xs
xsm
sm
md
lg

ปลุกมนต์เสน่ห์แห่ง “เมืองสงขลา” พร้อมเดินหน้าสู่ “เมืองมรดกโลก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สงขลาย่านเมืองเก่า
“จังหวัดสงขลา” ถือเป็นดินแดนที่ธรรมชาติได้มอบลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งมาให้ เพราะเมืองสงขลามองดูคล้ายคาบสมุทรขนาดย่อมที่พื้นดินถูกขนาบข้างด้วยทะเลสาบสงขลาและทะเลอ่าวไทย จนได้ชื่อว่า “ดินแดนแห่งสองเล” ทำให้เมืองสงขลามีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม อาหารการกินที่อร่อย และมีตำนานเรื่องเล่าที่ควรค่าแก่การเล่าขานมากมาย
วิถีชีวิตของชาวบ้านเกาะยอ
จังหวัดสงขลาจึงดำเนินโครงการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยในปี 2559 จะเริ่มต้นทำการยกระดับกิจกรรมการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐาน ให้เป็นเมืองที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และในปี 2560 ซึ่งจังหวัดสงขลาจะเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาแห่งชาติและกีฬาคนพิการ จึงเป็นโอกาสดีที่จะประกาศให้เป็นปีท่องเที่ยวสงขลา ภายใต้แนวคิด “สงขลามหาสนุก สุขทั้งปีที่สงขลา” (Songkhla Funtastic Awesomeness all year round)

เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เกิดความสนใจและเดินทางมาเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ร่วมสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมทั้งเรียนรู้วิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมด้านต่างๆ และเพื่อสร้างรายได้ให้กับผู้คนในแต่ละท้องถิ่น ด้วยการจัดจำหน่ายสินค้าและอาหารพื้นเมืองให้กับนักท่องเที่ยว
จุดถ่ายรูปบริเวณ Street art ที่ย่านเมืองเก่า
ทางจังหวัดสงขลาจึงเริ่มจากการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ในอำเภอต่างๆ ที่มีเรื่องราวน่าสนใจให้เป็นที่รู้จักผ่านการกระจายข่าวของสื่อมวลชน อย่างเช่นที่อำเภอเมือง ส่วนของ ต.บ่อยาง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามว่า “สงขลาบ่อยาง” มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญคือ “เมืองเก่าสงขลา”

ที่แต่เดิมเคยมีผู้ปกครองเป็นทั้งชาวมุสลิมและชาวจีน ทำให้สถาปัตยกรรมในเมืองเก่านี้มีความหลากหลาย โดยผสมผสานระหว่าง 3 วัฒนธรรมด้วยกัน คือ ไทย จีน และอิสลาม ส่งผลให้ย่านเมืองเก่านี้มีเอกลักษณ์โดดเด่น ในเมืองเก่านี้ ประกอบด้วยถนน 4 เส้นหลักๆ ได้แก่ ถนนนครนอก ถนนนครใน ถนนนางงาม และถนนพัทลุง
สถาปัตยกรรมแบบอิสลาม
“ถนนนครนอก” และ “ถนนนครใน” ประชากรหลักๆ ในสมัยก่อนของย่านนี้จะเป็นคนจีนที่อพยพมา ซึ่งมีความเจริญรุ่งเรืองมาก เพราะเป็นจุดศูนย์กลางการซื้อขายสินค้าจากนานาประเทศ อาคารตึกแถวบริเวณนี้จะเป็นบ้านเรือนเก่าที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ให้ได้เห็นในปัจจุบัน ส่วน “ถนนพัทลุง” จะเป็นชุมชนของชาวมุสลิม มีมัสยิดอุสาสนอิสลามที่มีความสวยงามตั้งเด่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งอาหารมุสลิมเปิดให้บริการตลอดทั้งวัน
โจ๊กเกาะไทยที่ถนนนางงาม
ส่วนไฮไลต์ของย่านเมืองเก่านี้ก็คือ “ถนนนางงาม” หรือชื่อในอดีตคือ “ถนนเก้าห้อง” ที่เปลี่ยนเป็นชื่อถนนนางงามก็เพื่อเป็นเกียรติให้กับนางงามสงขลาคนแรกที่มีบ้านอยู่บนถนนสายนี้ และถนนนางงามยังถูกเรียกว่าเป็น “ถนนสายอาหารแห่งเมืองสงขลา” เพราะจะมีอาหารท้องถิ่นและร้านของฝากเรียงรายอยู่ตลอดความยาวถนนนี้เลย

มาถนนสายอาหารแห่งเมืองสงขลาก็ต้องไม่พลาดที่จะชิมร้านอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ เช่น ร้านโจ๊กเกาะไทย, ร้านก๋วยเตี๋ยวเสี่ยงโชค, ร้านเกียดฟั่ง (โกยาว) ข้าวสตู, ร้านก๋วยเตี๋ยวใต้โรงงิ้ว, ร้านไอศกรีมยิว, ร้านอาหารแต้เฮี้ยงอิ้ว รวมถึงร้านขนมไทยหรือขนมท้องถิ่น ที่ล้วนแล้วแต่เป็นร้านดังและมีรางวัลการันตีความอร่อย เหมาะที่จะซื้อเป็นของฝากให้คนพิเศษ
ไอศกรีมยิว
เอกลักษณ์อีกอย่างของย่านเมืองเก่าที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมก็คือ Street art ที่เป็นภาพวาดเรื่องราวของวิถีชีวิตผู้คนในชุมชน อยู่บนผนังอาคารเก่าแก่ ซึ่งเป็นเหมือนแลนด์มาร์กให้ได้มาถ่ายรูปเก็บภาพประทับใจ

และยังมีร้านกาแฟน่ารักๆ ที่เพิ่มเสน่ห์ให้กับบรรยากาศในร้านด้วยการเก็บรวบรวมของเก่า เช่น นาฬิกาโบราณ เครื่องครัว แผ่นเสียง มาเป็นของตกแต่งร้าน ซึ่งช่วยเพิ่มมุมถ่ายรูปเก๋ๆ อีกด้วย
ภายในร้านอ่อง เฮียบ ฮวด ที่รวบรวมของเก่าไว้มากมาย
จากนั้นมาเพิ่มพลังชีวิตเสริมสิริมงคลสักการะ “พระธาตุเจดีย์หลวง” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสงขลาบน “ยอดเขาตังกวน” ที่ อ.เมือง เช่นกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุและเครื่องสักการบูชา ประดิษฐานไว้ ณ พระธาตุเจดีย์หลวง

บนยอดเขาตังกวนนั้นยังมี “ศาลาพระวิหารแดง” พลับพลาที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) และ “ประภาคาร” ที่สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)

นอกจากนั้นหากมองลงมาจากยอดเขาตังกวน จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทั้งวิวทะเลและวิวเมืองสงขลาได้โดยรอบ ปัจจุบันมี “สถานีลิฟต์เขาตังกวน” เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่อยากเดินเท้าขึ้นยอดเขาอีกด้วย
พระธาตุเจดีย์หลวงบนยอดเขาตังกวน
ที่ ต.เกาะยอ เป็นอีกหนึ่งตำบลใน อ.เมือง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อยู่ท่ามกลางทะเลสาบสงขลา รู้จักกันดีในชื่อ “เกาะยอ” ที่ถือได้ว่าเป็นเกาะสวรรค์ของผู้ที่ได้มาพบเห็น เพราะมีทัศนียภาพโดยรอบที่สวยงาม สัมผัสกับวิถีชีวิตและภูมิปัญญาชาวบ้านแบบดั้งเดิมของเกาะยอ รวมทั้งชมบรรยากาศของ “สะพานติณสูลานนท์” ที่ทอดยาวเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ โดยเชื่อมเกาะยอทั้ง 2 ด้านเข้าด้วยกัน

ความพิเศษของเกาะยอที่ถือเป็นจุดขายอีกอย่างก็คือ เป็นแหล่งเพาะเลี้ยง “ปลากะพงเนื้อขาว” ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสด เนื้อนิ่ม และอร่อยที่สุดในประเทศไทย ซึ่งอาจจะคุ้นหูกันในชื่อ “ปลากะพงสามน้ำ” หรือ “ปลากะพงสองน้ำ” เนื่องจากที่เกาะยอจะเพาะเลี้ยงปลากะพงในกระชังปลา ซึ่งน้ำบริเวณนั้นเป็นจุดที่มีทั้งน้ำเค็ม น้ำจืด และน้ำกร่อย หมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา ปลากะพงที่นี่จึงแตกต่างจากที่จังหวัดอื่น
วิวสะพานติณสูลานนท์
นอกจากนั้นยังมีผลิตผลทางการเกษตรที่จะหากินได้เฉพาะที่เกาะยอเท่านั้น คือ “สวา” ซึ่งก็คือ ละมุด นั่นเอง จะมีรสชาติหวานกรอบ และ “จำปาดะ” ผลไม้จำพวกขนุน แต่จะมีรสชาติและกลิ่นที่เข้มข้น หอมมันกว่า อีกสิ่งหนึ่งที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยก็คือ “ผ้าทอลายราชวัตร” ซึ่งเป็นผ้าทอแบบกี่มือที่มีลายเส้นละเอียด มีความประณีต สีสันสดใส นักท่องเที่ยวจึงนิยมซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก สร้างความประทับใจให้ผู้รับอย่างมาก
ปลากะพง 3 น้ำ ของขึ้นชื่อจากเกาะยอ
นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า โครงการ “สงขลามหาสนุก สุขทั้งปีที่สงขลา” เป็น 1 ใน 15 วาระ ที่เป็นเป้าหมายในการพัฒนาและยกระดับให้จังหวัดสงขลาสามารถเที่ยวได้ทุกอำเภอตลอดปี ซึ่งตอนนี้ได้เริ่มพัฒนาและประชาสัมพันธ์ไปแล้วส่วนหนึ่งแล้ว โดยใช้กลยุทธ์ในการวางแผนให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและหยิบของดีของเด่นในอำเภอนั้นๆ มาพัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้นไป

อย่างเช่น ที่ อ.หาดใหญ่ จะเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติและนักชิม นักชอป ซึ่งทางจังหวัดได้เน้นจัดงานที่เกี่ยวกับการกินและความสนุก จึงจัด food & music festival ขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่วนทาง อ.สะเดา จะเน้นกลุ่มเป้าหมายที่มากันเป็นครอบครัว จึงสร้างสวนสนุกและหมู่บ้านวัฒนธรรมอาเซียนเพิ่มขึ้นมา รวมไปถึงบอกเล่าเส้นทางธรรมที่ อ.สทิงพระ กับตำนานหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เป็นต้น
ผ้าทอลายราชวัตร
นอกจากนั้นทางจังหวัดจะเพิ่มพื้นที่สีเขียวบริเวณหาดสมิหลา ตามแนวคิด “สงขลาพฤกษานาคร” โดยจะสร้างสวนหย่อมและปลูกดอกไม้เมืองร้อน ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดถ่ายรูปแห่งใหม่ รวมไปถึงการพัฒนาระบบคมนาคมให้มีความสะดวก เดินทางภายในจังหวัดง่ายขึ้น เช่น สร้างด่านที่ อ.สะเดา เชื่อมไป อ.หาดใหญ่ สร้างรถไฟฟ้ารางคู่ เป็นต้น
หลวงปู่ทวด วัดพะโคะ อ.สทิงพระ
โครงการทั้งหมดที่ได้วางไว้เป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้จังหวัดสงขลาเป็นเมืองที่มีบรรยากาศการท่องเที่ยวเป็นเสมือนดินแดนแห่งความสนุกสนาน โดยผ่านนิยามของคำว่า “สนุกกิน สนุกชอป สนุกเที่ยว” เพื่อชี้ให้กลุ่มเป้าหมายเห็นถึงความสุขที่จะได้รับจากการมาเยือนจังหวัดสงขลาตลอดทั้งปี

ทางจังหวัดสงขลาและกลุ่มภาคีคนรักสงขลา จึงรวมพลังช่วยกันพัฒนาฟื้นฟูบ้านเมือง หยิบยกมรดกทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ประชาสัมพันธ์ให้เห็นถึงคุณค่าและความโดดเด่นของเมืองสงขลา เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนผลักดันเข้าสู่การขึ้นเป็น “เมืองมรดกโลก” นั่นเอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น