หลังจากมีการจัดระเบียบ “ปากคลองตลาด” ไปไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ อาจจะมีหลายคนสงสัยว่าพ่อค้าแม่ค้านั้นได้ย้ายไปขายดอกไม้ที่ไหนกัน เกิดอะไรขึ้นกับปากคลองตลาดในตอนนี้ ฉันจึงขออาสาเดินสำรวจปากคลองตลาดแห่งนี้อีกครั้ง หลังจากไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ฉันเคยไปเดินปากคลองตลาดมาครั้งหนึ่ง ก่อนที่ปากคลองตลาดจะถูกจัดระเบียบ เพื่อเก็บภาพความวุ่นวายของผู้คนในยามค่ำคืน ที่เรียกว่า ยิ่งดึกยิ่งคึกคัก กับกลิ่นดอกไม้นานาพันธุ์ที่หอมกรุ่นตลอดเส้นทางของตลาดดอกไม้แห่งนี้ มาในวันนี้ปากคลองตลาดได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง จะยังคงเป็นตลาดดอกไม้ในความทรงจำเหมือนเดิมของทุกคนหรือเปล่า
“ปากคลองตลาด” นั้นตั้งอยู่บริเวณถนนจักรเพชร ยาวไปจนถึงถนนมหาราช ตั้งโอบล้อมวัดราชบูรณะ โรงเรียนราชินี และ โรงเรียนสวนกุหลาบ แต่ก่อนที่จะมาเป็นตลาดบนบกแบบนี้ ปากคลองตลาดเคยเป็นแหล่งค้าขายทางน้ำมาก่อน จนกระทั่งมีการคมนาคมทางบกที่สะดวกขึ้น มีการสัญจรทางน้ำลดลง ตัวตลาดจึงได้ขยายออกมาอยู่ริมถนนมากขึ้น
นอกจากนี้แล้ว ปากคลองตลาดยังเคยเป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่ง มีทั้งเรือจากแม่น้ำท่าจีนที่ส่งปลาผ่านมาทางแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สมัยสถาปนากรุงเทพฯ เป็นราชธานี ก็มีการขุดคลองหลายสาย รวมถึง “คลองตลาด” ซึ่งเป็นคลองเล็กข้างวัดบุรณศิริมาตยาราม และใกล้ ๆ กันก็มีคลองขุดเดิมอยู่ ชื่อว่า “คลองใน” ทั้งสองคลองนี้เน้นการค้าขายปลาเป็นหลัก จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดฯ เรียกตลาดนี้ว่า “ตะพานปลา” ต่อมาในภายหลัง มีการย้ายตลาดค้าปลาไปแถว ๆ หัวลำโพงแทน ตลาดแห่งนี้เลยกลายสภาพเป็นตลาดสดที่เน้นขายสินค้าเกษตร ผัก ผลไม้ และ ดอกไม้
แต่เมื่อทาง กทม. ได้เข้ามาจัดระเบียบบริเวณปากคลองตลาด ไม่ให้มีการวางขายของบริเวณทางเดินเท้าริมถนน ตั้งแต่สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2559 พ่อค้าแม่ค้าจึงต้องปรับเปลี่ยนไปตามข้อบังคับ แต่อย่างไรก็ตาม ปากคลองตลาดก็ยังถือว่าเป็นตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเหมือนเดิม
เมื่อถูก กทม. เข้ามาจัดระเบียบ จึงได้มีการอนุโลมให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถตั้งแผงขายริมทางเท้าได้ แต่ต้องเป็นเวลา 20.30 น. เป็นต้นไป ฉันมาเดินก่อนช่วงหน้านั้นตั้งแต่เย็นจนถึงหัวค่ำ บรรยากาศริมทางเท้าจึงเงียบเหงา ไม่คึกคัก ไม่มีร้านแผงลอยมาขาย ส่วนมากจะตั้งขายกันอยู่ข้างในตลาดกัน แต่พอถึงเวลา 20.30 น. จะมีเสียงตีระฆังดังไปทั่วปากคลองตลาดจากเทศกิจ นั่นเป็นสัญญาณคอยบอกให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถมาตั้งแผงลอยริมทางเท้าขายดอกไม้ได้เหมือนเช่นวันวานในอดีตที่เป็นเสน่ห์ของปากคลองตลาด
ความคึกคักเริ่มมากขึ้น พ่อค้าแม่ค้าจะเข็นของดอกไม้มาตั้งแผงกันอย่างรวดเร็ว เพียงประมาณ 15 นาที ปากคลองตลาดก็กลายเป็นตลาดดอกไม้เหมือนเดิม เป็นภาพที่แปลกตาแปลกใจ และอาจจะกลายเป็นเสน่ห์แห่งใหม่ของปากคลองตลาดแห่งนี้ก็ได้ ฉันเกิดความสงสัยว่าการออกมาตั้งแผงลอยริมทางเท้าแบบนี้จะตั้งถาวรตลอดไปไหม จึงได้เดินไปสอบถามเทศกิจ จึงได้ความว่า “การอนุญาตให้วางขายบนริมทางเท้านั้นเป็นการผ่อนผันให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของ อนุโลมให้ถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนจะยังไงต่อต้องรอฝ่ายจัดการแจ้งอีกที” จึงเป็นที่เข้าใจแล้วว่าการตั้งตลาดตรงริมทางเท้านั้นได้แค่สิ้นเดือนมิถุนายนเท่านั้น ส่วนจะยังไงต่อต้องรอทางการแจ้งอีกที
ในที่สุดเมื่อฉันมองดูนาฬิกาประมาณ 21.00 น. ถนนเส้นนี้ก็เต็มไปด้วยดอกไม้กลายเป็นภาพตลาดที่มีคึกคักและดอกไม้สวย ๆ งาม ๆ กลิ่นหอม ๆ เรียงรายตามสองข้างทาง ทำให้ปากคลองตลาดมีชีวิตชีวาชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ผู้คนต่างหนาตามากขึ้น และเริ่มมีการจับจองซื้อขายดอกไม้ติดไม้ติดมือกันไป
ดังนั้น ฉันจึงขอซื้อพวงมาลัยมาไหว้พระที่บ้านสักหน่อย เลยได้โอกาสถามพ่อค้าแม่ค้าไปด้วยเลย เรื่องที่เกี่ยวกับการขายของริมทางเท้า ซึ่งแม่ค้าขายพวงมาลัยได้บอกกับฉันว่า “ทางเทศกิจได้อนุโลมให้ขายของตั้งแต่ 20.30 - 04.00 น. ตอนแรกคนนึกว่าตลาดไม่มีแล้ว แต่ว่าตอนนี้คนเริ่มรู้และเริ่มมาเดินตลาดกันในช่วงเวลาดังกล่าว บางคนก็มาเดินดูพ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงกัน แต่ถ้าขายดีที่สุดคงช่วงดึกถึงเช้า คนตอนนี้ก็เริ่มมาซื้อเยอะเหมือนเดิม”
ตลาดนั้นได้ตั้งยาวไปถึงหน้า ร.ร.สวนกุหลาบ จากนั้นจะเริ่มบางตาลง แต่ฉันก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นฝั่งตรงข้ามมีตลาดดอกไม้แห่งใหม่ จึงเดินข้ามถนนไปขอแวะดูซะหน่อย ซึ่งตลาดแห่งใหม่จะตั้งอยู่ตรงข้ามกับ ร.ร.สวนกุหลาบ ได้ความว่าเป็นตลาดดอกไม้แห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน ส่วนมากจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอยู่หน้า ร.ร.สวนกุหลาบ ย้ายเข้ามาในนี้ให้ดูเป็นหลักเป็นแหล่งมากขึ้น
ถึงแม้ว่า ปากคลองตลาด ในตอนนี้จะถูกจัดระเบียบและจำกัดเวลา ในช่วงเวลาดังกล่าว ปากคลองตลาดยังกลับมาคึกคักเหมือนเดิม แม้ว่าในอนาคตการจัดระเบียบปากคลองตลาดนี้จะเป็นอย่างไร ยังคงเหมือนเดิมไหม ไม่มีใครรู้ แต่อย่างไรเสีย “ปากคลองตลาด” ก็จะถูกจารึกประวัติศาสตร์ของไทย ว่าเป็นตลาดขายดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในความทรงจำของทุกคน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว - อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com