การใช้ชีวิตเมืองหลวงย่อมเต็มไปด้วยความวุ่นวายและรีบร้อนต้องแข่งกับเวลา จนบางทีละเลยกับการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย “ตะลอนเที่ยว” ขอไปเยือนจังหวัดที่อยู่ท่ามกลางขุนเขาอย่างจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีหมู่บ้านชนเผ่ามากมายต่างๆ ที่ได้อาศัยรวมตัวกันอยู่เป็นหมู่บ้าน อย่าง “หมู่บ้านเมืองแพม” ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยังคงมีความเป็นเอกลักษณ์และวิถีชีวิตดั้งเดิมและเรียบง่ายให้ได้สัมผัสกัน
“หมู่บ้านเมืองแพม” ตั้งอยู่ที่ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางขุนเขา ส่วนใหญ่คนในหมู่บ้านจะเป็นกะเหรี่ยง หรือ ปกาเกอะญอ ในอดีตสันนิษฐานไว้ว่าอพยพมาจากสองทางใหญ่ๆ ได้แก่ ทางบ้านแม่ยาน อำเภอปาย และห้วยปูลิง อำเภอเมือง ในราวปี พ.ศ. 2500 และได้รับการรับรองเป็นหมู่บ้านอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2504 ปัจจุบันหมู่บ้านเมืองแพมแห่งนี้มี 123 คาเรือน และมีประชาชนกว่า 600 คน
ชื่อของหมู่บ้านเมืองแพมนั้น ตั้งตามชื่อลำห้วยในหมู่บ้าน ส่วนคำว่าเมืองนั้น ที่นี่มีเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ดั้งเดิมนั้น โดยมีเรื่องเล่าไว้ว่า บริเวณที่ตั้งหมู่บ้านสมัยก่อนนั้นมีชาวลัวะอาศัยอยู่ โดยดูจากหลักฐานซากเมืองเก่า บริเวณเจดีย์เก่า วังปลา และต่อมามีการย้ายถิ่นฐานออกไปในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะทหารญี่ปุ่นได้ใช้เส้นทางแถวนี้เป็นเส้นทางเดินทัพไปพม่า ต่อมาไม่นานชาวปกาเกอะญอก็ได้อพยพมาอยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบัน
หมู่บ้านเมืองแพมนั้นอยู่ท่ามกลางขุนเขา ทำให้ชาวปกาเกอะญอส่วนใหญ่จะมีอาชีพเกษตรกรรม มีระบบการผลิตข้าวแบบนาดำ (นาขั้นบันได) ควบคู่กับการทำไร่ข้าวทั้งข้าวไร่และไร่หมุนเวียน มีอาณาเขตที่ชัดเจน เป็นสิทธิตามวิถีการผลิตแบบดั้งเดิมที่มีมาก่อนการประกาศพื้นที่เป็นป่าสงวนหรือเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า ส่วนมากจะผลิตเพื่อยังชีพ เพื่อกินเพื่ออยู่ เช่นการปลูกพืชไว้กินเอง เลี้ยงสัตว์ไว้กิน หาเก็บผักจากป่า การจับปลาในลำห้วย ที่นี่ชาวบ้านจะนับถือศาสนาพุทธเป็นหลัก ส่วนน้อยจะนับถือศาสนาคริสต์ ความพิเศษของหมู่บ้านแห่งนึ้คือ การยึดถือชีวิตดั้งเดิมเอาไว้ให้คงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นวิถีการดำรงชีวิต ประเพณีวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงทำให้หมู่บ้านเมืองแพมแห่งนี้ เป็นหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ทำให้หมู่บ้านเมืองแพมเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ติดอันดับต้นๆ ของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่นี่ได้พัฒนากิจกรรมท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการสร้างความร่วมมือของคนในชุมชน และมีระบบการบริหารจัดการที่ชุมชนมีส่วนร่วม จนมีการจัดตั้งเป็นกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านเมืองแพมในปี 2555 โดยมีจุดสนใจเรื่องการเดินป่าและการเที่ยวถ้ำ และให้นักท่องเที่ยวสัมผัสถึงวิถีการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิม ประเพณีวัฒนธรรม อาหารการกิน อยู่แบบโฮมสเตย์ร่วมกับชาวบ้าน เป็นการแลกปลี่ยนความรู้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านอีกด้วย
อย่างภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อของหมู่บ้านเมืองแพมคือ การทอผ้าย้อมสีธรรมชาติ ผ้าทอกะเหรี่ยง นับว่าเป็นผ้าทออีกชนิดหนึ่งที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องรูปแบบลวดลาย การทอผ้าของผู้หญิงเมืองแพมนั้น มีทั้งการทอไว้ใช้ การทอและการแปรรูปไว้ขาย การใช้สีในการย้อมสีจากธรรมชาติที่ได้จากการหาวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น เปลือกไม้ ลูกไม้ โดยจะนำใยฝ้ายไปต้มกับวัตถุดิบกับธรรมชาติ นาน 30 นาที ถ้าอยากให้สีติดทนนานขึ้นก็จะใส่ขี้สนิมที่ได้จากในแอ่งน้ำมาต้มด้วย จากนั้นล้างออกให้สีตกนำผึ่งที่ร่ม สีที่เด่นๆ และนิยมใช้ เช่น สีเขียวอ่อน จะได้จากไม้เพกาผสมกับสารส้ม สีน้ำตาลจะได้จากไม้สัก เป็นต้น แล้วนำไปทอโดยใช้กี่เอว ทอมือปักลายผ้า ส่วนมากลายผ้าก็จะเป็นดอกไม้ต่างๆ ที่ชาวบ้านพบเห็นคุ้นเคย ตัวอย่างของงานหัตถกรรมที่ขายในหมู่บ้าน อาทิ เสื้อผู้หญิง เสื้อผู้ชาย ผ้าพันคอ ผ้าห่ม ผ้าปูโต๊ะ ย่าม เป็นต้น ผ้าเมืองแพมจึงถือว่าเป็นงานฝีมือแท้ๆ มีคุณค่าและสวยงามอย่างยิ่ง
นอกจากงานทอผ้าของเมืองแพมแล้ว งานจักสาน ก็ถือว่ามีฝีมืออย่างยิ่ง ใช้ไม้ไผ่ในการสานเป็นหลัก นำไม้ไผ่ในป่าที่ป้องยาวๆ โตพอตัดมาทำสาน โดยจะเหลาไม้ไผ่ด้วยมีดคม จากนั้นนำไม้ไผ่มาสาน ส่วนมากจะสานสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันเช่น กระบุงใส่ไก่ ตะกร้าใส่ของ กระด้งฝัดข้าว เป็นหลัก ซึ่งงานออกมาประณีต ใช้ทนทานและเป็นอุปกรณ์ที่ในชีวิตประจำวันของชาวปกาเกอะญอ
งานจักสานแล้ว งานแกะสลัก ก็เยี่ยมยอดไม่แพ้กัน งานแกะสลักที่นี่จะขึ้นชื่อในการแกะชิ้นเดียว จะไม่มีการนำมาต่อใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นจะแกะชิ้นเดียว จึงต้องมีความชำนาญอย่างมาก ใช้ความประณีตเป็นอย่างมากทำให้แกะสลักแต่ละชิ้นนั้นมีชิ้นเดียวในโลก ส่วนมากจะแกะสลักไม้เนื้อแข็งเป็นหลัก เช่น ไม้สัก เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีเรื่องของสมุนไพรต่างๆ โดยมี “หมอเสวา” หมอสมุนไพรชาวบ้าน ที่มาสอนเกี่ยวกับสมุนไพรต่างๆ ที่ได้จากการหาในป่า เช่น พญาเสือโคร่ง นำมาต้มกินจะช่วยเป็นยาบำรุงธาตุในร่างกาย และยังมีสมุนไพรอื่นๆ อีกมากมายที่มีประโยชน์
ภูมิปัญญาเหล่านี้ยังคงไว้ที่หมู่บ้านเมืองแพมแห่งนี้ นอกจากนั้นหมู่บ้านเมืองแพมยังมีนโยบายให้คนอยู่ร่วมกับป่า จึงร่วมกันอนุรักษ์ไม้ป่าไม้ รอบๆ หมู่บ้าน ไม่เผาไม่ทำลายโดยไร้เหตุ รวมทั้งยังอนุรักษ์พันธุ์ปลาที่วังปลา ไม่จับปลาในช่วงฤดูวางไข่ ป่าไม้ในหมู่บ้านเมืองแพมจึงมีความอุดมสมบูรณ์ให้เห็นเป็นส่วนมาก การเดินเข้าไปชมนั้นโดยเราต้องใช้เท้าเดินในการสำรวจเส้นท่องเที่ยวป่าชุมชนระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร โดยจะผ่านผืนที่นาทำไร่ของชาวบ้านที่ถูกจำกัดพื้นที่ไว้ ซึ่งชาวบ้านได้ตกลงกันไว้ว่าการทำนาข้าวนั้น ก็เพื่อนำข้าวที่ได้มาเก็บไว้กินเองในหมู่บ้าน ไม่นำมาขายเด็ดขาด
เดินผ่านผืนนาก็จะพบกับผืนป่าที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ โดยมีดินโป่ง ที่เป็นแหล่งอาหารสัตว์ป่า มีแร่ธาตุต่างๆ มารวมกันในที่แห่งนี้ ทำให้ที่นี่ยังคงมีสัตว์ป่าบางชนิดคอยมากินดินโป่งเหล่านี้อยู่ ส่วนมากจะเป็นพวกเก้ง กวาง ที่หลงเหลือ นอกจากนั้นที่นี่ยังสามารถพบนกหลากหลายชนิด เช่น นกแก้ว ภาษาของชาวปกาเกอะญอ จะเรียกว่า โทกิ และนกอื่นๆ อีกมากมายในที่แห่งนี้อีกด้วย
และที่ไฮไลต์ในหมู่บ้านแห่งนี้ไม่ควรพลาด นั่นคือ ถ้ำยาว ซึ่งเป็นถ้ำหินย้อยที่มีความสวยงามและสมบูรณ์ ถ้ำยาว นั้นเป็นชื่อที่ชาวบ้านใช้เรียกมานานเพราะว่าลักษณะภายในถ้ำมีความยาวอย่างมาก และทำให้ต้องเดินเข้าไปลึกกว่าถ้ำอื่นๆที่อยู่ในหมู่บ้านเมืองแพม ปากทางเข้าถ้ำยาวนั้นจะมีลมพัดเย็นตลอดเวลา การเดินเข้าไปชมหินย้อยนั้น ช่วงปากถ้ำจะเป็นทางที่ยากลำบากและคับแคบที่สุด จากนั้นถ้ำก็จะโล่งเป็นโถงขนาดใหญ่ ภายในถ้ำก็จะมีหินงอกหินย้อยหลากรูปทรงที่สวยงามและสมบูรณ์ มีรูปทรงลักษณะต่างๆ เช่น เต่า แกะ ตามจินตนการของผู้คนที่พบเห็น นอกจากนั้นภายในถ้ำยังมีฝูงค้างคาวอาศัยอยู่ และงูบางชนิด นักท่องเที่ยวที่จะเข้าเยี่ยมชมถ้ำยาวนั้น จะต้องติดต่อไกด์ท่องเที่ยวของหมู่บ้านนำชมเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ความสวยงามนั้นถูกทำลาย ห้ามเอามือไปลูบ หรือ แตะต้องหินงอก หินย้อยหรือแม้กระทั่งผนังถ้ำเด็ดขาดเพราะมันจะเป็นการทำลายให้ถ้ำไม่สมบูรณ์และสวยงาม นอกจากนั้นเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเองด้วย
ด้วยความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้าน ทำให้หมู่บ้านเมืองแพมเป็นหมู่บ้านที่มีความสวยงามไปในทุกด้าน ทั้งด้านการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย สืบสานประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมของตัวเอง สืบทอดภูมิปัญญานำมาใช้ในชีวิตประจำวัน และระลึกพื้นที่อยู่อาศัยอย่างผืนป่าเสมอ จึงเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของหมู่บ้านเมืองแพมที่คงไว้ น่ามาเยี่ยมเยือนอย่างยิ่ง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
นักท่องเที่ยวที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร. 0-5361-2982, กลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านเมืองแพม โทร. 08-7789-3354
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com