Facebook :Travel @ Manager
“...คนไทยนี้มีพิษสงรอบตัว แม้มือเปล่ายังเอาชนะคนได้ถึงเก้าคนสิบคน...”
เล่ากันว่าคำกล่าวข้างต้นเป็นคำที่พระเจ้ามังระ กษัตริย์แห่งพม่าตรัสชม “นายขนมต้ม” เชลยศึกจากกรุงศรีอยุธยาที่ได้แสดงฝีมือชกมวยเอาชนะนักมวยพม่าได้เกือบสิบคนจนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาผู้ชม
สืบต่อมาถึงปัจจุบัน ชาวไทยจึงได้ยกย่องให้นายขนมต้มเป็น “บรมครูมวยไทย” พร้อมกันนั้นยังได้ร่วมกันสร้างอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงคนไทยผู้มากฝีมือในทางมวยจนเป็นที่เลื่องลือไว้ที่บ้านเกิดของท่านที่หน้าโรงเรียนวัดจุฬามณี อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และที่สนามกีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทุกวันนี้ “มวยไทย” ได้รับการยอมรับในระดับโลกว่าเป็นศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวที่เฉียบคม และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาวไทยที่ชาวต่างชาติหลายต่อหลายคนยินดีที่จะบินข้ามน้ำข้ามทะเลมายังบ้านเราเพื่อฝึกหัดวิชามวยไทยกับครูมวยตามสำนักต่างๆ อีกทั้งทั่วโลกยังมีการเปิดสอนมวยไทยในต่างประเทศกว่า 200 ค่าย ขณะที่นักมวยชาวไทยอย่าง “บัวขาว” ก็เป็นที่รู้จักและเป็นที่ชื่นชอบของแฟนมวยทั้งชาวไทยและต่างชาติ ยังไม่นับนักกีฬามวยชาวไทยอีกหลายคนที่ไปต่อสู้ในเวทีระดับโลกและคว้ารางวัลกลับมาให้คนไทยได้ร่วมภาคภูมิใจ
เรียกได้ว่าถ้าเป็นเรื่องหมัดมวยแล้ว คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ยิ่งถ้าเป็นมวยไทยที่ออกอาวุธได้ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก มีท่วงท่าของแม่ไม้มวยไทยอันเป็นเอกลักษณ์ในการเผด็จศึกคู่ต่อสู้อย่างเฉียบขาด ทั้งจระเข้ฟาดหาง หนุมานถวายแหวน หักงวงไอยรา หักคอเอราวัณ ฯลฯ ก็ยิ่งน่าตื่นตาและสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี
เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรม “มวยไทย” อันเป็นศิลปะการต่อสู้แบบไทยอันเป็นเอกลักษณ์นี้ให้ยั่งยืนสืบไป ในเมืองไทยจึงมีการจัดงาน “ไหว้ครูมวยไทยโลก” ขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันที่ 17 มีนาคม ซึ่งถือเป็น “วันนายขนมต้ม”
สำหรับในปี 2561 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากร สมาคมครูมวยไทย สมาคมสถาบันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทย สหพันธ์มวยไทยโลก และสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันจัด “งานไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ 14” ขึ้นในวันที่ 16-17 มีนาคม 2561 ณ บริเวณวัดมหาธาตุและวัดหลังคาขาว อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
งานนี้ถือเป็นงานใหญ่ทีเดียวเพราะนักมวยทั้งชาวไทยและต่างชาติจะมารวมตัวกันนับพันคน ทุกคนต่างมาร่วมพิธีสำคัญคือ “พิธีไหว้ครูมวยไทย” อันเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะมีการไหว้ครูและพิธีครอบครูมวยไทย อย่างถูกต้องตามขั้นตอนประเพณี รวมถึงจัดพิธีบวงสรวงบูรพมหากษัตริย์ไทยและทหารกล้าของไทยที่ร่วมปกป้องแผ่นดินไทย อาทิ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระเจ้าเสือ พระยาพิชัยดาบหัก รวมถึงนายขนมต้ม บรมครูมวยไทย
จากนั้นครูมวยจะสวมมงคลให้ก่อนจะมีการรำไหว้ครู โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจากผุดผาดน้อย วรวุฒิ, อนุวัฒน์ แก้วสัมฤทธิ์, สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง และพันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ นักมวยที่มีชื่อเสียงเป็นผู้รำไหว้ครูนำนักกีฬามวยไทยทุกชาติ
นอกจากนั้นแล้วภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการและกิจกรรมที่นำเสนอให้นักมวยไทยทั่วโลกได้เข้าใจถึงการเริ่มต้นของมวยไทยซึ่งเป็นวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทยที่พระมหากษัตริย์และคนไทยต้องเรียนเพื่อใช้ป้องกันตัวและปกป้องประเทศชาติ อีกทั้งยังมีการสาธิตและสอนมวยโบราณ อาทิ มวยไชยา มวยโคราช มวยท่าเสา มวยลพบุรี และกิจกรรมหัตถศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้แบบไทย ได้แก่ การสักยันต์ การเขียนยันต์ การตีดาบอรัญญิก เป็นต้น
ที่ไม่ควรพลาดชมคือการแสดงศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทยอันน่าตื่นตา เราจะได้ชมกระบวนท่าต่างๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของมวยไทย และการฝึกซ้อมมวยไทยแบบโบราณ อาทิ การเตะต้นกล้วย การชกและฟันศอกลูกมะนาว รวมไปถึงการออกร้านจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับมวยไทยและนำเสนอหลักสูตรการเรียนมวยไทยจากค่ายมวยต่างๆ
ขอบอกเลยว่าคนที่ชื่นชอบมวยไทยต้องห้ามพลาดงานนี้เพราะมีทั้งความขลังของพิธีไหว้ครูอันศักดิ์สิทธิ์ และความสนุกตื่นเต้นกับลีลาอันเฉียบคมของแม่ไม้มวยไทยต่างๆ รวมถึงการแข่งขันชกมวยไทยอาชีพ “ศึกมหัศจรรย์มวยไทย มรดกโลก” โดยมีการแข่งขันชกมวยไทยมาราธอนทั้งชายและหญิง และการชกมวยโดยนักมวยไทยอาชีพทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และการป้องกันแชมป์ของมวยคู่เอก ได้แก่ กัปตันเคน นฤภัย ชกกับ มังกรเงิน นิติสมุย และยอดดอย แก้วสัมฤทธิ์ ชกกับ ต้นกล้า อีสานแทรกเตอร์
งานนี้นอกจากจะเป็นการส่งผ่านมรดกของวัฒนธรรมไทยที่มีอัตลักษณ์อันโดดเด่นให้เป็นที่รู้จักทั่วโลกแล้ว ยังเป็นการสร้างความประทับใจ ความภาคภูมิใจ และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้กับผู้รักกีฬามวยไทยทั่วโลกอีกด้วย
มาชมงานไหว้ครูมวยไทยโลกถึงถิ่นอยุธยาแล้ว ไหนเลยจะพลาดการไปเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาที่ได้ชื่อว่าเป็น “มรดกโลก” แห่งสำคัญของไทย ยิ่งช่วงนี้กระแสแม่การะเกดฟีเวอร์กำลังมาแรง ถ้าได้แต่งชุดไทยไปเที่ยวโบราณสถานยิ่งถือว่าอินเทรนด์สุดๆ
สำหรับสถานที่ที่ไม่ควรพลาดที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้แก่ “วัดมหาธาตุ” ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยาเพราะเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร และเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสี ทุกคนอาจคุ้นเคยกันดีกับภาพของเศียรพระพุทธรูปที่ถูกห่อหุ้มด้วยรากไม้ วัดแห่งนี้มีขนาดใหญ่ มีซากปรักหักพังของอาคารสมัยโบราณที่แม้เหลือเพียงซากแต่ก็เห็นได้ถึงความยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองในอดีต
อีกทั้งบริเวณสนามหญ้ากว้างขวางด้านหลังวัดมหาธาตุต่อเนื่องไปจนถึงวัดหลังคาขาวยังใช้เป็นสถานที่จัดงานไหว้ครูมวยไทยโลกในครั้งนี้อีกด้วย
ฝั่งตรงข้ามวัดมหาธาตุคือ “วัดราชบูรณะ” เป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญของกรุงศรีอยุธยา มีฐานะเป็นพระอารามหลวง ที่นี่มีพระปรางค์องค์ใหญ่ซึ่งล้อมรอบด้วยระเบียงคต วัดนี้โด่งดังมากในสมัยหนึ่งเมื่อมีการขุดพบเครื่องทองและพระพุทธรูปเป็นจำนวนมากในกรุพระปรางค์ ปัจจุบันของล้ำค่าต่างๆ ที่พบในกรุถูกจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา แต่เราสามารถเดินลงบันไดเพื่อไปชมกรุสมบัติภายในองค์เจดีย์ได้
ไม่ไกลกันนักเป็นที่ตั้งของ “วัดพระศรีสรรเพชญ์” วัดหลวงในพระบรมมหาราชวังแห่งกรุงศรีอยุธยา ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา มีความโดดเด่นด้วยเจดีย์ทรงลังกาจำนวนสามองค์ที่วางตัวเรียงยาวตลอดทิศตะวันออกและทิศตะวันตกงดงามยิ่งนัก วัดพระศรีสรรเพชญ์ยังมีอาณาบริเวณต่อกับ “พระราชวังโบราณ” ที่ปัจจุบันเหลือเพียงฐานราก แต่ก็สามารถจินตนาการถึงอดีตอันรุ่งโรจน์ของอยุธยาได้
อีกด้านหนึ่งของวัดพระศรีสรรเพชญ์คือ “วิหารพระมงคลบพิตร” ภายในประดิษฐานหลวงพ่อมงคลบพิตร พระพุทธรูปสำริดโบราณองค์ใหญ่ สันนิษฐานว่าเดิมประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ต่อมาได้มีการอัญเชิญมาไว้ ณ สถานที่ปัจจุบัน และมีการสร้างมณฑปครอบไว้ ต่อมาได้บูรณะขึ้นมาใหม่ทั้งหมดจนกลายเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทองอร่ามภายในวิหารแบบที่เห็นในปัจจุบัน
ปิดท้ายยามเย็นกันที่ “วัดไชยวัฒนาราม” วัดโบราณงดงามริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่โดดเด่นด้วยปรางค์ประธานตรงกลางและมีปรางค์บริวารอยู่รายล้อม พร้อมทั้งมีระเบียงคดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยจำนวน 120 องค์ โดยในยามเย็นที่นี่จะกลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงาม ภาพของโบราณสถานในแสงยามเย็นที่สาดส่องมาน่าประทับใจยิ่งนัก
ยังมีวัดและโบราณสถานอีกมากมายในอยุธยาที่ควรค่าแก่การเข้าชม อยากให้ใช้โอกาสนี้มาเที่ยวงานไหว้ครูมวยไทยโลก 16-17 มีนาคม 2561 มารู้จักกับสุดยอดศิลปะการต่อสู้ของไทยและมาสัมผัสกับอดีตราชธานีที่รุ่งเรืองไปพร้อมๆ กัน
* * * * * * * * * *
“งานไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ 14” จัดขึ้นในวันที่ 16-17 มีนาคม 2561 ณ บริเวณวัดมหาธาตุและวัดหลังคาขาว อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมชมงานได้ในเวลา 14.00-18.00 น. ส่วนการแข่งขันชกมวยศึกมหัศจรรย์มวยไทย มรดกโลก มีขึ้นในเวลา 14.00-16.00 น. และพิธีไหว้ครูจะจัดขึ้นในวันที่ 17 มีนาคม 2561 เวลา 18.00 น. ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพระนครศรีอยุธยา โทร.0 3524 6076-7 หรือ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย www.tourismthailand.org/thaifest
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
“...คนไทยนี้มีพิษสงรอบตัว แม้มือเปล่ายังเอาชนะคนได้ถึงเก้าคนสิบคน...”
เล่ากันว่าคำกล่าวข้างต้นเป็นคำที่พระเจ้ามังระ กษัตริย์แห่งพม่าตรัสชม “นายขนมต้ม” เชลยศึกจากกรุงศรีอยุธยาที่ได้แสดงฝีมือชกมวยเอาชนะนักมวยพม่าได้เกือบสิบคนจนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาผู้ชม
สืบต่อมาถึงปัจจุบัน ชาวไทยจึงได้ยกย่องให้นายขนมต้มเป็น “บรมครูมวยไทย” พร้อมกันนั้นยังได้ร่วมกันสร้างอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงคนไทยผู้มากฝีมือในทางมวยจนเป็นที่เลื่องลือไว้ที่บ้านเกิดของท่านที่หน้าโรงเรียนวัดจุฬามณี อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และที่สนามกีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทุกวันนี้ “มวยไทย” ได้รับการยอมรับในระดับโลกว่าเป็นศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวที่เฉียบคม และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาวไทยที่ชาวต่างชาติหลายต่อหลายคนยินดีที่จะบินข้ามน้ำข้ามทะเลมายังบ้านเราเพื่อฝึกหัดวิชามวยไทยกับครูมวยตามสำนักต่างๆ อีกทั้งทั่วโลกยังมีการเปิดสอนมวยไทยในต่างประเทศกว่า 200 ค่าย ขณะที่นักมวยชาวไทยอย่าง “บัวขาว” ก็เป็นที่รู้จักและเป็นที่ชื่นชอบของแฟนมวยทั้งชาวไทยและต่างชาติ ยังไม่นับนักกีฬามวยชาวไทยอีกหลายคนที่ไปต่อสู้ในเวทีระดับโลกและคว้ารางวัลกลับมาให้คนไทยได้ร่วมภาคภูมิใจ
เรียกได้ว่าถ้าเป็นเรื่องหมัดมวยแล้ว คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ยิ่งถ้าเป็นมวยไทยที่ออกอาวุธได้ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก มีท่วงท่าของแม่ไม้มวยไทยอันเป็นเอกลักษณ์ในการเผด็จศึกคู่ต่อสู้อย่างเฉียบขาด ทั้งจระเข้ฟาดหาง หนุมานถวายแหวน หักงวงไอยรา หักคอเอราวัณ ฯลฯ ก็ยิ่งน่าตื่นตาและสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี
เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรม “มวยไทย” อันเป็นศิลปะการต่อสู้แบบไทยอันเป็นเอกลักษณ์นี้ให้ยั่งยืนสืบไป ในเมืองไทยจึงมีการจัดงาน “ไหว้ครูมวยไทยโลก” ขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันที่ 17 มีนาคม ซึ่งถือเป็น “วันนายขนมต้ม”
สำหรับในปี 2561 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากร สมาคมครูมวยไทย สมาคมสถาบันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทย สหพันธ์มวยไทยโลก และสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันจัด “งานไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ 14” ขึ้นในวันที่ 16-17 มีนาคม 2561 ณ บริเวณวัดมหาธาตุและวัดหลังคาขาว อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
งานนี้ถือเป็นงานใหญ่ทีเดียวเพราะนักมวยทั้งชาวไทยและต่างชาติจะมารวมตัวกันนับพันคน ทุกคนต่างมาร่วมพิธีสำคัญคือ “พิธีไหว้ครูมวยไทย” อันเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะมีการไหว้ครูและพิธีครอบครูมวยไทย อย่างถูกต้องตามขั้นตอนประเพณี รวมถึงจัดพิธีบวงสรวงบูรพมหากษัตริย์ไทยและทหารกล้าของไทยที่ร่วมปกป้องแผ่นดินไทย อาทิ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระเจ้าเสือ พระยาพิชัยดาบหัก รวมถึงนายขนมต้ม บรมครูมวยไทย
จากนั้นครูมวยจะสวมมงคลให้ก่อนจะมีการรำไหว้ครู โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจากผุดผาดน้อย วรวุฒิ, อนุวัฒน์ แก้วสัมฤทธิ์, สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง และพันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ นักมวยที่มีชื่อเสียงเป็นผู้รำไหว้ครูนำนักกีฬามวยไทยทุกชาติ
นอกจากนั้นแล้วภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการและกิจกรรมที่นำเสนอให้นักมวยไทยทั่วโลกได้เข้าใจถึงการเริ่มต้นของมวยไทยซึ่งเป็นวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทยที่พระมหากษัตริย์และคนไทยต้องเรียนเพื่อใช้ป้องกันตัวและปกป้องประเทศชาติ อีกทั้งยังมีการสาธิตและสอนมวยโบราณ อาทิ มวยไชยา มวยโคราช มวยท่าเสา มวยลพบุรี และกิจกรรมหัตถศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้แบบไทย ได้แก่ การสักยันต์ การเขียนยันต์ การตีดาบอรัญญิก เป็นต้น
ที่ไม่ควรพลาดชมคือการแสดงศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทยอันน่าตื่นตา เราจะได้ชมกระบวนท่าต่างๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของมวยไทย และการฝึกซ้อมมวยไทยแบบโบราณ อาทิ การเตะต้นกล้วย การชกและฟันศอกลูกมะนาว รวมไปถึงการออกร้านจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับมวยไทยและนำเสนอหลักสูตรการเรียนมวยไทยจากค่ายมวยต่างๆ
ขอบอกเลยว่าคนที่ชื่นชอบมวยไทยต้องห้ามพลาดงานนี้เพราะมีทั้งความขลังของพิธีไหว้ครูอันศักดิ์สิทธิ์ และความสนุกตื่นเต้นกับลีลาอันเฉียบคมของแม่ไม้มวยไทยต่างๆ รวมถึงการแข่งขันชกมวยไทยอาชีพ “ศึกมหัศจรรย์มวยไทย มรดกโลก” โดยมีการแข่งขันชกมวยไทยมาราธอนทั้งชายและหญิง และการชกมวยโดยนักมวยไทยอาชีพทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และการป้องกันแชมป์ของมวยคู่เอก ได้แก่ กัปตันเคน นฤภัย ชกกับ มังกรเงิน นิติสมุย และยอดดอย แก้วสัมฤทธิ์ ชกกับ ต้นกล้า อีสานแทรกเตอร์
งานนี้นอกจากจะเป็นการส่งผ่านมรดกของวัฒนธรรมไทยที่มีอัตลักษณ์อันโดดเด่นให้เป็นที่รู้จักทั่วโลกแล้ว ยังเป็นการสร้างความประทับใจ ความภาคภูมิใจ และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้กับผู้รักกีฬามวยไทยทั่วโลกอีกด้วย
มาชมงานไหว้ครูมวยไทยโลกถึงถิ่นอยุธยาแล้ว ไหนเลยจะพลาดการไปเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาที่ได้ชื่อว่าเป็น “มรดกโลก” แห่งสำคัญของไทย ยิ่งช่วงนี้กระแสแม่การะเกดฟีเวอร์กำลังมาแรง ถ้าได้แต่งชุดไทยไปเที่ยวโบราณสถานยิ่งถือว่าอินเทรนด์สุดๆ
สำหรับสถานที่ที่ไม่ควรพลาดที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้แก่ “วัดมหาธาตุ” ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยาเพราะเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร และเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสี ทุกคนอาจคุ้นเคยกันดีกับภาพของเศียรพระพุทธรูปที่ถูกห่อหุ้มด้วยรากไม้ วัดแห่งนี้มีขนาดใหญ่ มีซากปรักหักพังของอาคารสมัยโบราณที่แม้เหลือเพียงซากแต่ก็เห็นได้ถึงความยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองในอดีต
อีกทั้งบริเวณสนามหญ้ากว้างขวางด้านหลังวัดมหาธาตุต่อเนื่องไปจนถึงวัดหลังคาขาวยังใช้เป็นสถานที่จัดงานไหว้ครูมวยไทยโลกในครั้งนี้อีกด้วย
ฝั่งตรงข้ามวัดมหาธาตุคือ “วัดราชบูรณะ” เป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญของกรุงศรีอยุธยา มีฐานะเป็นพระอารามหลวง ที่นี่มีพระปรางค์องค์ใหญ่ซึ่งล้อมรอบด้วยระเบียงคต วัดนี้โด่งดังมากในสมัยหนึ่งเมื่อมีการขุดพบเครื่องทองและพระพุทธรูปเป็นจำนวนมากในกรุพระปรางค์ ปัจจุบันของล้ำค่าต่างๆ ที่พบในกรุถูกจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา แต่เราสามารถเดินลงบันไดเพื่อไปชมกรุสมบัติภายในองค์เจดีย์ได้
ไม่ไกลกันนักเป็นที่ตั้งของ “วัดพระศรีสรรเพชญ์” วัดหลวงในพระบรมมหาราชวังแห่งกรุงศรีอยุธยา ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา มีความโดดเด่นด้วยเจดีย์ทรงลังกาจำนวนสามองค์ที่วางตัวเรียงยาวตลอดทิศตะวันออกและทิศตะวันตกงดงามยิ่งนัก วัดพระศรีสรรเพชญ์ยังมีอาณาบริเวณต่อกับ “พระราชวังโบราณ” ที่ปัจจุบันเหลือเพียงฐานราก แต่ก็สามารถจินตนาการถึงอดีตอันรุ่งโรจน์ของอยุธยาได้
อีกด้านหนึ่งของวัดพระศรีสรรเพชญ์คือ “วิหารพระมงคลบพิตร” ภายในประดิษฐานหลวงพ่อมงคลบพิตร พระพุทธรูปสำริดโบราณองค์ใหญ่ สันนิษฐานว่าเดิมประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ต่อมาได้มีการอัญเชิญมาไว้ ณ สถานที่ปัจจุบัน และมีการสร้างมณฑปครอบไว้ ต่อมาได้บูรณะขึ้นมาใหม่ทั้งหมดจนกลายเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทองอร่ามภายในวิหารแบบที่เห็นในปัจจุบัน
ปิดท้ายยามเย็นกันที่ “วัดไชยวัฒนาราม” วัดโบราณงดงามริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่โดดเด่นด้วยปรางค์ประธานตรงกลางและมีปรางค์บริวารอยู่รายล้อม พร้อมทั้งมีระเบียงคดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยจำนวน 120 องค์ โดยในยามเย็นที่นี่จะกลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงาม ภาพของโบราณสถานในแสงยามเย็นที่สาดส่องมาน่าประทับใจยิ่งนัก
ยังมีวัดและโบราณสถานอีกมากมายในอยุธยาที่ควรค่าแก่การเข้าชม อยากให้ใช้โอกาสนี้มาเที่ยวงานไหว้ครูมวยไทยโลก 16-17 มีนาคม 2561 มารู้จักกับสุดยอดศิลปะการต่อสู้ของไทยและมาสัมผัสกับอดีตราชธานีที่รุ่งเรืองไปพร้อมๆ กัน
* * * * * * * * * *
“งานไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ 14” จัดขึ้นในวันที่ 16-17 มีนาคม 2561 ณ บริเวณวัดมหาธาตุและวัดหลังคาขาว อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมชมงานได้ในเวลา 14.00-18.00 น. ส่วนการแข่งขันชกมวยศึกมหัศจรรย์มวยไทย มรดกโลก มีขึ้นในเวลา 14.00-16.00 น. และพิธีไหว้ครูจะจัดขึ้นในวันที่ 17 มีนาคม 2561 เวลา 18.00 น. ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพระนครศรีอยุธยา โทร.0 3524 6076-7 หรือ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย www.tourismthailand.org/thaifest
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager