เนื่องในโอกาสมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี พุทธศักราช 2559 และในโอกาสมหามงคลที่จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา5ธันวาคม 2560 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งใหญ่นี้ สถาบันสิริกิติ์ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จึงจัดสร้าง “เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์” เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติในวาระสำคัญของล้นเกล้าล้นกระหม่อมทั้งสองพระองค์ รวมทั้งเฉลิมพระเกียรติ เด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5รอบ 28 กรกฎาคม 2555 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ ฃ5 รอบ 2 เมษายน 2558 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี จะทรงเจริญพระชันษาครบ 5 รอบ 4 กรกฎาคม 2560 และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเจริญพระชันษาครบ 5 รอบ 5 เมษายน พุทธศักราช 2554
โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามว่า “เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์” อันมีความหมายว่า “เรือนยอดที่สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติในโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งใหญ่” โดยเรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์หลังนี้ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต มีลักษณะเป็นเรือนโถงมียอดทรงปราสาท ๙ ยอด ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมของกรุงรัตนโกสินทร์ ที่สร้างขึ้นด้วยถาวรวัตถุอันประกอบด้วยโลหะผสม และหินอ่อน มีการปิดทองประดับกระจกและตกแต่งด้วยจิตรกรรมในส่วนต่างๆ ทั้งเรือนยอด
ความพิเศษของเรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ทั้งหลังนี้ นอกจากจะเป็นโลหะหลังแรกของประเทศไทยแล้วเท่านั้น ความวิจิตรงดงามทั้งหมดที่ปรากฎแก่สายตาทุกคู่นั้น ล้วนเป็นฝีมือของช่างแกะสลักไม้ จากสถาบันสิริกิติ์ อันเป็นลูกหลานชาวไร่ชาวนา ที่ครั้งหนึ่งสองมือเคยกำเคียวเกี่ยวข้าว แทบทั้งสิ้น แต่ได้รับพระราชทานโอกาสให้เข้ามาฝึกปรือฝีมือ จนกลายเป็น “ช่างหลวง” ฝากฝีมืออันวิจิตรตจนกลายเป็นศิลปกรรมชิ้นเอกของแผ่นดินนี้ไว้ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวไทยและชาวโลกสืบต่อไป
เรือนยอดนั้น มีทั้งสิ้น 5 หน้าบัน ได้อัญเชิญรูปอักษรพระปรมาภิไธย รูปอักษรพระนามาภิไธย และรูปอักษรพระนาม ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กรมหลวงสงขลานครินทร์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอนันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และรูปอักษรพระนามของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ประดิษฐานอยู่ ณ เพดานกลางของเรือนยอด
สำหรับชั้นฐานไพทีของเรือนยอดมีประติมากรรมหล่อโลหะรูปช้างสำคัญประจำรัชกาลปัจจุบัน ทั้งหมด ๑๐ ช้าง และภูมิทัศน์โดยรอบสร้างเป็นสระน้ำ ๔ สระ คือ สระอโนดาตซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเขาพระสุเมรุอันเป็นแหล่งรวมน้ำจากมหานทีทั้งหมดในจักรวาลของพุทธศาสนา โดยสระทั้งสี่นั้นแต่ละสระจะมีรูปประติมากรรมโลหะสัมฤทธิ์หล่อรูป ช้าง ม้า โค และสิงห์ อันหมายถึง ต้นกำเนิดของแม่น้ำสำคัญสี่สายในชมพูทวีป
พสกนิกรชาวไทยสามารถร่วมชื่นชมผลงานอันวิจิตรบรรจงของลูกหลานเกษตรกรผู้รังสรรค์ และสืบทอดศิลปะช่างฝีมือได้ ในนิทรรศการครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี “ศิลป์แผ่นดินครั้งที่ 7” ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต โดยเข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน2559 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.(ปิดจำหน่ายบัตรเวลา 16.00 น. )
ปิดให้ชมทุกวันจันทร์ เทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ และวันรัฐธรรมนูญ บัตรราคา 150 บาท สำหรับประชาชนทั่วไป และ 75 บาท สำหรับนักเรียนนักศึกษา (แสดงบัตรประจำตัว) ผู้เข้าชมกรุณาแต่งกายสุภาพ ห้ามใส่กางเกงขาสั้นและกางเกงยีนส์ สุภาพสตรีกรุณาใส่กระโปรงหรือผ้าซิ่น ห้ามใส่เสื้อไม่มีแขน สอบถามรายละเอียดที่ โทร. 02-283-9477 , 02-283-9185 หรือที่ www.artsofthekingdom.com