ประเทศไทยในปัจจุบันยังไม่มีหิมะตก เนื่องด้วยความหนาวเย็นยังไม่ถึงระดับและสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย
แต่กระนั้นเมืองไทยในสถานที่ที่หนาวเย็น ในเช้าวันที่หนาวเย็นมากๆ(สำหรับบ้านเรา) ก็จะมีปรากฏการณ์ “น้ำค้างแข็ง” ที่สามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็นได้ไม่น้อย
ปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง หรือ “แม่คะนิ้ง”ในภาษาอีสาน หรือ“เหมยขาบ”ในภาษาพื้นเมืองเหนือ เกิดจากไอน้ำในอากาศที่ใกล้ๆกับพื้นผิวดินลดอุณหภูมิลงจนถึงจุดน้ำค้าง จากนั้นก็จะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ โดยอุณหภูมิยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงจุดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง น้ำค้างก็จะเกิดการแข็งตัวกลายเป็นน้ำค้างแข็ง เกาะอวดโฉมตามยอดไม้ใบหญ้า
ทั้งนี้การเกิดแม่คะนิ้ง ไม่ใช่พอหนาวแล้วก็จะเกิดกันได้ง่ายๆ แต่แม่คะนิ้งจะเกิดก็ต่อเมื่อมีอากาศหนาวจัดจนน้ำค้างยอดหญ้าหรือยอดไม้แข็งตัว ในอุณหภูมิประมาณศูนย์องศาเซลเซียสหรือติดลบเล็กน้อย
อนึ่งการเกิดแม่คะนิ้งนี้ มันอาจจะน่าสนใจสำหรับใครหลายๆคน เพราะว่ามันช่างแสดงถึงความหนาวเย็น เป็นเกล็ด ดูน่ามอง แต่ว่าจริงๆแล้ว การเกิดแม่คะนิ้งถือว่าสร้างความเสียหายให้แก่ พืชผักต่างๆเป็นจำนวนมาก โดยจะทำให้ข้าวที่กำลังออกรวงมีเมล็ดลีบ ส่วนพืชไร่ก็จะชะงักการเจริญเติบโต พืชผักก็จะมีใบหงิกงอ ไหม้เกรียม ส่วน ผลไม้อย่างกล้วย ทุเรียน มะพร้าวก็จะมีใบแห้ง และร่วงลงในที่สุด ซึ่งหากแม่คะนิ้งเกิดติดต่อกันยาวนาน ถือว่าชาวนา ชาวไร่ ชาวสวนเดือดร้อนแน่นอน
ใครที่อยากชมแม่คะนิ้ง ในเมืองไทยปีไหนที่หนาวมากๆ ก็สามารถลุยความหนาวขึ้นไปดูได้ตามยอดดอยในภาคเหนือ และภาคอีสาน เนื่องจากเป็นที่ที่มีอากาศเย็นจัด โดยที่มีคนเห็นกันบ่อยๆก็อย่างเช่น ดอยอินทนนท์ ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ ภูเรือ จ.เลย ภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก เป็นต้น
*****************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com