ. 1739) ซึ่งในอดีตเคยเป็นท่าเรือมาก่อน ตัวอาคารบ้านเรือนไม้ส่วนใหญ่ถูกแกะสลักได้อย่างงดงาม ปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติการเรียนรู้วัฒนธรรมอีกแห่งหนึ่ง
ที่บริเวณท่าเรือแกะสลักจะมีพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม อย่างพิพิธภัณฑ์บ้านหวงหยางซื่อด้านในมีห้องรับแขก ภาพเขียนสมัยราชวงศ์ชง เก้าอี้ทำจากหินอ่อน แต่ละภาพจะไม่เหมือนกัน ประตูทางเหนือจะมีการแกะสลักรูปค้างคาวคาบเงินคาบทอง ข้างๆมีกิเลน ถือว่าเป็นประตูมงคล มีความหมายว่า มีความสุข เงินทองไหลมาเทมา ตรงกลางบ้านเรียกว่าเทียนจิ่ง มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมเหมือนบ่อน้ำกลางบ้าน แต่ไม่ใช่บ่อน้ำ รองรับน้ำจากฟ้า โดยคนจีนมีความเชื่อว่าเวลาน้ำตกจากฟ้าสู่พื้น เหมือนเงินทองตกลงมา
และมีพิพิธภัณฑ์บ้านโบราณของจอหงวนท่านหนึ่ง มีอายุหลายร้อยปี สภาพบ้านเรือนที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ภายในมีการจำลองการเรียนรู้เรื่องการต่อสู้ ยิงธนู รวมถึงอุปกรณ์การต่อสู้ที่ตั้งไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน
จากนั้นเดินทางเข้าสู่เมืองนานกิงเพื่อชมสถานที่สำคัณทางประวัติศาสตร์ อย่าง “สุสานดร.ซุนยัดเซ็น” มหาบุรุษผู้นำพาชาวจีนก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่มีมาอย่างยาวนานนับพันปีสู่ความเสมอภาค จนถูกให้เป็นบิดาแห่งจีนยุคใหม่ สุสานดร.ซุนยัดเซ็น ถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีนทุกคนครอบคลุมอาณาเขตราว 80,000 ตารางเมตร
“สุสานดร.ซุนยัดเซ็น” เป็นสถานที่ฝังศพของประธานาธิบดีซุนยัดเซ็น โดยศพของประธานาธิบดีซุนยัดเซ็น ถูกย้ายจากปักกิ่งมาตั้งไว้ ณ สุสานแห่งนี้เมื่อปี ค.ศ.1929 ส่วนสาเหตุที่สร้างสุสานมาไว้ที่บริเวณนี้เนื่องจากดร.ซุนยัดเซ็น เคยเดินทางมาที่นี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีทัศนียภาพที่งดงาม และชัยภูมิที่ดี จึงกล่าวเล่นๆ กับผู้ติดตามว่า ที่นี่เหมาะกับการสร้างสุสานของตนเอง
ปัจจุบันสุสานดร.ซุนยัดเซ็น ถูกออกแบบและสร้างให้เป็นทางเดินหินลาดขึ้นไปตามเนินเขา ส่วนที่เก็บศพเป็นหลุมลึกลงไป ใส่หีบหินอ่อนทำรูป ดร.ซุนยัดเซ็นนอนอยู่ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่สามารถขึ้นมาชมและเคารพกันได้ ด้วยที่สุสานตั้งอยู่บนพื้นที่สูง จะต้องเดินขึ้นบันไดนับพันขั้น ถึงจะขึ้นไปยังด้านบนเพื่อคารวะมหาบุรุษผู้นำชาวจีน หลังจากทำความเคารพเสร็จแล้วก็สามารถเดินชมบรรยากาศมุมสูงได้โดยรอบ
เมื่อเที่ยวนานกิงแล้วนักท่องเที่ยวจะต้องไม่พลาดมาชอปปิ้ง จับจ่ายเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก ที่มีทั้งของกิน ของใช้ เสื้อผ้า กันที่ "ตลาดฟูจื่อเมี่ยว" นอกจากเป็นแหล่งชอปปิ้งแล้ว ที่นี่ยังมีบริการล่องเรือ เพื่อชมความงามของแม่น้ำ "ฉิงขวายเห๋อ" แม่น้ำที่พาดผ่านตัวเมืองนานกิง
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager