Facebook :Travel @ Manager
“เมืองหอยหลอด ยอดลิ้นจี่ มีอุทยาน ร.2 แม่กลองไหลผ่าน นมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม”
จากคำขวัญของ จ.สมุทรสงคราม ที่ได้กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่ามีชื่อของกินนำมาตั้งแต่ช่วงต้นคำขวัญ ทำให้รู้สึกว่าที่จังหวัดนี้จะต้องมีของกินขึ้นชื่ออีกหลายอย่างแน่นอน ครั้งนี้จึงจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับ “8 ของอร่อยคู่สมุทรสงคราม” ที่เพียงแค่เอ่ยชื่อก็ต้องร้องอ๋อนั่นเอง
1. ปลาทูแม่กลอง
เริ่มแรกก็ต้องเป็น “ปลาทูแม่กลอง” ถือเป็นของดีประจำจังหวัดที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสุดยอดแห่งปลาทูเมืองไทย ที่มีเอกลักษณ์ตรง “หน้างอ คอหัก” เพราะได้มีการหักคอปลาทูให้งอลง เพื่อความสะดวกในการใส่ลงเข่งให้ได้พอดี และเพื่อให้ดูสวยงาม ซึ่งเป็นปลาน้ำตื้น มีตัวอ้วนสั้น แบน เนื้อเยอะ เนื้อนุ่มแต่แน่น หวาน มัน หนังบาง
โดยได้มีการนำปลาทูมาประกอบอาหารหลากหลายเมนู อย่างเช่น ปลาทูต้มมะดัน, ปลาทูทอดกระเทียม, ปลาทูฉู่ฉี่ เป็นต้น แต่ถ้าเมนูปลาทูขึ้นชื่อจริงๆ ต้องเป็น “ปลาทูซาเตี๊ยะ” ลักษณะเป็นปลาทูต้มในน้ำขลุกขลิก รสออกหวานเค็มกลมกล่อม
2. หอยหลอด
“หอยหลอด” คือหอยทะเลสองฝา หน้าตาคล้ายหลอดกาแฟสีน้ำตาลอ่อนอมเหลือง ที่พบอยู่ในพื้นที่ของสมุทรสงครามเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในบริเวณ “ดอนหอยหลอด” ซึ่งเป็นสันดอนบริเวณปากแม่น้ำแม่กลอง
สำหรับเมนูเด็ดของย่านดอนหอยหลอดก็ที่ต้องห้ามพลาดก็คือ “หอยหลอดผัดฉ่า” ที่รับรองว่าร้านอาหารแถบนี้ต้องมีกันทุกร้าน เพราะวัตถุดิบหลักก็คือหอยหลอดนั้นได้มาสดๆ จากที่นี่ นำไปผัดคลุกเคล้ากับสมุนไพรต่างๆ ที่เป็นเครื่องผัดฉ่า ปรุงรสให้จัดจ้าน อร่อยถึงใจ
3. กะปิคลองโคน
กะปิของที่ ต.คลองโคน นั้นขึ้นชื่อมากๆ เพราะมีจุดเด่นอยู่ที่ทำมาจาก "เคย" หรือสัตว์น้ำเค็มจำพวกกุ้งแต่ตัวเล็กจิ๋ว มองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็นตัว ซึ่งเคยของที่นี่มีขนาดเล็กกว่าที่อื่น จะเห็นก็เพียงแต่ตาสีดำๆ เท่านั้น จึงนิยมเรียกกันว่า “เคยตาดำ" เคยนี้สามารถนำมาทำกะปิได้อร่อยมากจนเป็นของฝากขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของที่นี่
4. ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม
“ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม” ลักษณะต้นไม่ค่อยสูงเป็นทรงพุ่ม ปลูกง่ายและให้ผลง่ายกว่าลิ้นจี่พันธุ์อื่นเมื่ออากาศดี ส่วนตัวผลเมื่อจัดได้ที่จะมีไหล่ (บ่า) ผลกว้างแป้น รูปทรงคล้ายรูปหัวใจโย้หน่อย ๆ ไม่สมดุลทีเดียว เปลือกมีหนามตั้งแต่ไม่หนา เนื้อแห้ง กรอบ ไม่แฉะ กลิ่นหอมรสหวาน
สำหรับการเลือกซื้อลิ้นจี่พันธุ์ค่อมของแท้รสชาติอร่อยนั้น มีวิธีดูคือให้ดูที่ลักษณะผลจะต้องสีแดงจัด และด้านในจะเป็นร่องชาด (ในภาษาของชาวสวนคือ ผิวเปลือกด้านในเป็นสีชมพูออกแดง) ส่วนหนามที่เปลือกจะต้องไม่คมมากนัก และหนามจะไม่ถี่มาก หรือดูที่ขั้วของลูกลิ้นจี่ ถ้ามีตุ่ม (ลูกเล็กๆ) เป็นสีเขียวแปลว่ายังมีติดฝาดและอมเปรี้ยวอยู่บ้าง แต่หากตุ่มนั้นเป็นสีแดง แปลว่ารสฝาดหมดไปแล้วนั่นเอง
5. ส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่
ส้มโอพันธุ์นี้ถือเป็นพันธุ์พื้นบ้านของที่นี่ ลักษณะโดดเด่นก็คือเป็นส้มโอที่มีรสชาติหวาน เก็บไว้ได้นาน ไม่โอ่ เพราะเนื้อแห้งกำลังดี \มีขนาดผลใหญ่หนัก ไม่มีเมล็ด กุ้งใหญ่ (กลีบของเนื้อส้มโอ) เปลือกนอกผิวสีเขียวอมเหลือง ส่วนเนื้อในเป็นสีน้ำผึ้ง มีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ใครได้ลองเป็นถูกใจ
6. น้ำตาลมะพร้าว
น้ำตาลมะพร้าวของที่นี่ขึ้นชื่อว่าหอมหวาน เนื่องจากทำจากน้ำตาลมะพร้าวสดแท้ๆ ที่จะต้องออกไปเก็บน้ำตาลสดวันละสองเวลา เมื่อได้น้ำตาลสดมาแล้วก็จะนำมาเคี่ยวในกระทะจนเหนียวข้นได้ที่ ก่อนจะนำไปหยอดลงในภาชนะ แล้วทิ้งไว้ให้เย็น ก็จะกลายเป็นน้ำตาลมะพร้าวที่สามารถนำไปขายเป็นของฝากได้เลย
7. ผลไม้กลับชาติ
หลายคนอาจจะไม่รู้จักภูมิปัญญาชาวบ้านนี้ ซึ่ง “ผลไม้กลับชาติ” ก็คือผลไม้แช่อิ่มนั่นเอง โดยกลุ่มแม่บ้านที่ บ้านบางพลับ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม จะนำผัก ผลไม้ ที่มีรสขม เผ็ด หรือ เปรี้ยว เช่น มะระจีน มะระขี้นก มะดัน มะนาว พริกแดงเม็ดใหญ่ โดยเฉพาะ “บอระเพ็ด” มาผ่านกระบวนการต่างๆ จนทำให้สิ่งที่ขมที่สุดกลายมาเป็นความหวานอร่อยได้
สำหรับกรรมวิธีการทำบอระเพ็ดแช่อิ่มนั้นมีขั้นตอนเริ่มจากนำบอระเพ็ดสดๆ มาตัดเป็นท่อนๆ ลอกเปลือกและไส้ออกให้หมด จากนั้นนำมาแช่ในน้ำเกลือประมาณ 1 เดือน จากนั้นก็นำมาแช่น้ำเปล่าต่ออีก 2 คืน เสร็จแล้วก็แช่น้ำปูนใสต่ออีก 1 คืน นำมาล้างทำความสะอาดแล้วนำไปลวกในน้ำร้อน ผึ่งให้แห้ง ต่อด้วยการนำมาแช่ในน้ำเชื่อมอีก 15 วัน เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ
8. ข้าวต้มแห้ง
ปิดท้ายด้วย “ข้าวต้มแห้ง” หรือจะเรียกว่า “ข้าวแห้ง” ก็ได้ ซึ่งหน้าตาก็จะคล้ายกับข้าวต้มเครื่องทั่วไป เพียงแต่จะมีลักษณะแห้ง โดยจะนิยมกินกับเนื้อไก่ เนื้อเป็ด และใส่เลือดไก่หรือเลือดเป็ดด้วย มีน้ำขลุกขลิกในชาม กินง่าย ไม่ลวกคอ แต่ถ้าใครอยากกินเป็นข้าวต้มก็สามารถบอกที่ร้านได้เช่นกัน
ที่สมุทรสงครามยังมีอีกหลากหลายของอร่อยให้สายกินได้มาลองลิ้มกัน อย่างเช่น อาหารทะเลสดๆ, ขนมจาก ลูกจาก ที่มีให้ซื้อเป็นของฝากแถวดอนหอยหลอด, ขนมไทยมากมาย โดยเฉพาะเค้กฝอยทอง ฯลฯ ขอบอกเลยว่ามาเที่ยวที่นี่เพลินพุงแน่นอน
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
“เมืองหอยหลอด ยอดลิ้นจี่ มีอุทยาน ร.2 แม่กลองไหลผ่าน นมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม”
จากคำขวัญของ จ.สมุทรสงคราม ที่ได้กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่ามีชื่อของกินนำมาตั้งแต่ช่วงต้นคำขวัญ ทำให้รู้สึกว่าที่จังหวัดนี้จะต้องมีของกินขึ้นชื่ออีกหลายอย่างแน่นอน ครั้งนี้จึงจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับ “8 ของอร่อยคู่สมุทรสงคราม” ที่เพียงแค่เอ่ยชื่อก็ต้องร้องอ๋อนั่นเอง
1. ปลาทูแม่กลอง
เริ่มแรกก็ต้องเป็น “ปลาทูแม่กลอง” ถือเป็นของดีประจำจังหวัดที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสุดยอดแห่งปลาทูเมืองไทย ที่มีเอกลักษณ์ตรง “หน้างอ คอหัก” เพราะได้มีการหักคอปลาทูให้งอลง เพื่อความสะดวกในการใส่ลงเข่งให้ได้พอดี และเพื่อให้ดูสวยงาม ซึ่งเป็นปลาน้ำตื้น มีตัวอ้วนสั้น แบน เนื้อเยอะ เนื้อนุ่มแต่แน่น หวาน มัน หนังบาง
โดยได้มีการนำปลาทูมาประกอบอาหารหลากหลายเมนู อย่างเช่น ปลาทูต้มมะดัน, ปลาทูทอดกระเทียม, ปลาทูฉู่ฉี่ เป็นต้น แต่ถ้าเมนูปลาทูขึ้นชื่อจริงๆ ต้องเป็น “ปลาทูซาเตี๊ยะ” ลักษณะเป็นปลาทูต้มในน้ำขลุกขลิก รสออกหวานเค็มกลมกล่อม
2. หอยหลอด
“หอยหลอด” คือหอยทะเลสองฝา หน้าตาคล้ายหลอดกาแฟสีน้ำตาลอ่อนอมเหลือง ที่พบอยู่ในพื้นที่ของสมุทรสงครามเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในบริเวณ “ดอนหอยหลอด” ซึ่งเป็นสันดอนบริเวณปากแม่น้ำแม่กลอง
สำหรับเมนูเด็ดของย่านดอนหอยหลอดก็ที่ต้องห้ามพลาดก็คือ “หอยหลอดผัดฉ่า” ที่รับรองว่าร้านอาหารแถบนี้ต้องมีกันทุกร้าน เพราะวัตถุดิบหลักก็คือหอยหลอดนั้นได้มาสดๆ จากที่นี่ นำไปผัดคลุกเคล้ากับสมุนไพรต่างๆ ที่เป็นเครื่องผัดฉ่า ปรุงรสให้จัดจ้าน อร่อยถึงใจ
3. กะปิคลองโคน
กะปิของที่ ต.คลองโคน นั้นขึ้นชื่อมากๆ เพราะมีจุดเด่นอยู่ที่ทำมาจาก "เคย" หรือสัตว์น้ำเค็มจำพวกกุ้งแต่ตัวเล็กจิ๋ว มองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็นตัว ซึ่งเคยของที่นี่มีขนาดเล็กกว่าที่อื่น จะเห็นก็เพียงแต่ตาสีดำๆ เท่านั้น จึงนิยมเรียกกันว่า “เคยตาดำ" เคยนี้สามารถนำมาทำกะปิได้อร่อยมากจนเป็นของฝากขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของที่นี่
4. ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม
“ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม” ลักษณะต้นไม่ค่อยสูงเป็นทรงพุ่ม ปลูกง่ายและให้ผลง่ายกว่าลิ้นจี่พันธุ์อื่นเมื่ออากาศดี ส่วนตัวผลเมื่อจัดได้ที่จะมีไหล่ (บ่า) ผลกว้างแป้น รูปทรงคล้ายรูปหัวใจโย้หน่อย ๆ ไม่สมดุลทีเดียว เปลือกมีหนามตั้งแต่ไม่หนา เนื้อแห้ง กรอบ ไม่แฉะ กลิ่นหอมรสหวาน
สำหรับการเลือกซื้อลิ้นจี่พันธุ์ค่อมของแท้รสชาติอร่อยนั้น มีวิธีดูคือให้ดูที่ลักษณะผลจะต้องสีแดงจัด และด้านในจะเป็นร่องชาด (ในภาษาของชาวสวนคือ ผิวเปลือกด้านในเป็นสีชมพูออกแดง) ส่วนหนามที่เปลือกจะต้องไม่คมมากนัก และหนามจะไม่ถี่มาก หรือดูที่ขั้วของลูกลิ้นจี่ ถ้ามีตุ่ม (ลูกเล็กๆ) เป็นสีเขียวแปลว่ายังมีติดฝาดและอมเปรี้ยวอยู่บ้าง แต่หากตุ่มนั้นเป็นสีแดง แปลว่ารสฝาดหมดไปแล้วนั่นเอง
5. ส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่
ส้มโอพันธุ์นี้ถือเป็นพันธุ์พื้นบ้านของที่นี่ ลักษณะโดดเด่นก็คือเป็นส้มโอที่มีรสชาติหวาน เก็บไว้ได้นาน ไม่โอ่ เพราะเนื้อแห้งกำลังดี \มีขนาดผลใหญ่หนัก ไม่มีเมล็ด กุ้งใหญ่ (กลีบของเนื้อส้มโอ) เปลือกนอกผิวสีเขียวอมเหลือง ส่วนเนื้อในเป็นสีน้ำผึ้ง มีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ใครได้ลองเป็นถูกใจ
6. น้ำตาลมะพร้าว
น้ำตาลมะพร้าวของที่นี่ขึ้นชื่อว่าหอมหวาน เนื่องจากทำจากน้ำตาลมะพร้าวสดแท้ๆ ที่จะต้องออกไปเก็บน้ำตาลสดวันละสองเวลา เมื่อได้น้ำตาลสดมาแล้วก็จะนำมาเคี่ยวในกระทะจนเหนียวข้นได้ที่ ก่อนจะนำไปหยอดลงในภาชนะ แล้วทิ้งไว้ให้เย็น ก็จะกลายเป็นน้ำตาลมะพร้าวที่สามารถนำไปขายเป็นของฝากได้เลย
7. ผลไม้กลับชาติ
หลายคนอาจจะไม่รู้จักภูมิปัญญาชาวบ้านนี้ ซึ่ง “ผลไม้กลับชาติ” ก็คือผลไม้แช่อิ่มนั่นเอง โดยกลุ่มแม่บ้านที่ บ้านบางพลับ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม จะนำผัก ผลไม้ ที่มีรสขม เผ็ด หรือ เปรี้ยว เช่น มะระจีน มะระขี้นก มะดัน มะนาว พริกแดงเม็ดใหญ่ โดยเฉพาะ “บอระเพ็ด” มาผ่านกระบวนการต่างๆ จนทำให้สิ่งที่ขมที่สุดกลายมาเป็นความหวานอร่อยได้
สำหรับกรรมวิธีการทำบอระเพ็ดแช่อิ่มนั้นมีขั้นตอนเริ่มจากนำบอระเพ็ดสดๆ มาตัดเป็นท่อนๆ ลอกเปลือกและไส้ออกให้หมด จากนั้นนำมาแช่ในน้ำเกลือประมาณ 1 เดือน จากนั้นก็นำมาแช่น้ำเปล่าต่ออีก 2 คืน เสร็จแล้วก็แช่น้ำปูนใสต่ออีก 1 คืน นำมาล้างทำความสะอาดแล้วนำไปลวกในน้ำร้อน ผึ่งให้แห้ง ต่อด้วยการนำมาแช่ในน้ำเชื่อมอีก 15 วัน เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ
8. ข้าวต้มแห้ง
ปิดท้ายด้วย “ข้าวต้มแห้ง” หรือจะเรียกว่า “ข้าวแห้ง” ก็ได้ ซึ่งหน้าตาก็จะคล้ายกับข้าวต้มเครื่องทั่วไป เพียงแต่จะมีลักษณะแห้ง โดยจะนิยมกินกับเนื้อไก่ เนื้อเป็ด และใส่เลือดไก่หรือเลือดเป็ดด้วย มีน้ำขลุกขลิกในชาม กินง่าย ไม่ลวกคอ แต่ถ้าใครอยากกินเป็นข้าวต้มก็สามารถบอกที่ร้านได้เช่นกัน
ที่สมุทรสงครามยังมีอีกหลากหลายของอร่อยให้สายกินได้มาลองลิ้มกัน อย่างเช่น อาหารทะเลสดๆ, ขนมจาก ลูกจาก ที่มีให้ซื้อเป็นของฝากแถวดอนหอยหลอด, ขนมไทยมากมาย โดยเฉพาะเค้กฝอยทอง ฯลฯ ขอบอกเลยว่ามาเที่ยวที่นี่เพลินพุงแน่นอน
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
