สถาปัตยกรรมที่งดงามปรากฏขึ้น ณ เบื้องทิศตะวันออกของ พระที่นั่งอนันตสมาคม ในพระราชวังดุสิตแห่งนี้ มีชื่อเรียกว่า “เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สถาบันสิริกิติ์ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จัดสร้างขึ้นในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ทรงพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ และยังพระราชทานนามด้วยพระองค์เอง อันหมายถึง เรือนยอดที่สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติในโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งใหญ่ ด้วยเหตุอันดีแบบนี้ฉันจึงไม่รีรอช้า ขอเข้าไปชมถึงความยิ่งใหญ่และความสวยงามตระการตา “เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์” ด้วยสายตาของฉันเอง
ก่อนหน้านั้นฉันได้ทราบมาว่า ประเทศไทยมีเรือนยอด 5 ยอด เท่านั้น สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นั่นก็คือ พระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ จึงถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมไทยที่มีจำนวนยอดมากที่สุด สร้างเป็นเรือนยอด 9 ยอดตามรัชกาล ซึ่งความพิเศษของเรือนยอดหลังนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงเลือกสถานที่ก่อสร้างเรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ด้วยพระองค์เอง โดยเลือกจากหลักฐานภาพเก่าในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ทรงโปรดสร้าง “พลับพลาโถง” ซึ่งเมื่อขุดลงไปก็เจอฐานรากโบราณของพลับพลาเดิมตรงนั้น
ในส่วนของรูปแบบ เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ นั้น เป็นอาคารจัตุรมุขโถง ยกพื้นสูง โครงสร้างเป็นสแตนเลสทั้งหลัง ส่วนประกอบตกแต่งทั้งหมดจะหล่อด้วยโลหะผสมและงานหินอ่อน โดยมีงานจำหลักไม้ต้นแบบทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือของช่างศิลปาชีพของสถาบันสิริกิติ์ สวนจิตรลดา ทั้งสิ้น โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2557 แล้วเสร็จในต้นเดือนมิถุนายน 2559 รวมเวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 847 วัน สร้างขึ้นตามคติความเชื่อเรื่อง เขาพระสุเมรุ เปรียบเสมือนเรือนยอด เป็นเขาพระสุเมรุ ที่ประทับของพระอินทร์ ดังนั้นบนสนามหญ้าทั้งด้านซ้ายและขวาของเรือนยอดฯ ทั้ง 4 ด้าน จึงถูกออกแบบให้มีสระน้ำ จำนวน 4 สระ เป็นสัญลักษณ์ของสระอโนดาดซึ่งอยู่ทางทิศทั้งสี่ของเขาพระสุเมรุ
หัวบันไดทางขึ้นเรือนยอดฯ นั้น แต่ละด้านจะออกแบบเป็น ศีรษะมนุษยนาค หรือ นาคจำแลงทรงเครื่อง ซึ่งในแต่ละทิศจะออกแบบไม่ซ้ำกันเลย เป็นโลหะหล่อ ครีบสองข้างบันไดประดับด้วยลำตัวพญานาคทรงเครื่อง ส่วนเครื่องบนส่วนหลังคานั้น ประกอบด้วยยอดประธานตรงกลาง โดยมีไขรา ออกแบบเป็นรูปช้างเอราวัณ 3 เศียร หล่อสำริด ประดับกระจก ซึ่งก็คือช้างทรงของพระอินทร์ เทพผู้ครองเขาพระสุเมรุ ตรงกลางของยอดประธานและยอดรองทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออก ประดับ พรหมพักตร์สี่หน้า เปรียบเสมือนพระมหากษัตริย์ทรงเฝ้าดูแลทุกข์สุขของราษฎร เครื่องยอดหลักทั้งสามยอดนี้ ซ้อนชั้นลดหลั่นเป็น 5 ชั้น ขณะที่เครื่องยอดทั้ง 9 ยอดปราสาทประดับด้วย บันแถลง นาคปัก และ บราลี เป็นโลหะหล่อ ปิดทอง ประดับกระจก ปลายยอดทุกยอดประดับ พุ่มข้าวบิณฑ์ โลหะหล่อลงรักปิดทองประดับกระจก สวยงามอลังการทั้ง 9 ยอด
ฉันเดินสังเกตดู จะพบเห็นว่าด้านหน้าบรรณของเรือนยอดฯ มีทั้งหมด 8 บรรณนั้น ยังได้เชิญรูปอักษรพระปรมาภิไธย รูปอักษรพระนามาภิไธย และรูปอักษรพระนามของพระบรมวงศานุวงศ์ในรัชกาล ประดิษฐานอย่างงดงาม และมีประติมากรรมหล่อรูปช้างเผือกประจำรัชกาลปัจจุบันทั้ง 10 ช้าง อยู่โดยรอบ ซึ่งมีการเก็บรายละเอียดทุกส่วนอย่างประณีต
ถือว่า เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ เป็นผลงานโดดเด่นอีกชิ้นหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นความจงรักภักดีและการรวมใจเป็นหนึ่งของช่างฝีมือทุกฝ่าย ที่ได้สร้างสถาปัตยกรรมชิ้นยอดความงาม ที่นำศิลปะผสมผสานกันแต่ละยุค ทั้งอยุธยา รัตนโกสินทร์ตอนต้น-ตอนกลาง ทำงานทุกชิ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงให้ประชาชนทั่วไปได้ชมความสวยงามของเรือนยอดฯ แห่งนี้
ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชม เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ ในงานศิลป์แผ่นดิน ครั้งที่ 7 ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ระหว่างเวลา 10.00-16.30 น. ประชาชนทั่วไปบัตรราคา 150 บาท นักเรียน-นักศึกษา(แสดงบัตรประจำตัว) 75 บาท ปิดทุกวันจันทร์ เทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ วันรัฐธรรมนูญ (ปิดการจำหน่ายบัตร 16.00 น.) ผู้เข้าชมกรุณาแต่งกายสุภาพ สุภาพบุรุษห้ามใส่กางเกงขาสั้นและกางเกงยีนส์ สุภาพสตรีกรุณาสวมกระโปรงหรือผ้าซิ่น ห้ามใส่เสื้อไม่มีแขน สอบถามโทร.0 2283 9411 หรือ www.artsofthekingdom.com
* * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com