กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับ 14 หน่วยงานภาครัฐ - เอกชน จัดงาน “ใต้ร่มพระบารมี 234 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” (The 234th Year of Rattanakosin City under Royal Benevolence) ระหว่างวันที่ 20 - 24 เม.ย. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ในราชวงศ์จักรี ในการฉลองครบรอบวันสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ 234 ปี
กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับ 14 หน่วยงานภาครัฐ - เอกชน จัดงาน “ใต้ร่มพระบารมี 234 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” (The 234th Year of Rattanakosin City under Royal Benevolence) วันที่ 20 - 24 เม.ย. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ในราชวงศ์จักรี ในการฉลองครบรอบวันสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ 234 ปี โดยจะนำเสนอกิจกรรมทางศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม และส่งเสริมให้คนไทยได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของราชวงศ์จักรี และความหลากหลายทางวัฒนธรรมของสังคมไทย เช่น นิทรรศการภาพเก่าเล่าเรื่องกรุงรัตนโกสินทร์ กิจกรรมการเดินริ้วขบวนใต้ร่มพระบารมีจักรีวงศ์ การแสดงทางวัฒนธรรม กิจกรรมทางศาสนา ลานการละเล่นความสุขวิถีไทย การจัดแสดงนิทรรศการและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทยและของดีบ้านฉันทั่วไทย กิจกรรมของสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร สวนพักผ่อนถ่ายรูป กิจกรรมเชิงท่องเที่ยวประวัติศาสตร์รอบเกาะรัตนโกสินทร์ และจุดเทียนถวายพระพร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรี และฉลองครบ 234 ปีกรุงรัตนโกสินทร์
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ กล่าวว่า ตลอดการจัดงานทั้ง 5 วัน กระทรวงวัฒนธรรมได้เตรียมจัดกิจกรรมหลัก ๆ จำนวน 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 กิจกรรมที่จัดบริเวณท้องสนามหลวง โดยในวันที่ 20 เม.ย.จะมีพิธีทางศาสนา ได้แก่ พิธีบวงสรวงเทพยดาและดวงวิญญาณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ยาธิราชเจ้า ส่วนวันที่ 21 เม.ย. จะมีการทำบุญตักบาตร สักการะศาลหลักเมือง และการสักการะพระปฐมบรมราชานุสาวรีย์ และพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา รวมถึงมีกิจกรรมไหว้พระ 9 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 9 รัชกาล ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดอรุณราชวราราม วัดราชโอรสาราม วัดราชประดิษสถิตมหาสีมาราม วัดเบญจมบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดสุทัศนเทพวราราม และวัดพระราม 9 กาญจนภิเษก โดยสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น.
นอกจากนั้น ยังมีเวทีท้องสนามหลวงจัดการแสดงทางวัฒนธรรมจากทุกภูมิภาคของไทย ไฮไลต์ที่การแสดงโขนโดยกรมศิลปากร การแสดงลีลาศโดยวงสุนทราภรณ์ การแสดงคอนเสิร์ตศิลปินแห่งชาติ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ, ผ่องศรี วรนุช และการจัดจำหน่ายของดีบ้านฉัน ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ กว่า 500 บูท พร้อมลานวิถีไทย จัดแสดงการแสดงพื้นบ้าน สะท้อนวิถีชีวิตและความเชื่อของสังคมที่สืบทอดมาแต่โบราณ เช่น กระบี่กระบอง การละเล่นเสือกินวัว วิถีชีวิตชุมชนรัตนโกสินทร์ เป็นการจำลองวิถีชีวิตชุมชนที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน และมีการอนุรักษ์ สืบสานและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม เช่น ชุมชนบางลำพู การสาธิตการทำอาหารข้าวหมกไก่ และขนมไทย ขนมเบื้องไทย เป็นต้น การประกวดกุลสตรีศรรัตนโกสินทร์ เพื่อแสดงถึงความงดงามและงามอย่างมีคุณค่าของกุลสตรีไทย จากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นทูตวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยทั้งในและนอกประเทศ
ส่วนที่ 2 การจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมอาเซียน นำเสนอความหลากหลายทางวัฒนธรรมอันแสดงถึงอัตลักษณ์ของอาเซียน ความเป็นภูมิภาคที่มีรากวัฒนธรรมเดียวกันเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้มรดกร่วมทางศิลปวัฒนธรรม สร้างการยอมรับในความต่าง ความคล้าย และความเหมือนท่ามกลางหลากหลายในอาเซียน รวมทั้งความตระหนักในการเป็นประชาคมอาเซียนที่เป็นหนึ่งเดียวกัน ผ่านกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมต่างๆ 9 กิจกรรม ได้แก่ 1.มหกรรมรามายณะอาเซียน ที่โรงละครแห่งชาติ โดยคณะนักแสดงกว่าร้อยคน จาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจา คือ กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และอินเดีย 2.การแสดงแฟชั่นโชว์ “สานต่อผ้าอาเซียนเปลี่ยนภูมิปัญญาให้ร่วมสมัย” ที่บริเวณท้องสนามหลวง 3.การจัดแสดง สาธิต และจำหน่าย “งานหัตถศิลป์ถิ่นอาเซียน” ที่บริเวณท้องสนามหลวง 4.มุมถ่ายภาพกับ “เมืองจำลองอาเซียน” ที่บริเวณท้องสนามหลวง 5.ครัวอาเซียน “ลิ้มรสอาหารอาเซียน” ที่บริเวณท้องสนามหลวง 6.นิทรรศการและสาธิต “ว่าวอาเซียน” ที่บริเวณท้องสนามหลวง 7.ภาพยนตร์คลาสสิกแห่งอาเซียน ที่บริเวณท้องสนามหลวง เป็นการจัดฉายภาพยนตร์จากประเทศสมาชิกอาเซียน คัดเลือกจากภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและได้รับรางวัลจากเวทีนานาชาติ รวมทั้งการจัดฉายภาพยนตร์คลาสสิกอมตะเป็นที่ยอมรับในวงการภาพยนตร์ ซึ่งจัดที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และภูมิภาคที่ ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ 8.นิทรรศการ “รากแห่งวัฒนธรรมอาเซียน” จัดแสดงศิลปวัตถุของอินโดนีเซียและกัมพูชา ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และจัดแสดงถึงความหลากหลายทางมหกรรมอาเซียน 3 ห้อง ได้แก่ ห้องที่ 1 ศิลปะเอเชีย และการก่อกำเนิดรัฐโบราณในประเทศไทย ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย ห้องที่ 2 ลพบุรี หรือ เขมรในประเทศไทย แสดงหลักฐานสถาปัตยกรรมและประติมากรรมทั้งที่สร้างขึ้นเนื่องในศาสนาฮินดูและพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน และห้องที่ 3 ประติมากรรมศิลปะชวา แสดงศิลปะโบราณวัตถุศิลปะชวา และ 9.การสัมมนา “อัตลักษณ์ร่วมในวรรณกรรมอาเซียน” บูรณาการองค์ความรู้และแนวคิดในการปฏิบัติงานด้านภาษาและวรรณกรรมกับงานวิชาการที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งเป็นการเผยแพร่ความรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับวรรณกรรมของประเทศต่างๆ ในประชาคมอาเซียนให้เป็นที่เข้าใจและแพร่หลายกว้างขวางยิ่งขึ้น
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. สายด่วนวัฒนธรรม 1765
*****************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com