Facebook :Travel @ Manager
การทำอาหารแต่ละจาน เป็นงานที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ผสมผสานกันเพื่อให้ออกมาเป็นอาหารเลิศรส และมีหน้าตาสวยงามชวนกิน อย่างอาหารญี่ปุ่น ที่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความสดอร่อย และมีรูปลักษณ์น่าลิ้มลองอยู่แล้ว
และสำหรับที่นี่ “อิชิกะ โอมากาเสะ” (Ichika Omakase) ก็ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างสรรค์เมนูเด็ดจากความเชี่ยวชาญของเชฟ โดย “อิชิกะ” นั้นหมายถึงดอกไม้ที่หนึ่ง ซึ่งใช้ดอกซากุระเป็นโลโก้ของร้าน ทำให้รู้สึกสดชื่น สวยทั้งรูป และอาหารรสชาติดี
ส่วน “โอมากาเสะ” นั้นเป็นศิลปะการทำอาหารแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น แปลตรงตัวว่า เชฟจัดให้ โดยเชฟจะเป็นผู้เลือกให้ว่าวันนี้ลูกค้าที่มาจะได้ลิ้มรสเมนูใดบ้าง ใช้ความคิดสร้างสรรค์และความเชี่ยวชาญของเชฟ นำเสนออาหารออกมาให้ได้ลิ้มลอง ทำให้ผู้ที่มากินได้เพลิดเพลินไปกับความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบไปจนสำเร็จออกมาเป็นแต่ละเมนู
นอกจากรสชาติความอร่อยแล้ว การได้กินอาหารสไตล์โอมากาเสะ ทำให้เชฟและลูกค้าได้มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ทั้งเกร็ดความรู้เกี่ยวกับอาหาร เรื่องราวทั่วไป สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับมื้ออาหารที่อบอุ่นและเป็นมิตร
สำหรับวัตถุดิบที่นำมาใช้ภายในร้านสั่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ มีด เขียง ไปจนถึงปลาหลากหลายชนิดที่สั่งตรงมาจากตลาดปลาสึกิจิ และแหล่งจับปลาต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น
ใครที่จะมาลิ้มรสความอร่อยของอาหารญี่ปุ่นที่ร้านนี้ มีให้เลือกทั้งมื้อกลางวัน (1,700/2,700/3,700 บาท++) และมื้อเย็น (3,700/4,700/6,700/9,700 บาท++) โดยการกินอาหารสไตล์โอมากาเสะนั้นจะใช้เวลานานพอสมควร แต่ละคอร์สประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ลิ้มรสความละเมียดละไมของอาหารได้อย่างเต็มอิ่ม
โดยมื้อนี้ที่เราเลือกมาอร่อย เป็นคอร์สอาหารเย็น ราคา 4,700 บาท++ ซึ่งมี เชฟอคิระ เขมาวุฒานนท์ หัวหน้าเชฟของร้าน เป็นผู้สร้างสรรค์ความอร่อยในมื้อนี้
เริ่มต้นคอร์สด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย หน้าตาสวยงามน่าลิ้มลอง “Tororo Combu” เป็นเนื้อปลาสดห่อกับสาหร่ายคอมบุ ราดด้วยซอสวาซาบิสูตรของทางร้าน ซอสรสหวานๆ เค็มๆ ได้รสวาซาบิเล็กน้อย เข้ากับเนื้อปลาสดๆ “Hotate Nuta Miso” เป็นหอยเชลล์ชิ้นใหญ่เนื้อแน่นหวาน ราดด้วยซอสมิโสะขาว
“Takenokoni” หน่อไม้ญี่ปุ่นคลุกกับปลาแห้ง หน่อไม้สดหวานกรอบหอมกลิ่นปลาแห้ง “Ika Mentaiko” หมึกญี่ปุ่นสดคลุกเคล้ากับเมนไทโกะ หรือไข่ปลาปรุงรส “Nano Hana Gomaaei” เป็นยอดผักของญี่ปุ่น ลวกสุด แล้วราดด้วยซอสงาขาวกลิ่นหอมรสละมุน และ “Kampachi Cappaccio” เนื้อปลาคัมปาจิสด ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะ เป็นเนื้อปลาเหนียวนุ่มนิดๆ ที่หากินได้เฉพาะฤดูกาล
จากนั้นมาต่อกันด้วยซูชิสุดพิเศษ ที่ใช้ข้าวสีแดงนำมาหุงและผ่านกรรมวิธีทำเป็นข้าวสำหรับซูชิ โดยเชฟจะทำซูชิออกมาให้ชิมกันทีละคำ เริ่มจาก “Shima-aji” ปลาชิมาอาจิ ปลาเนื้อขาวที่เด้ง แน่น นุ่ม ทาด้วยซอสสูตรของทางร้าน แล้วทอปด้วยบ๊วยเปรี้ยวๆ เค็มๆ “Kampachi” ปลาคิมปาจิเนื้อแน่น ทาด้วยซอส ทอปด้วยต้นหอม “Madai” ปลามาได หรือปลากะพงแดงญี่ปุ่น นำมาทาซอส
“Chu Toro” เป็นเนื้อท้องปลามากูโรส่วนหลังที่มีไขมันปานกลาง เนื้อนุ่ม แน่น ละลาย “Otoro” เนื้อท้องปลามากูโรส่วนหน้าที่มีไขมันสูง เนื้อนุ่มละลายในปาก “Shirako” ชิราโกะสดๆ วางบนข้าว แล้วห่อด้วยสาหร่าย เบิร์นไฟให้ได้กลิ่นหอมเล็กน้อย แล้วโรยหน้าด้วยต้นหอมซอย
“Kurumaebi” เป็นกุ้งลายเสือ ทาด้วยซอสสูตรเฉพาะ “Uni” เป็นไข่หอยเม่นวางบนข้าว แล้วห่อด้วยสาหร่าย “Anago” ปลาไหลญี่ปุ่น นำมาแล่ แล้วเบิร์นให้พอสุก ทางด้วยซอสเค็มๆ หวานๆ เนื้อนุ่ม กลิ่นหอม
เสร็จจากซูชิแล้ว มาต่อกันที่ “Miso Truffle Soup” ซุปเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นในเห็ดทรัฟเฟิล ด้านล่างมีไข่ขาวตุ๋น กินแล้วเข้าคู่กันดีกับซุปหอมๆ มันๆ ออกรสเค็ม แล้วมาล้างปากด้วย “Meaonga Temagi” เป็นหัวไชเท้าสดที่นำมาห่อกับสาหร่าย “Negi Toro Temaki” ใช้ปลาโทโร่สับนำมาทำเป็นข้าวห่อสาหร่าย
อิ่มกับซูชิที่ลิ้มรสไปหลายคำ มาปิดท้ายกันที่ “Tamago” ไข่หวานย่างออกมาอุ่น เนื้อนุ่มฟูกินแล้วละมุนลิ้น แล้วล้างปากอีกครั้งด้วย “Osuimono Soup” ซุปปลาแบบน้ำใส ใส่เนื้อปลานุ่มๆ ลงไปด้วย ปิดท้ายด้วย “Honey Apple” แอปเปิ้ลสดๆ ราดด้วยน้ำผึ้งหวานๆ อิ่มอร่อยกันแบบครบถ้วน
* * * * * * * * * * * * * * * * *
“อิชิกะ โอมากาเสะ” (Ichika Omakase) ตั้งอยู่ที่ชั้น M โรงแรมแรมแบรนดท์โฮเทล กรุงเทพฯ ซอยสุขุมวิท 18 คลองเตย กทม. การเดินทางจากถนนสุขุมวิท เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 18 ตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นโรงแรมอยู่ทางซ้ายมือ หรือใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีอโศก ร้านเปิดบริการวันพฤหัสบดี-วันอังคาร (ปิดวันพุธ) เวลา 12.00-14.30 น. และ 18.00-22.30 น. ทางร้านรับจองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น ไม่รับลูกค้าวอล์กอิน (จองล่วงหน้า 2 วันขึ้นไป) สำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 06-1165-6546 www.facebook.com/ichikathailand หรือที่ IG : ichikaomakase
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
การทำอาหารแต่ละจาน เป็นงานที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ผสมผสานกันเพื่อให้ออกมาเป็นอาหารเลิศรส และมีหน้าตาสวยงามชวนกิน อย่างอาหารญี่ปุ่น ที่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความสดอร่อย และมีรูปลักษณ์น่าลิ้มลองอยู่แล้ว
และสำหรับที่นี่ “อิชิกะ โอมากาเสะ” (Ichika Omakase) ก็ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างสรรค์เมนูเด็ดจากความเชี่ยวชาญของเชฟ โดย “อิชิกะ” นั้นหมายถึงดอกไม้ที่หนึ่ง ซึ่งใช้ดอกซากุระเป็นโลโก้ของร้าน ทำให้รู้สึกสดชื่น สวยทั้งรูป และอาหารรสชาติดี
ส่วน “โอมากาเสะ” นั้นเป็นศิลปะการทำอาหารแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น แปลตรงตัวว่า เชฟจัดให้ โดยเชฟจะเป็นผู้เลือกให้ว่าวันนี้ลูกค้าที่มาจะได้ลิ้มรสเมนูใดบ้าง ใช้ความคิดสร้างสรรค์และความเชี่ยวชาญของเชฟ นำเสนออาหารออกมาให้ได้ลิ้มลอง ทำให้ผู้ที่มากินได้เพลิดเพลินไปกับความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบไปจนสำเร็จออกมาเป็นแต่ละเมนู
นอกจากรสชาติความอร่อยแล้ว การได้กินอาหารสไตล์โอมากาเสะ ทำให้เชฟและลูกค้าได้มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ทั้งเกร็ดความรู้เกี่ยวกับอาหาร เรื่องราวทั่วไป สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับมื้ออาหารที่อบอุ่นและเป็นมิตร
สำหรับวัตถุดิบที่นำมาใช้ภายในร้านสั่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ มีด เขียง ไปจนถึงปลาหลากหลายชนิดที่สั่งตรงมาจากตลาดปลาสึกิจิ และแหล่งจับปลาต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น
ใครที่จะมาลิ้มรสความอร่อยของอาหารญี่ปุ่นที่ร้านนี้ มีให้เลือกทั้งมื้อกลางวัน (1,700/2,700/3,700 บาท++) และมื้อเย็น (3,700/4,700/6,700/9,700 บาท++) โดยการกินอาหารสไตล์โอมากาเสะนั้นจะใช้เวลานานพอสมควร แต่ละคอร์สประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ลิ้มรสความละเมียดละไมของอาหารได้อย่างเต็มอิ่ม
โดยมื้อนี้ที่เราเลือกมาอร่อย เป็นคอร์สอาหารเย็น ราคา 4,700 บาท++ ซึ่งมี เชฟอคิระ เขมาวุฒานนท์ หัวหน้าเชฟของร้าน เป็นผู้สร้างสรรค์ความอร่อยในมื้อนี้
เริ่มต้นคอร์สด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย หน้าตาสวยงามน่าลิ้มลอง “Tororo Combu” เป็นเนื้อปลาสดห่อกับสาหร่ายคอมบุ ราดด้วยซอสวาซาบิสูตรของทางร้าน ซอสรสหวานๆ เค็มๆ ได้รสวาซาบิเล็กน้อย เข้ากับเนื้อปลาสดๆ “Hotate Nuta Miso” เป็นหอยเชลล์ชิ้นใหญ่เนื้อแน่นหวาน ราดด้วยซอสมิโสะขาว
“Takenokoni” หน่อไม้ญี่ปุ่นคลุกกับปลาแห้ง หน่อไม้สดหวานกรอบหอมกลิ่นปลาแห้ง “Ika Mentaiko” หมึกญี่ปุ่นสดคลุกเคล้ากับเมนไทโกะ หรือไข่ปลาปรุงรส “Nano Hana Gomaaei” เป็นยอดผักของญี่ปุ่น ลวกสุด แล้วราดด้วยซอสงาขาวกลิ่นหอมรสละมุน และ “Kampachi Cappaccio” เนื้อปลาคัมปาจิสด ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะ เป็นเนื้อปลาเหนียวนุ่มนิดๆ ที่หากินได้เฉพาะฤดูกาล
จากนั้นมาต่อกันด้วยซูชิสุดพิเศษ ที่ใช้ข้าวสีแดงนำมาหุงและผ่านกรรมวิธีทำเป็นข้าวสำหรับซูชิ โดยเชฟจะทำซูชิออกมาให้ชิมกันทีละคำ เริ่มจาก “Shima-aji” ปลาชิมาอาจิ ปลาเนื้อขาวที่เด้ง แน่น นุ่ม ทาด้วยซอสสูตรของทางร้าน แล้วทอปด้วยบ๊วยเปรี้ยวๆ เค็มๆ “Kampachi” ปลาคิมปาจิเนื้อแน่น ทาด้วยซอส ทอปด้วยต้นหอม “Madai” ปลามาได หรือปลากะพงแดงญี่ปุ่น นำมาทาซอส
“Chu Toro” เป็นเนื้อท้องปลามากูโรส่วนหลังที่มีไขมันปานกลาง เนื้อนุ่ม แน่น ละลาย “Otoro” เนื้อท้องปลามากูโรส่วนหน้าที่มีไขมันสูง เนื้อนุ่มละลายในปาก “Shirako” ชิราโกะสดๆ วางบนข้าว แล้วห่อด้วยสาหร่าย เบิร์นไฟให้ได้กลิ่นหอมเล็กน้อย แล้วโรยหน้าด้วยต้นหอมซอย
“Kurumaebi” เป็นกุ้งลายเสือ ทาด้วยซอสสูตรเฉพาะ “Uni” เป็นไข่หอยเม่นวางบนข้าว แล้วห่อด้วยสาหร่าย “Anago” ปลาไหลญี่ปุ่น นำมาแล่ แล้วเบิร์นให้พอสุก ทางด้วยซอสเค็มๆ หวานๆ เนื้อนุ่ม กลิ่นหอม
เสร็จจากซูชิแล้ว มาต่อกันที่ “Miso Truffle Soup” ซุปเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นในเห็ดทรัฟเฟิล ด้านล่างมีไข่ขาวตุ๋น กินแล้วเข้าคู่กันดีกับซุปหอมๆ มันๆ ออกรสเค็ม แล้วมาล้างปากด้วย “Meaonga Temagi” เป็นหัวไชเท้าสดที่นำมาห่อกับสาหร่าย “Negi Toro Temaki” ใช้ปลาโทโร่สับนำมาทำเป็นข้าวห่อสาหร่าย
อิ่มกับซูชิที่ลิ้มรสไปหลายคำ มาปิดท้ายกันที่ “Tamago” ไข่หวานย่างออกมาอุ่น เนื้อนุ่มฟูกินแล้วละมุนลิ้น แล้วล้างปากอีกครั้งด้วย “Osuimono Soup” ซุปปลาแบบน้ำใส ใส่เนื้อปลานุ่มๆ ลงไปด้วย ปิดท้ายด้วย “Honey Apple” แอปเปิ้ลสดๆ ราดด้วยน้ำผึ้งหวานๆ อิ่มอร่อยกันแบบครบถ้วน
* * * * * * * * * * * * * * * * *
“อิชิกะ โอมากาเสะ” (Ichika Omakase) ตั้งอยู่ที่ชั้น M โรงแรมแรมแบรนดท์โฮเทล กรุงเทพฯ ซอยสุขุมวิท 18 คลองเตย กทม. การเดินทางจากถนนสุขุมวิท เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 18 ตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นโรงแรมอยู่ทางซ้ายมือ หรือใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีอโศก ร้านเปิดบริการวันพฤหัสบดี-วันอังคาร (ปิดวันพุธ) เวลา 12.00-14.30 น. และ 18.00-22.30 น. ทางร้านรับจองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น ไม่รับลูกค้าวอล์กอิน (จองล่วงหน้า 2 วันขึ้นไป) สำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 06-1165-6546 www.facebook.com/ichikathailand หรือที่ IG : ichikaomakase
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
